คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จิตติ ติงศภัทิย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,113 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายฝากและการรับซื้อฝากแทนกัน ผู้รับซื้อฝากมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ แม้ตัวการจะยังไม่เปิดเผยชื่อ
โจทก์เป็นกรรมการอำนาวยการบริษัท ท. และบริษัท ทปด.โจทก์ให้ ส.ลงชื่อเป็นผู้ซื้อฝากทรัพย์รายพิพาทจากจำเลย แต่ความจริงปรากฎว่าบริษัท ทปด.เป็นผู้ซื้อฝากที่แท้จริง จำเลยมิได้ไถ่ทรัพย์คืนจนพ้นกำหนด ส.ถึงแก่กรรม ทายาทของ ส. โอนทรัพย์รายพิพาทให้แก่โจทก์เมื่อตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อ คือ บริษัท ทปด.ยังมิได้แสดงตนเข้ารับเอาสัญญาที่โจทก์ได้ทรัพย์รายพิพาท โจทก์ก็คงมีสิทธิตามสัญญานั้นอยู่ มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยและให้จำเลยส่งทรัพย์รายพิพาทให้ เมื่อโจทก์ฟ้องแล้วบริษัท ทปด.ร้องสอดขอเข้ามาในคดีเข้าแทนที่โจทก์รับเอาสัญญาจากโจทก์ โจทก์ก็ยินยอม ดังนี้ บริษัท ทปด.ก็ได้อำนาจจากโจทก์โดยตัวแทนยอมคืนทรัพย์สินให้ตัวการ จำเลยจะคัดค้านว่าโจทก์กับบริษัท ทปอ.ไม่มีอำนาจฟ้องย่อมฟังไม่ได้
และเมื่อพ้นกำหนดการไถ่แล้ว ทรัพย์รายพิพาทไม่ใช่เป็นของจำเลยแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะอยู่และใช้ทรัพย์นี้ได้ต่อไป ดังนั้น โจทก์จะเป็นผู้รับซื้อฝากเองหรือผู้ใดจะอ้างว่าเป็นตัวการเข้ารับเอาสัญญาที่โจทก์รับซื้อฝากแทน ผลก็เท่ากัน ไม่ทำให้เสื่อมสิทธิของจำเลยในการขายฝากนี้แต่อย่างใด เพราะเมื่อจำเลยไม่มีสิทธิในทรัพย์รายพิพาทแล้ว ทรัพย์นั้นจะเป็นของบริษัท ทปด.ผู้ร้องสอดดังที่ผู้ร้องสอดกล่าวอ้างหรือว่าเป็นของบริษัท ท. โดย ส.รับซื้อแทนดังที่จำเลยอ้าง ก็เป็นเรื่องของโจทก์ที่จะยอมรับความเป็นจริง จำเลยไม่อาจอ้างเรื่องสิทธิฟ้องร้องขึ้นต่อสู้ว่าทรัพย์นั้นเป็นของบริษัท ท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน, การขุดดินโดยไม่บอกกล่าว, และเจตนาในการรบกวนการครอบครอง
(1) ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์นั้น มิใช่ความผิดต่อเนื่องอายุความจึงต้องเริ่มนับแต่วันกระทำผิด (2) ความผิดที่ยอมความกันได้ (ความผิดต่อส่วนตัว) แม้จะอยู่ในบังคับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 ก็ดี แต่มาตรา 96 ได้บัญญัติอายุความให้สั้นกว่าอายุความในความผิดสามัญทั่วไป (3) ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1351 ไม่ได้หมายความว่าขุดที่ดินของเขาให้เสียหายได้ อนึ่ง แม้กฎหมายจะให้อำนาจไว้ตามมาตรา 1351 นี้ก็ดี แต่อำนาจนี้จะมีขึ้นก็ต่อเมื่อบอกกล่าวล่วงหน้าตามสมควร (4) การไม่ได้บอกกล่าวและเข้าไปขุดดิน ตอกเสา ฯลฯในที่ดินของผู้อื่นโดยพลการ เป็นการกระทำโดยเจตนาแล้ว แม้จะต้องการแต่ประโยชน์ไม่คำนึงว่าใครจะเสียหาย ถ้าการนั้นเป็นการรบกวนการครอบครอง ก็ผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 362 ไม่ต้องมีเจตนาพิเศษอย่างใดอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ฉุดคร่าและข่มขืน แม้ต่อเนื่องกันก็เป็นคนละกรรมได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดินนำเข้าป่าข้างทางห่างทางเดิน 7-8 วา แล้วร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในป่านั้น เป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรม: ฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเรา แม้ต่อเนื่องกันก็เป็นคนละกรรมได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดิน นำเข้าป่าข้างทางห่างทางเดิน 7-8 วา แล้วร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในป่านั้น เป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
มาตรา 281 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่บทลงโทษ ไม่จำต้องยกขึ้นปรับบทลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ แม้พยานให้การไม่สอดคล้องกัน ศาลฎีกาพิเคราะห์จากคำรับสารภาพของจำเลยและคำเบิกความของพยาน
(1)การที่ผู้ใหญ่บ้านร่วมกับตำรวจไปทำการจับกุมภริยาจำเลยและจำเลย จำเลยกล่าวว่า "เจ้าพนักงานจับกุมไม่เสียใจ ทำไมต้องเอาอ้ายผู้ใหญ่บ้านหัวควยยังงี้มาด้วยละ กูไม่ไว้ใจประเดี๋ยวจะลักของกู มึงออกจากบ้านกูไปเดี๋ยวนี้ มึงล่อลวงประชาชน หากินเล็กหากินน้อยอย่างของกูมึงไม่ได้กินหรอก กูไม่ไว้ใจมึง เดี๋ยวมึงจะเอาของผิดกฎหมายมาใส่ให้กู"นั้น เป็นการดูหมิ่นผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ (2)แม้เพียงถ้อยคำที่จำเลยรับว่าได้กล่าวว่า "อั๊วไม่ไว้ใจลื้อเดี๋ยวลื้อจะเอาของผิดกฎหมายมาใส่อั๊ว" ก็เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725-1726/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของธนาคารตัวแทนเรียกเก็บเงินเช็ค กรณีลูกหนี้ชำระหนี้ได้เพียงบางส่วน และการละเลยการบรรเทาความเสียหายของเจ้าหนี้
การที่ธนาคารจำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คที่โจทก์นำฝากเข้าบัญชีของโจทก์ไม่ได้ ก็มิได้แจ้งให้โจทก์ทราบภายในเวลาอันควรแก่หน้าที่ตัวแทนนั้น หากปรากฎว่า ถึงอย่างไรลูกหนี้ตามเช็คก็สามารถชำระหนี้ได้เพี่ยงร้อยละ 50 แล้ว ก็จะถือว่าจำเลยทำให้โจทก์เสียหายมากกว่านี้ไม่ได้ และหากโจทก์มีโอกาสจะรับชำระหนี้ร้อยละ 50 จากลูกหนี้ แต่กลับไม่รับชำระเป็นการบำบัดปัดป้องหรือบรรเทาความเสียหายแล้ว ก็ถือว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดให้เกิดความเสียหายด้วยจำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725-1726/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ตัวแทนเรียกเก็บเช็ค, ความเสียหายจากเช็คไม่สามารถเรียกเก็บได้, การบรรเทาความเสียหายของเจ้าหนี้
การที่ธนาคารจำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คที่โจทก์นำฝากเข้าบัญชีของโจทก์ไม่ได้ ก็มิได้แจ้งให้โจทก์ทราบภายในเวลาอันควรแก่หน้าที่ตัวแทนนั้น หากปรากฏว่าถึงอย่างไรลูกหนี้ตามเช็คก็สามารถชำระหนี้ได้เพียงร้อยละ 50 แล้ว ก็จะถือว่าจำเลยทำให้โจทก์เสียหายมากกว่านี้ไม่ได้ และหากโจทก์มีโอกาสจะรับชำระหนี้ร้อยละ 50 จากลูกหนี้แต่กลับไม่รับชำระ เป็นการบำบัดปัดป้องหรือบรรเทาความเสียหายแล้วก็ถือว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดให้เกิดความเสียหายด้วย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1703-1704/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเลิกคดีล้มละลายไม่ปลดหนี้ เจ้าหนี้ยังฟ้องได้
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 136 คำสั่งยกเลิกการล้มละลายตาม มาตรา 135(1) หรือ (2) ไม่ทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นหนี้สินแต่อย่างใด คำว่า "หนี้สิน" มิได้หมายความเฉพาะหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ในคดีล้มละลายแล้วเท่านั้น ดังนั้น แม้เจ้าหนี้จะมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ในคดีล้มละลายที่ยกเลิกนั้นตามมาตรา 27 และตามกำหนดเวลาที่บัญญัติไว้ในมาตรา 91เจ้าหนี้ก็ยังมีสิทธิฟ้องลูกหนี้เกี่ยวกับหนี้สินนั้นเป็นคดีล้มละลายคดีใหม่ หรือคดีแพ่งธรรมดาอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1703-1704/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเลิกคดีล้มละลายไม่ตัดสิทธิเจ้าหนี้ในการฟ้องคดีใหม่ สิทธิเรียกร้องยังคงมีอยู่
คำสั่งยกเลิกการล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 135 (1) หรือ (2) ไม่ทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นหนี้สินแต่อย่างใด ตามมาตรา 136 คำว่า "หนี้สิน" มิได้หมายความเฉพาะหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ไว้ในคดีล้มละลายแล้วเท่านั้น ดังนั้น แม้เจ้าหนี้ จะมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ในคดีล้มละลายที่ยกเลิกนั้น ตามมาตรา 27 และตามกำหนดเวลาที่บัญญัติไว้ในมาตรา 91 เจ้าหนี้ก็ยังมีสิทธิที่จะฟ้องลูกหนี้เกี่ยวกับหนี้สินนั้นเป็นคดีล้มละลายคดีใหม่หรือคดีแพ่งธรรมดาอีกได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุริมสิทธิพิเศษซื้อขายอสังหาฯ ต้องจดทะเบียนและบอกราคาค้างชำระ จึงมีผลบังคับเหนือบุคคลภายนอก
บุริมสิทธิ์ในมูลซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น ต้องเป็นการซื้อขายที่ลงทะเบียน และบอกลงทะเบียนไว้ด้วยว่าราคาหรือดอกเบี้ยในราคานั้นยังมิได้ชำระ
of 112