พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดพยายามขนสินค้าออกนอกราชอาณาจักรและการโยงโทษตามกฎหมายศุลกากร
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจพยายามขนสินค้าผ่านเขตแดนทางบกออกนอกราชอาณาจักรเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชานอกทางอนุมัติแต่ถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ขัดขวางจับกุมเสียก่อน ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2480 มาตรา 5 อันมีบทลงโทษตามมาตรา 10 มาตรา 10 นี้ บัญญัติว่า ผู้ฝ่าฝืนมาตรา 5 ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 จึงเห็นได้ว่ามาตรา 10 ดังกล่าวนั้นโยงไปให้เอาโทษในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 มาใช้บังคับเมื่อจำเลยกระทำผิดโดยฝ่าฝืนมาตรา 5,10 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 7) ซึ่งการพยายามกระทำความผิดตามมาตรา 5 ก็มีโทษเช่นเดียวกับการกระทำผิดสำเร็จ ศาลก็ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ได้เต็มตามที่มาตรา 10 ให้โยงมาใช้ แม้โจทก์จะได้อ้างมาตรา 80 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาด้วยก็จะถือว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษเพียงฐานพยายาม คือสองในสามของโทษสำหรับความผิดสำเร็จหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1126/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซุกซ่อนทองคำเพื่อเลี่ยงภาษีและการนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต กางเกงในที่ออกแบบพิเศษเพื่อการซุกซ่อนเป็นของกลางที่ต้องริบ
กางเกงในที่ทำขึ้นไว้เป็นพิเศษเฉพาะสำหรับเพื่อการซุกซ่อนทองคำแท่งที่ยังไม่ได้เสียภาษีหรือที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต เป็นสิ่งที่ต้องริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกระทง: การสำแดงรายการเท็จกับการพยายามลักลอบนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักรเป็นคนละกรรมต่างวาระกัน
จำเลยสำแดงรายการสินค้าขาออกด้วยกรมศุลกากรเป็นเท็จ แล้วต่อมาอีก 2 วัน จำเลยพยายามนำสินค้านั้นจะออกนอกราชอาณาจักร แต่ตำรวจจับได้เสียก่อน เช่นนี้ แม้การกระทำทั้งสองฐานนี้จะเกี่ยวเนื่องกัน คือ จำเลยสำแดงรายการสินค้าเท็จ ก็เพื่อจะลักลอบนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักรก็ตาม ก็เป็นการกระทำผิดคนละอย่างต่างกรรมต่างวาระกัน เพราะเมื่อจำเลยสำแดงรายการสินค้าขาออกเท็จนั้น เป็นความผิดสำเร็จไปตอนหนึ่งแล้ว ต่อมาอีก 2 วันทำผิดฐานพยายามนำสินค้าจะออกนอกราชอาณาจักรจึงเป็นความผิดอีกฐานหนึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสำแดงรายการเท็จกับการพยายามลักลอบนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักรเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน
จำเลยสำแดงรายการสินค้าขาออกต่อกรมศุลกากรเป็นเท็จแล้วต่อมาอีก 2 วัน จำเลยพยายามนำสินค้านั้นจะออกนอกราชอาณาจักรแต่ตำรวจจับได้เสียก่อน เช่นนี้ แม้การกระทำทั้งสองฐานนี้จะเกี่ยวเนื่องกัน คือ จำเลยสำแดงรายการสินค้าเท็จ ก็เพื่อจะลักลอบนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักรก็ตาม ก็เป็นการกระทำผิดคนละอย่างต่างกรรมต่างวาระกัน เพราะเมื่อจำเลยสำแดงรายการสินค้าขาออกเท็จนั้น เป็นความผิดสำเร็จไปตอนหนึ่งแล้ว ต่อมาอีก 2 วันทำผิดฐานพยายามนำสินค้าจะออกนอกราชอาณาจักรจึงเป็นความผิดอีกฐานหนึ่ง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้ายาที่ได้รับการยกเว้น ต้องขออนุญาตก่อน หากนำเข้าแล้วจึงขออนุญาต ไม่ลบล้างความผิด
กฎกระทรวงสาธารณสุขซึ่งออกตามพระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษๆ ระบุให้ผู้ปรารถนานำยาซึ่งได้รับยกเว้นเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ยื่นคำขออนุญาต ถ้าปลัดกระทรวงสาธารณสุขเห็นสมควร ก็ให้ออกใบอนุญาต นั้น ย่อมเห็นได้ว่า แม้จะเป็นยายกเว้น ก็ยังบังคับให้ผู้นำเข้าต้องขออนุญาตเสียก่อน หาใช่นำเข้ามาโดยไม่จำต้องขออนุญาตไม่ และย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าต้องได้รับอนุญาตก่อนนำเข้า ไม่ใช่นำเข้าแล้วไปขออนุญาต ฉะนั้น เมื่อจำเลยมิได้ขออนุญาตก่อนนำเข้าแต่นำเข้าแล้วจึงไปขออนุญาต จึงย่อมไม่เป็นการลบล้างความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงรายการสินค้าเพื่อเสียภาษีศุลกากร การกระทำไม่เข้าข่ายปกปิดหรือแสดงรายการเท็จ
ของที่จำเลยสั่งเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีศุลกากรนั้นเมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยได้ปกปิดไม่แสดงรายการหรือแสดงรายการอันเป็นเท็จ หรือชักพาให้ผิดหลงแล้ว ก็ไม่มีการกระทำที่จะอ้างเป็นมูลความผิดเอาแก่จำเลยแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงรายการสินค้าเพื่อเสียภาษีศุลกากร หากไม่มีเจตนาปกปิดหรือแสดงเท็จ ไม่เป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี
ของที่จำเลยสั่งเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีศุลกากรนั้น เมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยได้ปกปิด ไม่แสดงรายการหรือแสดงรายการอันเป็นเท็จ หรือชักพาให้ผิดหลงแล้ว ก็ไม่มีการกระทำที่จะอ้างเป็นมูลความผิดเอาแก่จำเลยแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระค่าปรับและการกักขังแทนค่าปรับ ศาลไม่คืนเงินค่าปรับที่ชำระแล้ว แม้จำเลยเลือกถูกกักขัง
ศาลลงโทษปรับจำเลย จำเลยชำระค่าปรับบางส่วนแล้ว จำเลยขอให้ศาลสั่งคืนค่าปรับโดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ เช่นนี้ ศาลจะสั่งคืนค่าปรับให้จำเลยหาได้ไม่ หากจำเลยเห็นว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับไปบ้างแล้วและชอบที่จะถูกกักขังแทนค่าปรับน้อยกว่ากำหนดที่ศาลพิพากษาไว้ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะร้องเรียนในแง่นั้น หาใช่มาขอคืนค่าปรับซึ่งชำระไว้โดยถูกต้องแล้วไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระค่าปรับแล้วไม่อาจขอคืนได้ แม้จำเลยเลือกถูกกักขังแทนค่าปรับที่เหลือ
ศาลลงโทษปรับจำเลย ๆ ชำระค่าปรับบางส่วนแล้ว จำเลยขอให้ศาลสั่งคืนค่าปรับโดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ โดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ เช่นนี้ ศาลจะสั่งคืนค่าปรับให้จำเลยหาได้ไม่ หากจำเลยเห็นว่า จำเลยได้ชำระค่าปรับไปบ้างแล้วและชอบที่จะถูกกักขังแทนค่าปรับน้อยกว่า กำหนดที่ศาลพิพากษาไว้ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องเรียนในแง่นั้น หาใช่มาขอคืนปรับซึ่งชำระไว้โดยถูกต้องแล้วไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักลอบนำทองคำเข้าประเทศ แม้ยังมิได้นำขึ้นจากเรือ หากมีเจตนาทุจริตก็ถือเป็นความผิด
การที่จำเลยซึ่งเป็นอินยิเนียร์เรือมีทองไว้ในครอบครองมากเกินจะเป็นของใช้ส่วนตัว ซึ่งทองนี้ซุกไว้ในโต๊ะทำงานของจำเลยในเรือซึ่งเข้ามาสู่ประเทศไทยจากต่างประเทศ เป็นการส่อว่าจำเลยไม่สุจริตในการพาเข้ามาในประเทศเมื่อมีกฎหมายศุลกากรบัญญัติให้ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงาน จำเลยไม่แจ้ง แม้จำเลยจะยังมิได้เอาทองเคลื่อนย้ายออกจากเรือเพื่อนำขึ้นบก ก็ถือว่าจำเลยกระทำผิด ฐานพาทองอันเป็นของต้องห้ามเข้ามาในประเทศ โดยมิได้รับอนุญาตแล้ว