คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อนุสสรนิติสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 337 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทเลินเล่อในการขับรถ: จำเลยขับผิดทาง ผู้เสียหายไม่มีใบอนุญาตไม่ถือเป็นเหตุประมาท
เพียงแต่ปรากฏว่า ผู้เสียหายไม่มีใบอนุญาตให้ขับขี่เท่านั้นยังไม่เป็นเหตุที่จะทำให้ฟังว่าประมาทเลินเล่อได้ในเมื่อทางพิจารณาปรากฏว่า จำเลยขับรถผิดทางเข้าไปชนรถผู้เสียหายเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282-1288/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตมาตรา 94(2) พ.ร.บ.ล้มละลาย: การรับชำระหนี้เมื่อเจ้าหนี้รู้ถึงสถานะหนี้สินล้นพ้นตัว และการโอนหนี้
ความหมายของมาตรา 94 (2) แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 นั้น ไม่จำเป็นจะต้องปรากฏว่ามีการสมยอมกันระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ในการกระทำหนี้ขึ้น เพียงแต่ว่าในเวลาที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำหนี้ขึ้น เจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ก็ขอรับชำระหนี้นั้นไม่ได้
ถ้าหนี้เดิมยังเป็นของผู้โอน ผู้โอนก็ย่อมขอรับชำระหนี้ได้ เมื่อมีการโอนหนี้ดังกล่าวนี้แล้ว ผู้รับโอนย่อมขอรับชระหนี้นั้นได้ เพราะเป็นเพียงแต่เปลี่ยนตัวผู้ขอชำระหนี้ กรณีเช่นนี้ ไม่เข้าตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94 (2) เพราะเป็นหนี้เดิมที่โอนมา ไม่ใช่เป็นหนี้อันเจ้าหนี้ได้ยอมให้ลูกหนี้ (ผู้ล้มละลาย) กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282-1288/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขต มาตรา 94(2) พ.ร.บ.ล้มละลาย: การยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้เมื่อทราบภาวะล้มละลาย และการโอนหนี้
ความหมายของ มาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 นั้น ไม่จำเป็นจะต้องปรากฏว่ามีการสมยอมกันระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ในการกระทำหนี้ขึ้น เพียงแต่ว่าในเวลาที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำหนี้ขึ้น เจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ก็ขอรับชำระหนี้นั้นไม่ได้
ถ้าหนี้เดิมยังเป็นของผู้โอน ผู้โอนก็ย่อมขอรับชำระหนี้ได้ เมื่อมีการโอนหนี้ดังกล่าวนี้แล้ว ผู้รับโอนย่อมขอรับชำระหนี้นั้นได้ เพราะเป็นเพียงแต่เปลี่ยนตัวผู้ขอรับชำระหนี้ กรณีเช่นนี้ ไม่เข้าตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 94(2) เพราะเป็นหนี้เดิมที่โอนมา ไม่ใช่เป็นหนี้อันเจ้าหนี้ได้ยอมให้ลูกหนี้(ผู้ล้มละลาย) กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว (ประชุมใหญ่ครั้งที่19/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านและการจับกุมบุคคลโดยไม่มีหมายจับ ถือเป็นการกระทำโดยมิชอบตามกฎหมาย
กำนันไม่มีอำนาจสั่งให้ผู้ใหญ่บ้านจับคนไปส่งอำเภอในข้อหาว่า กระทำผิดคดีอาญา โดยไม่มีหมายจับเมื่อผู้ใหญ่บ้านกระทำตามคำสั่งของกำนัน ย่อมมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 (อ้างฎีกาที่ 75/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านไม่มีอำนาจจับกุมโดยไม่มีหมายจับ การกระทำตามคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กำนันไม่มีอำนาจสั่งให้ผู้ใหญ่บ้านจับคนไปส่งอำเภอในข้อหาว่า กระทำผิดคดีอาญา โดยไม่มีหมายจับ เมื่อผู้ใหญ่บ้านกระทำตามคำสั่งของกำนัน ย่อมมีผิดตามประมวลกฎหมาย มาตรา 310
(อ้างฎีกาที่ 75/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1081-1082/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเหนือห้องเช่า: สัญญาเช่าสิ้นอายุ การเสนอเช่าต่อโดยไม่ได้รับการตอบรับถือเป็นสัญญาใหม่มิได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องพิพาท ซึ่งเป็นของโจทก์เพราะสัญญาเช่าสิ้นอายุ การที่จำเลยเช่าที่ดินซึ่งปลูกห้องพิพาทจากวัดไม่อาจทำให้จำเลยมีสิทธิเหนือห้องพิพาท ซึ่งเป็นของโจทก์ได้
โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยแล้ว การที่จำเลยเพียงแต่ตอบโจทก์ไปว่าต้องการเช่าต่อในอัตราค่าเช่าเดิมนั้น ถือไม่ได้ว่าได้มีสัญญาเช่ากันต่อไป เพราะโจทก์ไม่ได้สนองรับว่าจะให้เช่าในอัตราค่าเช่าเท่าเดิมตามที่จำเลยเสนอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 978/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอแก้โทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3(1) ต้องเกิดก่อนใช้กฎหมายใหม่
ที่จำเลยจะร้องขอให้ศาลกำหนดโทษจำเลยเสียใหม่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3(1) นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย และคดีถึงที่สุดไปแล้วก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายอาญา คือ วันที่ 1 ม.ค. 2500 ถ้าคดีของจำเลยมาถึงที่สุดลงเมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ออกใช้เสียแล้วกรณีก็ไม่อยู่ในบังคับ มาตรา 3(1) แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่ศาลจะแก้กำหนดโทษเสียใหม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยถึงความหนักเบาของโทษตามกฎหมายเก่าใหม่แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 978/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอแก้ไขโทษภายหลังประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับ ต้องเป็นคดีถึงที่สุดก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2500
ที่จำเลยจะร้องขอให้ศาลกำหนดโทษจำเลยเสียใหม่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 (1) นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย และคดีถึงที่สุดไปแล้วก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายอาญา คือวันที่ 1 ม.ค. 2500 ถ้าคดีของจำเลยมาถึงที่สุดลง เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ออกใช้เสียแล้ว กรณีก็ไม่อยู่ในบังคับ มาตรา 3 (1) แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่ศาลจะแก้กำหนดโทษเสียใหม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยถึงความหนักเบาของโทษตามกฎหมายเก่าใหม่แต่อย่างใดด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยนำสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แม้ไม่ซักค้านพยานโจทก์ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในคดีอาญา เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะนำสืบให้ตนพ้นจากความผิดได้ แม้ว่าจำเลยจะมิได้ซักค้านพยานโจทก์ไว้ก่อน เกี่ยวกับข้อที่จำเลยนำสืบนั้นเลยก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการนำสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แม้ไม่ได้ซักค้านพยานโจทก์
ในคดีอาญา เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะนำสืบให้ตนพ้นจากความผิดได้ แม้ว่าจำเลยจะมิได้ซักค้านพยานโจทก์ไว้ก่อน เกี่ยวกับข้อที่จำเลยนำสืบนั้นเลยก็ตาม
of 34