คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จิตติ ติงศภัทิย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,113 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิโจทก์ในการยึดทรัพย์จำนองโดยไม่ต้องบังคับคดีกับผู้กู้ก่อน
จำเลยที่ 1 ผู้กู้ และจำเลยที่ 2 ผู้จำนองค้ำประกันเงินกู้นั้นทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลให้ไว้ต่อโจทก์ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินโจทก์ ถ้าผิดสัญญาประนีประนอมนั้น ยอมให้โจทก์ยึดที่ดินที่จำนองค้ำประกันขายทอดตลาดได้เมื่อจำเลยทั้งสองผิดนัดโจทก์ย่อมยึดที่ดินนั้นขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาป้องกันทรัพย์สินเกินสมควร การกระทำโดยเจตนาต่อบุคคลอื่นที่ได้รับผลร้าย
จำเลยเป็นภารโรงมีหน้าที่เฝ้าโรงเรียนได้มีคนร้ายมางัดแงะโรงเรียนซึ่งเก็บของที่มีค่าในเวลาที่จำเลยไม่อยู่
ครั้นจำเลยมา คนร้ายหนีไป จำเลยติดตามไล่จับและใช้อาวุธปืนยิงไปโดยเจตนาป้องกันทรัพย์สินของโรงเรียนกระสุนปืนไปถูกผู้เสียหายการกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นการกระทำโดยเจตนาป้องกันทรัพย์ที่เกินสมควรแก่เหตุ
การที่จำเลยติดตามขับไล่คนร้ายไปแล้วใช้ปืนยิงคนร้ายแต่กระสุนปืนไปถูกผู้เสียหายนั้นเป็นการกระทำที่จำเลยได้มีเจตนาจะกระทำต่อบุคคลหนึ่งแต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 60ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งรับผลร้ายจากการกระทำนั้นการกระทำดังกล่าวของจำเลยไม่เป็นการกระทำโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำต่อบุคคลหนึ่ง ผลกระทบต่ออีกบุคคลหนึ่ง มาตรา 60 ประมวลกฎหมายอาญา ไม่เป็นการกระทำโดยประมาท
จำเลยเป็นภารโรงมีหน้าที่เฝ้าโรงเรียน ได้มีคนร้ายมางัดแงะโรงเรียนซึ่งเก็บของที่มีค่าในเวลาที่จำเลยไม่อยู่ ครั้นจำเลยมา คนร้ายหนีไป จำเลยติดตามไล่จับ และใช้อาวุธปืนยิงไปโดยเจตนาป้องกันทรัพย์สินของโรงเรียน กระสุนปืนไปถูกผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นการกระทำโดยเจตนาป้องกันทรัพย์ที่เกินสมควรแก่เหตุ
การที่จำเลยติดตามขับไล่คนร้ายไปแล้วใช้ปืนยิงคนร้าย แต่กระสุนปืนไปถูกผู้เสียหายนั้นเป็นการกระทำที่จำเลยได้มีเจตนาจะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ผลของการกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 60 ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาแก่บุคคลซึ่งรับผลร้ายจากการกระทำนั้น การกระทำดังกล่าวของจำเลยไม่เป็นการกระทำโดยประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น แม้มีสิทธิจดทะเบียน แต่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยผลิตและจำหน่ายยาสีฟันบรรจุในฉลากกล่องซึ่งมีรูปลักษณะของกล่องและการวางตัวอักษรเหมือนคล้ายกับกล่องเครื่องหมายการค้าของโจทก์ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตามที่ขอจดทะเบียนไว้ก็ตามแต่จำเลยไม่อาจใช้เครื่องหมายการค้านั้นมาประดิษฐ์ดัดแปลงโดยจงใจเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เพราะเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่โจทก์
จำเลยกระทำละเมิดอันเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายแต่ปริมาณแห่งความเสียหายนั้นข้อเท็จจริงยังไม่แจ้งชัดศาลกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น แม้มีสิทธิจดทะเบียนได้ ก็ถือเป็นการละเมิดหากจงใจทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยผลิตและจำหน่ายยาสีฟันบรรจุในฉลากกล่องซึ่งมีรูปลักษณะของกล่องและการวางตัวอักษรเหมือนคล้ายกับกล่องเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตามที่ขอจดทะเบียนไว้ก็ตาม แต่จำเลยไม่อาจใช้เครื่องหมายการค้านั้นมาประดิษฐ์ดัดแปลงโดยจงใจเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เพราะเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่โจทก์
จำเลยกระทำละเมิดอันเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย แต่ปริมาณแห่งความเสียหายนั้น ข้อเท็จจริงยังไม่แจ้งชัด ศาลกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิสูจน์ในคำท้า: จำนวนและขนาดเสาเข็มสำคัญอย่างไรในการทำละเมิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตร ฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตร เป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียง จำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้น ไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุด ส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดิน การท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการพิสูจน์ตามคำท้า การขุดเสาเข็มเพื่อพิสูจน์จำนวนและตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความยาวทุกต้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตรฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตรเป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียงจำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้นไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุดส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดินการท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทนเช่าช่วง แม้ไม่ได้จดทะเบียน ก็มีผลผูกพันตามระยะเวลาที่ตกลงกัน และสิทธิหน้าที่โอนไปยังผู้รับโอนได้
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน ตกลงให้ อ.ปลูกสร้างตึกในที่ดินด้วยทุนทรัพย์ของ อ. โดย อ. ยอมเสียค่าหน้าดินให้โจทก์และโจทก์ตกลงให้อ. เช่าตึกดังกล่าวมีกำหนด 8 ปี และให้สิทธิแก่ อ. ให้เช่าช่วงและเรียกเงินช่วยค่าก่อสร้างได้ด้วย เมื่อปลูกสร้างตึกเสร็จ อ.ให้ญ. เป็นผู้เช่าช่วงห้องรายพิพาทแต่ ญ.โอนสิทธิการเช่าให้แก่จำเลยที่1โดยจำเลยที่1ทำสัญญาเช่าต่ออ.จำเลยที่ 1 เสียเงินค่าก่อสร้างให้ อ.โดยมีกำหนดเวลาเช่า8ปีต่อมา อ. โอนหนี้รายนี้ทั้งสิทธิและหน้าที่แก่น. น. โอนสิทธิต่างๆที่ได้มาจาก อ. ให้โจทก์จำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าห้องรายพิพาทแก่โจทก์ ดังนี้ สัญญาเช่าระหว่างอ. กับจำเลยที่ 1 มิใช่เป็นสัญญาเช่าธรรมดาแต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งคู่สัญญาต่างมีสิทธิและหน้าที่จะต้องปฏิบัติการชำระหนี้ต่อกันตามข้อตกลงอ.ซึ่งได้รับเงินช่วยค่าก่อสร้างจากจำเลยที่ 1 ย่อมมีข้อผูกพันหรือหน้าที่ที่จะให้จำเลยที่ 1 เช่ามีกำหนด 8 ปี แม้จะไม่ได้จดทะเบียนการเช่าก็ตามสัญญาเช่าระหว่าง อ. กับจำเลยที่ 1 จึงมีผลผูกพันโจทก์ตามระยะเวลาที่ อ. กับ จำเลยที่ 1 ตกลงกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทนเช่าช่วง สิทธิหน้าที่โอนได้ แม้ไม่ได้จดทะเบียน
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน ตกลงให้ อ. ปลูกสร้างตึกในที่ดินด้วยทุนทรัพย์ของ อ. โดย อ. ยอมเสียค่าหน้าดินให้โจทก์ และโจทก์ตกลงให้ อ. เช่าตึกดังกล่าวมีกำหนด 8 ปี และให้สิทธิแก่ อ. ให้เช่าช่วงและเรียกเงินช่วยค่าก่อสร้างได้ด้วย เมื่อปลูกสร้างตึกเสร็จ อ. ให้ ญ. เป็นผู้เช่าช่วงห้องรายพิพาท แต่ ญ. โอนสิทธิการเช่าให้แก่จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าต่อ อ. จำเลยที่ 1 เสียเงินค่าก่อสร้างให้ อ. โดยมีกำหนดเวลาเช่า 8 ปี ต่อมา อ. โอนหนี้รายนี้ทั้งสิทธิและหน้าที่แก่ น. น. โอนสิทธิต่าง ๆ ที่ได้มาจาก อ. ให้โจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าห้องรายพิพาทแก่โจทก์ ดังนี้ สัญญาเช่าระหว่าง อ. กับจำเลยที่ 1 มิใช่เป็นสัญญาเช่าธรรมดา แต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งคู่สัญญาต่างมีสิทธิและหน้าที่จะต้องปฏิบัติ การชำระหนี้ต่อกันตามข้อตกลง อ.ซึ่งได้รับเงินช่วยค่าก่อสร้างจากจำเลยที่ 1 ย่อมมีข้อผูกพันหรือหน้าที่ที่จะให้จำเลยที่ 1 เช่ามีกำหนด 8 ปี แม้จะไม่ได้จดทะเบียนการเช่าก็ตาม สัญญาเช่าระหว่าง อ. กับจำเลยที่ 1 จึงมีผลผูกพันโจทก์ตามระยะเวลาที่ อ. กับจำเลยที่ 1 ตกลงกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไม่ไตร่ตรอง: การกระทำผิดเกิดจากความโกรธแค้นขณะเห็นผู้ตาย ไม่ได้มีเจตนายิงมาก่อน
จำเลยถือปืนจะไปยิงกระจงเมื่อเห็นผู้ตายกับพวกเดินมา จำเลยนึกโกรธแค้นผู้ตายเพราะเมื่อสองสามปีที่แล้วบุตรผู้ตายฆ่าบิดาจำเลย จึงแอบยิงผู้ตายตายในขณะนั้นดังนี้ จำเลยหาได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
of 112