คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
บริรักษ์จรรยาวัตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 571 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยเกินอัตรา ศาลพิจารณาตามเจตนาคู่สัญญา
โจทก์กู้เงินจำเลย แต่จำเลยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา จึงเลี่ยงทำเป็นสัญญาขายฝากที่ดินโดยจำเลยผู้ซื้อฝากจะไม่เอาที่ดินหลุดเป็นสิทธินั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเจตนาจะผูกพันกันตามสัญญาขายฝาก นิติกรรมขายฝากย่อมตกเป็นโมฆะ (แต่เข้าแบบเป็นนิติกรรมกู้เงิน ซึ่งโจทก์ให้ที่ดินจำเลยยึดถือไว้เป็นประกัน จึงบังคับกันได้)
คดีแพ่งนั้น โจทก์ไม่จำต้องอ้างบทกฎหมายอย่างคดีอาญา เพียงแต่โจทก์บรรยายข้อเท็จจริงและคำขอมาก็พอแล้ว เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องยกบทกฎหมายขึ้นปรับแก่ข้อเท็จจริงนั้น ๆ เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากที่ไม่ผูกพันจริง ศาลวินิจฉัยเป็นนิติกรรมกู้เงินได้
โจทก์กู้เงินจำเลยแต่จำเลยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา จึงเลี่ยงทำเป็นสัญญาขายฝากที่ดินโดยจำเลยผู้ซื้อฝากจะไม่เอาที่ดินหลุดเป็นสิทธินั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเจตนาจะผูกพันกันตามสัญญาขายฝากนิติกรรมขายฝากย่อมตกเป็นโมฆะ(แต่เข้าแบบเป็นนิติกรรมกู้เงิน ซึ่งโจทก์ให้ที่ดินจำเลยยึดถือไว้เป็นประกัน จึงบังคับกันได้)
คดีแพ่งนั้น โจทก์ไม่จำต้องอ้างบทกฎหมายอย่างคดีอาญาเพียงแต่โจทก์บรรยายข้อเท็จจริงและคำขอมาก็พอแล้ว เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องยกบทกฎหมายขึ้นปรับแก่ข้อเท็จจริงนั้นๆ เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1485/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน แม้ผู้ร้องไม่ได้ลงนาม สิทธิในการฟ้องบังคับตามสัญญา
โจทก์เคยนำยึดห้องแถวบนที่ดินของผู้ร้องโดยอ้างว่าเป็นของจำเลยลูกหนี้ ตามคำพิพากษามาครั้งหนึ่งแล้ว ผู้ร้องร้องคัดค้านว่า ห้องแถวที่ยึดเป็นของผู้ร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอน การยึดฟ้องแถวดังกล่าวมีข้อความว่า ในวันนี้โจทก์ได้รับเงิน 2,100 บาท จากผู้ร้องไปเรียบร้อยแล้ว โจทก์จึงขอถอนการยึดห้องดังกล่าว และรับว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ใด ๆ บนที่ดินของผู้ร้องอีกต่อไป ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนการยึดได้ ดังนี้ แสดงว่าโจทก์และผู้ร้องได้ตกลงระงับข้อพิพาทเรื่องเถียงกรรมสิทธิในห้องแถวที่โจทก์นำยึดไว้นั้นเสีย โดยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน คือ ผู้ร้องจ่ายเงินให้โจทก์ 2,000 บาท ฝ่ายโจทก์ยอมถอนการยึดห้องแถวและรับว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ใด ๆ บนที่ดิน ของผู้ร้องอีก จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 ต่อมาโจทก์จะนำยึดห้องแถวบนที่ดินของผู้ร้องนั้นอีกหาได้ไม่ เมื่อโจทก์นำยึดห้องแถวบนที่ดินของผู้ร้องนั้นอีก ผู้ร้องก็ย่อมยื่นคำร้องว่ากล่าวในคดีเดิมนั้นได้ โดยหาจำต้องไปฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1485/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลผูกพันและขอบเขตการบังคับใช้ในคดีบังคับคดี
โจทก์เคยนำยึดห้องแถวบนที่ดินของผู้ร้อง โดยอ้างว่าเป็นของจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษามาครั้งหนึ่งแล้ว ผู้ร้องร้องคัดค้านว่าห้องแถวที่ยึดเป็นของผู้ร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนการยึดห้องแถวดังกล่าวมีข้อความว่า "ในวันนี้โจทก์ได้รับเงิน 2,000 บาทจากผู้ร้องไปเรียบร้อยแล้ว โจทก์จึงขอถอนการยึดห้องดังกล่าว และรับว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ใดๆ บนที่ดินของผู้ร้องอีกต่อไป"ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนการยึดได้ ดังนี้ แสดงว่าโจทก์และผู้ร้องได้ตกลงระงับข้อพิพาทเรื่องเถียงกรรมสิทธิ์ในห้องแถวที่โจทก์นำยึดไว้นั้นเสีย โดยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน คือผู้ร้องจ่ายเงินให้โจทก์2,000 บาท ฝ่ายโจทก์ยอมถอนการยึดห้องแถว และรับว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ใดๆบนที่ดินของผู้ร้องอีก จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 ต่อมาโจทก์นำยึดห้องแถวบนที่ดินของผู้ร้องนั้นอีกหาได้ไม่ เมื่อโจทก์นำยึดห้องแถวบนที่ดินของผู้ร้องนั้นอีก ผู้ร้องก็ย่อมยื่นคำร้องว่ากล่าวในคดีเดิมนั้นได้ โดยหาจำต้องไปฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดเครื่องหมายการค้า: การเลียนแบบรูปจรเข้ในเครื่องหมายการค้าจอบ ทำให้สาธารณชนสับสน
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับจอบเป็นรูปจรเข้หันข้างตามยาว หัวไปทางขวา ปลายหางปัดลงเล็กน้อย ส่วนจำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับจอบเป็นรูปจรเข้หันข้างตามยาวในลักษณะเช่นเดียวกัน หันหัวไปทางซ้ายปลายหางปัดขึ้นเล็กน้อย อยู่ในช่องว่างตอนกลางของรูปโลก ซึ่งเว้นว่างไว้กว่า 1 ใน 3 และมีหนังสือภาษาอังกฤษตอนบนเหนือรูปโลกและภาษาจีนใต้รูปโลกแปลว่าลูกโลกจรเข้และมีภาษาไทยเหนือภาษาอังกฤษว่า ลูกโลกจรเข้ทั้งหมดนี้อยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเห็นรูปจรเข้ได้เด่นชัดกว่ารูปโลก ทำให้ผู้ซื้อจอบไม่เห็นข้อแตกต่างระหว่างจอบของโจทก์และของจำเลยแล้ว ก็เห็นได้ว่าเครื่องหมายของจำเลยเลียนรูปและลักษณะจรเข้ของโจทก์เป็นการลวงสาธารณชนให้หลงเข้าใจผิด เป็นละเมิดต่อโจทก์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า รูปจรเข้ ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด เป็นละเมิด
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับจอบเป็นรูปจรเข้หันข้างตามยาว หัวไปทางขวา ปลายปัดลงเล็กน้อย ส่วนจำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับจอบเป็นรูปจรเข้หันข้างตามยาวในลักษณะเช่นเดียวกัน หันหัวไปทางซ้าย ปลายทางปัดขึ้นเล็กน้อย อยุ่ในช่องว่างตอนกลาง ของรูปโจทก์ ซึ่งเว้นว่างไว้กว่า 1 ใน 3 และมีหนังสือภาษาอังกฤษตอนบนเหนือรูปโลกและภาษาจีนใต้รูปโลกแปลว่า ลูกโลกจรเข้ และมีภาษีไทยเหนือภาษาอังกฤษว่า ลูกโลกจรเข้ ทั้งหมดนี้อยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเห็นรูปจรเข้ได้เด่นชัดกว่ารูปโลก ทำให้ผู้ซื้อจอบไม่เห็นข้อแตกต่างระหว่างจอบของโจทก์และและของจำเลยแล้ว ก็เห็นได้ว่าเครื่องหมายของจำเลยเลียนรูปและลักษณะจรเข้ของโจกท์ เป็นการลวงสาธารณชนให้หลงเข้าใจผิด เป็นละเมิดต่อโจทก์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันในละเมิด: แม้แยกแยะความเสียหายไม่ได้ ผู้กระทำร่วมกันต้องรับผิดทั้งหมด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดร่วมในผลที่บุตรผู้เยาว์(ของจำเลย ทำละเมิด จำเลยไม่อุทธรณ์ในข้อนี้ ทั้งยังแก้อุทธรณ์ยอมรับว่าศาลชั้นต้นพิพากษาชอบแล้วจำเลยฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 432 วรรคท้าย เป็นบทบัญญัติสำหรับแยกความรับผิดระหว่างผู้ละเมิดด้วยกัน มิใช่ว่ารับผิดต่อเจ้าหนี้ ซึ่งมีวรรคหนึ่ง บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่าต้องร่วมกันรับผิดใช้ คำว่า "ร่วมกันใช้" มีความหมายว่า แต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิง แต่เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากคนใดทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ถึงกระนั้นลูกหนี้ทั้งหมดก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 291
การทำให้ทรัพย์เขาเสียหายโดยผิดกฎหมายเป็นละเมิด เมื่อร่วมกันกระทำก็เป็นการร่วมกันทำละเมิด และต้องร่วมกันรับผิด กฎหมายมุ่งหมายถึงการกระทำ มิใช่ดูผลของความเสียหายว่าแยกกันได้หรือไม่ แม้จะไม่รู้ตัวว่าคนไหนก่อให้เกิดเสียหาย แต่ถ้าเป็นพวกที่ทำละเมิดร่วมกันแล้ว ก็ต้องรับผิดร่วมกันทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 432

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันในละเมิด: การร่วมกันกระทำละเมิดทำให้ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด แม้แยกแยะความเสียหายไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดร่วมในผลที่บุตรผู้เยาว์ของจำเลยกระทำละเมิดจำเลยไม่อุทธรณ์ในข้อนี้ ทั้งยังแก้อุทธรณ์ยอมรับว่าศาลชั้นต้นพิพากษาชอบแล้ว จำเลยฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 432 วรรคท้าย เป็นบทบัญญัติสำหรับแยกความรับผิดชอบ ระหว่างผู้ละเมิดด้วยกัน มิใช่ว่ารับผิดต่อเจ้าหนี้ ซึ่งมีวรรค + บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่า ต้องร่วมกันรับผิดใช้ คำว่า "ร่วมกันใช้มีความหมายว่า แต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิง แต่เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากคนใดทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ ถึงกระนั้น ลูกหนี้ทั้งหมดก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 291
การทำให้ทรัพย์เขาเสียหายโดยผิดกฎหมายเป็นละเมิด เมื่อร่วมกันกระทำ ก็เป็นการร่วมกันทำละเมิด และต้องร่วมกันรับผิด กฎหมายมุ่งหมายถึงการกระทำ มิใช่ดูผลของความเสียหายว่า แยกกันได้หรือไม่ แม้จะไม่รู้ตัวว่าคนไหนก่อให้เกิดเสียหาย แต่ถ้าเป็นพวกที่ทำละเมิดร่วมกันแล้ว ก็ต้องรับผิดร่วมกันทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์มาตรา 432

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกรอกวันออกเช็คที่ยังไม่ได้ระบุวัน: ผู้ทรงเช็คต้องกรอกตามความเป็นจริงเพื่อผูกพันอายุความ
เช็คที่มิได้ลงวันออกเช็คนั้น ผู้ทรงเช็คได้แต่จะกรอกวัน เดือน ปีลงตามที่ถูกต้องแท้จริงเท่านั้น เพราะผู้สั่งจ่ายเช็คและผู้สลักหลังย่อมประสงค์ที่จะผูกพันโดยอายุความอยู่ด้วยเสมอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คลงวันที่ไม่สมบูรณ์ ผู้ทรงเช็คกรอกวันเดือนปีตามความจริงได้ แต่ต้องไม่เกินอายุความ
เช็คที่มิได้ลงวันออกเช็คนั้น ผู้ทรงเช็คได้แต่จะกรอกวันเดือนปีลงตามที่ถูกต้องแท้จริงเท่านั้น เพราะผู้สั่งจ่ายเช็คและผู้สลักหลังย่อมประสงค์ที่จะผูกพันโดยอายุความอยู่ด้วยเสมอ
of 58