คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จิตติ ติงศภัทิย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,113 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไม่ไตร่ตรอง: การกระทำผิดเกิดจากความโกรธแค้นขณะเห็นผู้ตาย ไม่ได้มีเจตนายิงมาก่อน
จำเลยถือปืนจะไปยิงกระจงเมื่อเห็นผู้ตายกับพวกเดินมา จำเลยนึกโกรธแค้นผู้ตายเพราะเมื่อสองสามปีที่แล้วบุตรผู้ตายฆ่าบิดาจำเลย จึงแอบยิงผู้ตายตายในขณะนั้นดังนี้ จำเลยหาได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการเพื่อเบิกจ่ายเงิน จำเลยเจตนาให้เจ้าพนักงานเข้าใจว่าเอกสารนั้นถูกต้อง
บันทึกนำส่งรายงานการเดินทางและรายงานการใช้จ่ายค่าพาหนะและค่าที่พักของตำรวจซึ่งอ้างว่าไปราชการ ข้อความในเอกสารเหล่านี้เป็นความเท็จ และจำเลยได้ปลอมลายเซ็นผู้บังคับบัญชาว่าได้ตรวจเอกสารเหล่านี้แล้วเพื่อจำเลยจะได้ใช้เอกสารเหล่านี้เบิกเงินจากทางราชการกรมตำรวจเอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการเพื่อเบิกจ่ายเงิน จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
บันทึกนำส่งรายงานการเดินทางและรายงานการใช้จ่ายค่าพาหนะและค่าที่พักของตำรวจซึ่งอ้างว่าไปราชการ ข้อความในเอกสารเหล่านี้เป็นความเท็จ และจำเลยได้ปลอมลายเซ็นผู้บังคับบัญชาว่าได้ตรวจเอกสารเหล่านี้แล้วเพื่อจำเลยจะได้ใช้เอกสารเหล่านี้เบิกเงินจากทางราชการกรมตำรวจ เอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานลักทรัพย์โดยมีอาวุธ แม้มีอาวุธแต่ไม่ปรากฏเจตนาข่มขู่หรือใช้กำลังประทุษร้าย
จำเลยกับพวกยืนขวางทางผู้เสียหายจำเลยถือมีดคนหนึ่งถือขวานคนหนึ่ง จับแฮนเดิลรถจักรยานบอกให้ผู้เสียหายลงจากรถ เอาหนังสือท้ายรถออกและพูดว่า ให้รถกูเถอะไม่ได้ความว่าจำเลย ได้แสดงกิริยาอย่างใดอีกที่จะทำให้เข้าใจว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย ไม่ได้ความว่าจำเลยถือมีดและขวานในลักษณะติดตัวไปหรือถือในลักษณะที่เป็นการกระทำให้เห็นว่าจะใช้ทำร้ายผู้เสียหาย คดีไม่พอฟังว่าความผิดจำเลยถึงขั้นปล้นทรัพย์ แต่มีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยมีอาวุธ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โดยมีอาวุธ: การพิจารณาเจตนาใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อวินิจฉัยความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยกับพวกยืนขวางทางผู้เสียหาย จำเลยถือมีดคนหนึ่ง ถือขวานคนหนึ่ง จับแฮนเดิลรถจักรยานบอกให้ผู้เสียหายลงจากรถ เอาหนังสือท้ายรถออกและพูดว่า ให้รถกูเถอะ ไม่ได้ความว่าจำเลยได้แสดงกิริยาอย่างใดอีกที่จะทำให้เข้าใจว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย ไม่ได้ความว่าจำเลยถือมีดและขวานในลักษณะติดตัวไปหรือถือในลักษณะที่เป็นการกระทำให้เห็นว่าจะใช้ทำร้ายผู้เสียหาย คดีไม่พอฟังว่าความผิดจำเลยถึงขั้นปล้นทรัพย์ แต่มีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยมีอาวุธ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักเขตที่ดินของทางราชการไม่ใช่เอกสารปลอม แม้จะนำไปปักในที่ดินที่ไม่ใช่ของตน ไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลย เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งว่าความผิดของจำเลยเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) แล้ว ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในข้อที่ว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 หรือไม่
เมื่อหลักเขตที่ดินของทางราชการไม่ใช่หลักเขตปลอม ข้อความที่ปรากฏในหลักเขตเช่นตัวเลข จึงเป็นของแท้แม้จำเลยจะเอาหลักเขตซึ่งเป็นหลักเขตที่ดินโฉนดที่ 8993 ของจำเลยไปปักลงในที่ดินโฉนดที่ 8996 ของผู้มีชื่อคนหนึ่งหลักเขตที่มีหมายเลขดังกล่าวก็คงเป็นหลักเขตซึ่งมีตัวเลขที่แท้จริง การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายหลักเขตที่ดินไม่ใช่ความผิดฐานปลอมเอกสาร หากหลักเขตนั้นเป็นของแท้
ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ ไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลย เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งว่าความผิดของจำเลยเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) แล้ว ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในข้อที่ว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 หรือไม่
เมื่อหลักเขตที่ดินของทางราชการไม่ใช่หลักเขตปลอม ข้อความที่ปรากฏในหลักเขตเช่นตัวเลข จึงเป็นของแท้ แม้จำเลยจะเอาหลักเขตซึ่งเป็นหลักเขตที่ดินโฉนดที่ 8993 ของจำเลยไปปักลงในที่ดินโฉนดที่ 8996 ของผู้มีชื่อคนหนึ่ง หลักเขตที่มีหมายเลขดังกล่าวก็คงเป็นหลักเขตซึ่งมีตัวเลขที่แท้จริง การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จเพื่อสนับสนุนคดีแพ่ง และการไม่คืนสัญญากู้ ทำให้เกิดการฟ้องร้องโดยใช้เอกสารปลอม
จำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จเพื่อแสดงว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 และยังได้เบิกความเท็จอีกว่าโจทก์ได้พักอยู่กับจำเลยที่ 2 โจทก์ได้บอกจำเลยที่ 2 ว่าไปบ้านยางสินไชยได้เงินมา 1,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้น่าเชื่อว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 จริง ข้อความที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณานั้น จึงเป็นข้อสำคัญในคดีที่จำเลยที่ 1 ฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับสัญญากู้เงินเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา และการไม่คืนสัญญาทำให้เกิดการปลอมแปลง
จำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จเพื่อแสดงว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 และยังได้เบิกความเท็จอีกว่าโจทก์ได้พักอยู่กับจำเลยที่ 2 โจทก์ได้บอกจำเลยที่ 2 ว่าไปบ้านยางสินไชยได้เงินมา 1,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้น่าเชื่อว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 จริงข้อความที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณานั้นจึงเป็นข้อสำคัญในคดีที่จำเลยที่ 1 ฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการทำร้ายร่างกายผู้อื่นและการกระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเจตนา
บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันใช้มีดแทงนายเคนถูกที่หลัง และใช้มีดแทงนายประจิตถูกที่หน้าอก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297, 83 เพียงเท่านี้เป็นการเพียงพอที่จะถือได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษเป็น 2 กระทง
การบรรยายฟ้องเช่นนี้ถือได้ว่า ได้แยกกระทงเรียงเป็นลำดับกันไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 160 แล้ว.
หมายเหตุ คดีนี้ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ทำผิดต่างกรรมผิดกฎหมายหลายกระทง และทั้งไม่ได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องด้วย.
of 112