คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อนุสสรนิติสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 337 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578-1580/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องฐานปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน การลงโทษตามวรรคสี่ของมาตรา 340 ต้องระบุการใช้ปืนยิง
บรรยายฟ้องเรื่องปล้นทรัพย์ว่าจำเลยกับพวกใช้ปืนมีด และไม้เป็นอาวุธทำร้ายเจ้าทรัพย์เป็นอันตรายแก่ร่างกาย โดยมิได้บรรยายว่า ใช้อาวุธปืนยิง ดังนี้ จะลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ฐานปล้นโดยใช้ปืนยิงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์สินจากการแบ่งทรัพย์ระหว่างคู่ความไม่สมบูรณ์ และการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินส่วนตัว
เป็นสามีภริยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์กัน แล้วเจ้าหนี้ของสามีฟ้องสามียึดทรัพย์ที่จะแบ่งมาขายทอดตลาด ดังนี้สามีจะขอสืบพยานในคดี (ที่ถูกยึดทรัพย์) ว่าเป็นหนี้ร่วม เพื่อให้เจ้าหนี้เอาชำระจากทรัพย์สินส่วนของภริยาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์สินจากการแบ่งทรัพย์ระหว่างคู่ความที่ไม่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย และการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินส่วนตัว
เป็นสามีภริยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์กัน แล้วเจ้าหนี้ของสามีฟ้องสามียึดทรัพย์ที่จะแบ่งมาขายทอดตลาด ดังนี้สามีจะขอสืบพยานในคดี (ที่ถูกยึดทรัพย์) ว่าเป็นหนี้ร่วม เพื่อให้เจ้าหนี้เอาชำระจากทรัพย์สิน ส่วนของภริยาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวติชมเจ้าพนักงานและการยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาทจากการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน
จำเลยซึ่งเป็นครูใหญ่ประชาบาลกล่าวว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นนายอำเภอว่าไม่เป็นประชาธิปไตยโดยบังคับให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเลือกคนที่ผู้เสียหายชอบ ถ้าใครไม่เลือกก็ไม่ขอเงินเดือนขึ้นให้ นั้น ถ้อยคำที่กล่าวนี้ ถ้าเป็นความจริง ก็ถือได้ว่า เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน เพราะการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรอันเป็นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยนี้ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของราษฎรผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง
อนึ่ง ที่จำเลยกล่าวว่า การทำทำนบผู้เสียหายไม่ทำตามคำพูด ทำงานไม่ขาวสะอาด นั้น เมื่อได้ความว่า ผู้เสียหายเป็นกรรมการขุดบ่อน้ำ ได้รับอนุมัติให้ใช้เงินขุดสระแต่ใช้ไปครึ่งเดียว จำเลยซึ่งเป็นกรรมการร่วมด้วยรวมทั้งผู้ใหญ่บ้านได้ขอให้ผู้เสียหายนำเงินที่เหลือมาทำทำนบเพื่อกักไว้บริโภค โดยผู้เสียหายตกลงจะซื้อปูนซิเมนต์ส่งมาให้ แต่ผู้เสียหายได้เอาเงินที่เหลือไปใช้จ่ายทางอื่นโดยมิได้ให้จำเลยทราบ การทำทำนบจึงไม่เสร็จ ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวจึงเป็นการกล่าวโดยสุจริตและอยู่ในวิสัยของการติชม ไม่เป็นผิดฐานหมิ่นประมาท
การกล่าวที่จะเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ต้องเป็นเรื่องเจ้าพนักงานกระทำตามหน้าที่หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ถ้าเป็นการนอกหน้าที่แล้ว กรณีหาเข้ามาตรานี้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นความผิดหมิ่นประมาท: การติชมโดยสุจริต, ประโยชน์สาธารณะ, และการกระทำนอกหน้าที่
จำเลยซึ่งเป็นครูใหญ่ประชาบาลกล่าวว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นนายอำเภอว่าไม่เป็นประชาธิปไตย โดยบังคับให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเลือกคนที่ผู้เสียหายชอบ ถ้าใครไม่เลือกก็ไม่ขอเงินเดือนขึ้นให้ นั้น ถ้อยคำที่กล่าวนี้ ถ้าเป็นความจริง ก็ถือได้ว่าเป็นประโยชน์แก่สาธารณชนเพราะการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรอันเป็นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยนี้ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
อนึ่ง ที่จำเลยกล่าวว่า "การทำทำนบผู้เสียหายไม่ทำตามคำพูด ทำงานไม่ขาวสอาด" นั้น เมื่อได้ความว่าผู้เสียหายเป็นกรรมการขุดบ่อน้ำ ได้รับอนุมัติให้ใช้เงินขุดสระแต่ใช้ไปครึ่งเดียว จำเลยซึ่งเป็นกรรมการร่วมด้วยรวมทั้งผู้ใหญ่บ้านได้ขอให้ผู้เสียหายนำเงินที่เหลือมาทำทำนบเพื่อกักน้ำไว้บริโภคโดยผู้เสียหายตกลงจะซื้อปูนซิเมนต์ส่งมาให้ แต่ผู้เสียหายได้เอาเงินที่เหลือไปใช้จ่ายทางอื่นโดยมิได้ให้จำเลยทราบ การทำทำนบจึงไม่เสร็จ ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวจึงเป็นการกล่าวโดยสุจริตและอยู่ในวิสัยของการติชม ไม่เป็นผิดฐานหมิ่นประมาท
การกล่าวที่จะเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 ต้องเป็นเรื่องเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ถ้าเป็นการนอกหน้าที่แล้ว กรณีหาเข้ามาตรานี้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่น แม้ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ใช้สืบได้
ทำหนังสือสัญญากู้เงินกัน แล้วต่อมาตกลงชำระหนี้ด้วยทรัพย์อย่างอื่น แม้จะมิได้ทำหลักฐานการชำระหนี้หรือเวนคืนหรือแทงเพิกถอนหนังสือสัญญากู้ก็ย่อมนำสืบการชำระหนี้เช่นนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่น แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ใช้ได้
ทำหนังสือสัญญากู้เงินกัน แล้วต่อมาตกลงชำระหนี้ด้วยทรัพย์อย่างอื่น แม้จะมิได้ทำหลักบานการชำระหนี้หรือเวนคืนหรือแทงเพิกถอนหนังสือสัญญากู้ ก็ย่อมนำสืบการชำระหนี้เช่นนั้นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นส่วนควบของเรือน: พิจารณาจากความจำเป็นในการใช้ประโยชน์ร่วมกันและการแยกออกจากกันโดยไม่ทำให้เสียหาย
จำเลยสร้างเรือนพิพาทขึ้นเพื่ออยู่กับครอบครัว โดยแยกจากผู้ร้อง ผู้ร้องมีเรือน 2 หลังแฝดอยู่แล้ว เรือนพิพาทปลูกติดกับนอกชานเรือนผู้ร้อง เอาเสาต้นสั้นเกาะจากนอกชาน ถ้าไม่อาศัยเสานอกชานบ้านเก่าด้วยจะปลูกไม่ได้ เช่นนี้ เรือนรายพิพาทมิได้เป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของเรือนผู้ร้อง และอาจเแยกจากกันได้โดยไม่ทำให้เรือนผู้ร้องเสียหายหรือเปลี่ยนรูปทรง อย่างใด เรือนพิพาทจึงมิใช่ส่วนควบของเรือนผู้ร้อง และอาจแยกจากกันได้โดยไม่ทำให้เรือนผู้ร้องเสียหาย หรือเปลี่ยนรูปทรงอย่างใด เรือนพิพาทจึงมิใช่ส่วนควบของเรือนผู้ร้องตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส่วนควบของเรือน: การพิจารณาความเป็นสาระสำคัญและการแยกจากกันได้โดยไม่ทำให้เสียหาย
จำเลยสร้างเรือนพิพาทขึ้นเพื่ออยู่กับครอบครัว โดยแยกจากผู้ร้อง ผู้ร้องมีเรือน 2 หลังแฝดอยู่แล้ว เรือนพิพาทปลูกติดกับนอกชานเรือนผู้ร้อง เอาเสาต้นสั้นเกาะจากนอกชาน ถ้าไม่อาศัยเสานอกชานบ้านเก่าด้วยจะปลูกไม่ได้ เช่นนี้เรือนรายพิพาทมิได้เป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของเรือนผู้ร้อง และอาจแยกจากกันได้โดยไม่ทำให้เรือนผู้ร้องเสียหายหรือเปลี่ยนรูปทรงอย่างใด เรือนพิพาทจึงมิใช่ส่วนควบของเรือนผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์: พิพากษาได้แม้โจทก์อุทธรณ์จำเลยบางส่วน
คดีอาญา ถ้าศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่ลงโทษหรือลดโทษให้จำเลยหากเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ถึงแม้โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวเฉพาะจำเลยอื่นที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยคนที่ถูกศาลชั้นต้นลงโทษในความผิดฐานเดียวกันหรือต่อเนื่องกันได้ คู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ไม่สำคัญตามฎีกาที่1031/2498(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503)
of 34