คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จิตติ ติงศภัทิย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,113 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการกระทำผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร การกระทำของคนขับรถถือเป็นการร่วมกระทำผิด
ขณะจำเลยที่ 1 ลงไปฉุดผู้เสียหายขึ้นรถ จำเลยที่ 2 จอดรถติดเครื่องรอคอยอยู่ในระยะใกล้ๆ จำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายแล้ว จำเลยที่ 2 ได้ออกรถขับไปทันที การกระทำตั้งแต่แรกที่จำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายมาขึ้นรถตลอดจนพาผู้เสียหายไปหลังจากผู้เสียหายขึ้นรถแล้ว ยังคงถือว่าเป็นการกระทำผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารอยู่ตลอดเวลา การกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ขับรถพาผู้เสียหายกับจำเลยที่ 1 ไปจึงเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพาผู้เสียหายไป เป็นการร่วมกระทำผิดกันตามมาตรา 83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายความในชั้นร้องขัดทรัพย์: ไม่ต้องซ้ำหากมีทนายความในคดีหลัก
การพิจารณาในชั้นร้องขัดทรัพย์ เป็นการพิจารณาในเรื่องที่โจทก์ฟ้องจำเลยนั้นเอง เมื่อโจทก์ได้แต่งตั้งทนายความไว้ในเรื่องนั้นแล้ว ในชั้นร้องขัดทรัพย์โจทก์จึงไม่ต้องแต่งตั้งทนายความซ้ำอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายความในคดีร้องขัดทรัพย์: โจทก์ไม่ต้องแต่งตั้งซ้ำหากมีทนายความในคดีหลัก
การพิจารณาในชั้นร้องขัดทรัพย์ เป็นการพิจารณาในเรื่องที่โจทก์ฟ้องจำเลยนั้นเอง เมื่อโจทก์ได้แต่งตั้งทนายความไว้ในเรื่องนั้นแล้ว ในชั้นร้องขัดทรัพย์โจทก์จึงไม่ต้องแต่งตั้งทนายความซ้ำอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการสั่งรื้ออาคารและการตรวจสอบดุลพินิจ ศาลไม่แทรกแซงหากชอบด้วยกฎหมาย
การที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารได้แจ้งให้โจทก์เลิกใช้และรื้อถอนอาคารเพราะอยู่ในสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่ปลอดภัยซึ่งน่าจะเป็นอันตรายแก่ร่างกาย ชีวิตหรือทรัพย์สิน และโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ได้มีมติให้ยกอุทธรณ์แล้วนั้น โจทก์จะมาฟ้องศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นโดยอ้างแต่เพียงว่าอาคารของโจทก์ยังมั่นคงแข็งแรงมิได้ เพราะไม่ปรากฏว่าในการวินิจฉัยเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและคณะกรรมการได้กระทำการนอกเหนือความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าการวินิจฉัยของจำเลยหรือคณะกรรมการเป็นการวินิจฉัยโดยไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุน และการวินิจฉัยของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นการวินิจฉัยตามอำนาจในมาตรา 12 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2504 มิใช่เป็นการใช้อำนาจศาล จึงไม่ขัดต่อธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนคำสั่งรื้อถอนอาคาร: ศาลยืนตามดุลพินิจเจ้าหน้าที่ หากไม่เกินอำนาจและมีเหตุผลสนับสนุน
การที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารได้แจ้งให้โจทก์เลิกใช้และรื้อถอนอาคารเพราะอยู่ในสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่ปลอดภัยซึ่งน่าจะเป็นอันตรายแก่ร่างกาย ชีวิตหรือทรัพย์สินและโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ได้มีมติให้ยกอุทธรณ์แล้วนั้น โจทก์จะมาฟ้องศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นโดยอ้างแต่เพียงว่าอาคารของโจทก์ยังมั่นคงแข็งแรงมิได้ เพราะไม่ปรากฏว่าในการวินิจฉัยเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและคณะกรรมการได้กระทำการนอกเหนือความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าการวินิจฉัยของจำเลยหรือคณะกรรมการเป็นการวินิจฉัยโดยไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุน และการวินิจฉัยของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นการวินิจฉัยตามอำนาจในมาตรา 12 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 มิใช่เป็นการใช้อำนาจศาล จึงไม่ขัดต่อธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของเวลาเกิดเหตุในฟ้องอาญา: 'เที่ยง' หมายถึง 12.00 น. ทำให้ฟ้องไม่เคลือบคลุม
"โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2507 เวลากลางคืน ก่อนเที่ยง........"
ตามปกติคำว่า "เที่ยง" นั้น หมายถึงเวลา 12.00 น. เพราะฉะนั้นเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง โจทก์นี้จึงหมายถึงส่วนที่เป็นเวลากลางคืนของวันที่ 10 นั้น ซึ่งเป็นเวลาก่อน 12 น. ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1195/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของเวลาเกิดเหตุในฟ้องอาญา: 'เที่ยง' หมายถึง 12.00 น. ฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2507 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง......"
ตามปกติคำว่า "เที่ยง" นั้น หมายถึงเวลา 12.00 น. เพราะฉะนั้นเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง โจทก์นี้จึงหมายถึงส่วนที่เป็นเวลากลางคืนของวันที่ 10 นั้น ซึ่งเป็นเวลาก่อน 12 น. ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตปลูกอาคารชิดเขตที่ดินและการละเมิดสิทธิของเจ้าของที่ดินข้างเคียง
การที่เทศบาลอนุญาตให้จำเลยปลูกอาคารชิดแนวเขตที่ดินของโจทก์โดยไม่เว้นระยะ 50 เซนติเมตรอันเป็นการฝ่าฝืนเทศบัญญัตินั้น เทศบัญญัตินี้มิได้บัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันมิให้ที่ดินข้างเคียงราคาตกต่ำและมิใช่กฎหมายที่ประสงค์จะปกป้องโจทก์ จะถือว่าการฝ่าฝืนกฎหมายนั้นเป็นการทำให้โจทก์เสียหายโดยผิดกฎหมายเพราะเหตุนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 422 ยังมิได้ การกระทำของเทศบาลยังไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1351 มิได้บัญญัติถึงกับให้เจ้าของที่ดินติดต่อต้องงดเว้นไม่ก่อสร้างสิ่งใดลงใกล้แนวเขตที่ดินเสียเลยและตลอดไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตปลูกอาคารชิดเขตที่ดิน: กฎหมายไม่ได้คุ้มครองราคาที่ดินหรือห้ามก่อสร้างใกล้เขต
การที่เทศบาลอนุญาตให้จำเลยปลูกอาคารชิดแนวเขตที่ดินของโจทก์โดยไม่เว้นระยะ 50 เซนติเมตร อันเป็นการฝ่าฝืนเทศบัญญัตินั้น เทศบัญญัตินี้มิได้บัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันมิให้ที่ดินข้างเคียงราคาตกต่ำและมิใช่กฎหมายที่ประสงค์จะปกป้องโจทก์ จะถือว่าการฝ่าฝืนกฎหมายนั้นเป็นการทำให้โจทก์เสียหายโดยผิดกฎหมายเพราะเหตุนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 422 ยังมิได้ การกระทำของเทศบาลยังไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1351 มิได้บัญญัติถึงกับให้เจ้าของที่ดินติดต่อต้องงดเว้นไม่ก่อสร้างสิ่งใดลงใกล้แนวเขตที่ดินเสียเลยและตลอดไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134-1135/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง และการกำหนดค่าเสียหายตามความร้ายแรงแห่งละเมิด
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญานั้น แม้คดีอาญาโจทก์จะมิใช่คู่ความ แต่เมื่อจำเลยเป็นคู่ความ ศาลก็ต้องฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญาผูกพันจำเลย เมื่อโจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีอาญาซึ่งอัยการได้ฟ้องจำเลย โจทก์จำเลยก็ต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีอาญานั้นด้วย
ในกรณีละเมิดซึ่งโจทก์ผู้หนึ่งมีส่วนผิดอยู่ด้วย แต่โจทก์อีกผู้หนึ่งมิได้มีส่วนทำผิดร่วมด้วยนั้น ในการกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ผู้มิได้มีส่วนผิดแม้จะไม่นำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442 มาใช้ แต่ศาลก็มีอำนาจพิจารณาพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดของจำเลยและกำหนดค่าสินไหมทดแทนตามมาตรา 438 ได้คือ เมื่อมีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยต้องรับผิดเต็มตามความเสียหายทั้งหมดแต่ผู้เดียว ศาลก็ไม่จำต้องให้จำเลยต้องรับผิดเต็มตามความเสียหายนั้นเสมอไป
of 112