คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จิตติ ติงศภัทิย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,113 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นผู้อนุบาลของสามีต่อภริยาที่ไร้ความสามารถ และสิทธิของผู้คัดค้านในการเสนอผู้อนุบาลอื่น
ตามปกติสามีย่อมเป็นผู้อนุบาลภริยาซึ่งศาลสั่งว่าเป็นคนไร้ความสามารถ ต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาล เมื่อผู้มีส่วนได้เสียผู้ใดคัดค้านต่อศาล ผู้คัดค้านชอบที่จะนำสืบแสดงเหตุสำคัญให้เห็นว่าศาลควรตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งผู้ดูแล (ผู้อนุบาล) คนไร้ความสามารถ: สามีเป็นผู้ดูแลโดยปกติ แต่ศาลเปิดโอกาสให้คัดค้านและแสดงเหตุผล
ตามปกติสามีย่อมเป็นผู้อนุบาลภริยาซึ่งศาลสั่งว่าเป็นคนไร้ความสามารถต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาลเมื่อผู้มีส่วนได้เสียผู้ใดคัดค้านต่อศาล ผู้คัดค้านชอบที่จะนำสืบแสดงเหตุสำคัญให้เห็นว่าศาลควรตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพกพาอาวุธเข้าในเคหสถานของผู้เสียหาย และการป้องกันตัวที่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่จำเลยพกอาวุธปืนเข้าไปในบริเวณรั้วบ้านผู้ตายในยามวิกาล นับได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นความผิดต่อกฎหมายผู้ตายเมื่อรู้ตัวว่าของหาย แลเห็นจำเลยก็เข้าใจว่าเป็นคนร้ายลักทรัพย์จึงฟันเอา แล้วจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าการที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย เป็นผลจากการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวจำเลยหาอาจป้องกันภยันตรายที่เกิดขึ้นเพราะการกระทำของตนอันเป็นความผิดต่อกฎหมายไม่ได้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282-285/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเป็นมูลหนี้ฟ้องได้ แม้ไม่มีเอกสารกู้
เอกสารที่เป็นหลักฐานการกู้นั้น จำต้องมีเพื่อฟ้องเรียกเงินก็แต่ในกรณีฟ้องตามสัญญากู้เท่านั้น แต่ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่ออกให้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ แม้จะไม่มีเอกสารเป็นหลักฐานการกู้ เช็คนั้นก็เป็นมูลหนี้ที่ฟ้องเรียกเงินได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282-285/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเป็นมูลหนี้ฟ้องได้ แม้ไม่มีเอกสารกู้
เอกสารที่เป็นหลักฐานการกู้นั้น จำต้องมีเพื่อฟ้องเรียกเงินก็แต่ในกรณีฟ้องตามสัญญากู้เท่านั้นแต่ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่ออกให้เพื่อชำระหนี้เงินกู้แม้จะไม่มีเอกสารเป็นหลักฐานการกู้ เช็คนั้นก็เป็นมูลหนี้ที่ฟ้องเรียกเงินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจต้องสมัครด้วยตนเองและมีคุณสมบัติครบถ้วน หากไม่เป็นไปตามข้อบังคับ สมาคมไม่ต้องจ่ายเงินสงเคราะห์
ข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจมีว่า ผู้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมต้องมีสุขภาพสมบูรณ์โดยมีใบรับรองแพทย์ และต้องไปให้กรรมการของสมาคมพิจารณาด้วยตนเอง และผู้สมัครต้องยื่นหนังสือแสดงความจำนงด้วยตนเอง ปรากฏว่าบุคคลผู้ไปยื่นใบสมัครและรับการตรวจโรคเป็นคนอื่น แต่ใช้ชื่อของอีกคนหนึ่งสมัครดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ที่มีชื่อตามใบสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจนั้นโดยชอบ สมาคมไม่มีความผูกพันที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ถูกระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินฌาปนกิจ
แม้ทนายจำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ แต่ได้ยื่นคำร้องและได้แถลงต่อศาลอันเป็นการปฏิบัติในการว่าคดี ศาลคิดค่าทนายให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261-262/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมอายัดเงิน: เจ้าหนี้ผู้ขออายัดไม่ได้รับเงิน ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กำหนด
การที่โจทก์ร้องขออายัดเงินของจำเลย และต่อมาได้มีการจ่ายเงินที่อายัดบางส่วนตามคำพิพากษาให้จำเลยไปเงินอายัดที่จ่ายให้จำเลยนั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีร้อยละ 1 ตามตาราง 5(4)ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพราะเงินจำนวนนี้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ผู้ขออายัดมิได้รับไปเลย กรณีไม่เข้าตาราง 5(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาและการสืบพยานฝ่ายเดียว ศาลมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีได้
ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มาศาลในวันสืบพยานและมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนลงมือสืบพยาน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 197 วรรค 2 ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณา หาใช่ให้ศาลต้องคอยฟังเหตุผลจากฝ่ายนั้นก่อนไม่
ถ้าได้ส่งหมายกำหนดวันสืบพยานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้ว จำเลยขาดนัดพิจารณา หากไม่มีเหตุให้ศาลเห็นเป็นอย่างอื่นแล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 202 ให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
ความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 205 นั้น จะเป็นในวรรค 2 หรือ 3 ก็หมายความเฉพาะกรณีที่จำเลยมาศาล ในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียว ถ้ามาศาลเมื่อพ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบแล้ว ก็ไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานของตนได้
ศาลสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวเสร็จแล้วจำเลยก็มิได้มาศาล จึงไม่ใช่กรณีที่จะให้จำเลยสืบพยานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 205 วรรค 3 (1) ต้องถือว่าเสร็จการพิจารณา (อ้างฎีกาที่ 976/2497, 250/2501).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีแพ่ง: ผลกระทบต่อสิทธิในการสืบพยานและคำพิพากษา
ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มาศาลในวันสืบพยานและมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนลงมือสืบพยาน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรค 2 ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาหาใช่ให้ศาลต้องคอยฟังเหตุผลจากฝ่ายนั้นก่อนไม่
ถ้าได้ส่งหมายกำหนดวันสืบพยานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วจำเลยขาดนัดพิจารณา หากไม่มีเหตุให้ศาลเห็นเป็นอย่างอื่นแล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 202 ให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
ความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 นั้นจะเป็นในวรรค 2 หรือ 3 ก็หมายความเฉพาะกรณีที่จำเลยมาศาลในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียว ถ้ามาศาลเมื่อพ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบแล้ว ก็ไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานของตนได้
ศาลสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวเสร็จแล้วจำเลยก็มิได้มาศาลจึงไม่ใช่กรณีที่จะให้จำเลยสืบพยานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรค 3(1) ต้องถือว่าเสร็จการพิจารณา (อ้างฎีกาที่ 976/2497,250/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องเพิ่มเติมคำให้การเป็นการตั้งประเด็นใหม่ ถือเป็นคำคู่ความ ศาลมีอำนาจสั่งไม่รับได้ และอุทธรณ์ได้ตามขั้นตอน
คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การเป็นการตั้งประเด็นจึงเป็นคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(5)เมื่อคู่ความยื่นคำร้องเข้ามาและศาลพิจารณามีคำสั่งคำร้องนั้นตามมาตรา 21(2),181(1) โดยให้ยกคำร้องตามมาตรา 180 คำสั่งนี้ก็คือคำสั่งที่มีผลเป็นการสั่งไม่รับคำคู่ความตามนัยแห่งมาตรา 177 วรรคท้ายและมาตรา 18 ซึ่งทำให้ประเด็นข้อที่จำเลยตั้งขึ้นโดยคำร้องเพิ่มเติมคำให้การนั้นเสร็จไปเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว จำเลยย่อมอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้โดยมิต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ก่อนเพราะเป็นการอุทธรณ์ตามความในมาตรา 223 ไม่ใช่อุทธรณ์ตามมาตรา 226 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 21/2508)
of 112