คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2490 ม. 3

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักลอบนำทองคำเข้าประเทศโดยเจตนาทุจริต แม้ยังมิได้นำขึ้นจากเรือ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากร
การที่จำเลยซึ่งเป็นอินยิเนียร์เรือมีทองไว้ในครอบครองมากเกินจะเป็นของใช้ส่วนตัว ซึ่งทองนี้ซุกไว้ในโต๊ะทำงานของจำเลยในเรือซึ่งเข้ามาสู่ประเทศไทยจากต่างประเทศ เป็นการส่อว่าจำเลยไม่สุจริตในการพาเข้ามาในประเทศ เมื่อมีกฎหมายศุลกากรบัญญัติให้ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงาน จำเลยไม่แจ้ง แม้จำเลยจะยังมิได้เอาทองเคลื่อนย้ายออกจากเรือเพื่อนำขึ้นบก ก็ถือว่าจำเลยกระทำผิดฐานพาทองอันเป็นของต้องห้ามเข้ามาในประเทศโดยมิได้รับอนุญาตแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษความผิดหลายบท: เลือกใช้บทกฎหมายที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด
การใช้บทกฎหมายที่อาญาหนักลงโทษความผิดที่ละเมิดกฎหมายหลายบทนั้น ต้องถืออัตราโทษจำคุกสูงสุดที่ศาลอาจวางกำหนดลงโทษแก่จำเลยสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงได้นั้นเป็นสำคัญ มิใช่ถืออัตราโทษปรับมากน้อยหรือต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร นั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายาม พ.ร.บ.ศุลกากร จึงเป็นบทหนักกว่า พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอก ฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดบทหนักในความผิดหลายบท ต้องพิจารณาอัตราโทษจำคุกสูงสุด ไม่ใช่อัตราโทษปรับ
การใช้บทกฎหมายที่อาญาหนักลงโทษความผิดที่ละเมิดกฎหมายหลายบทนั้นต้องถืออัตราโทษจำคุกสูงสุดที่ศาลอาจวางกำหนดลงโทษแก่จำเลยสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงได้นั้นเป็นสำคัญ มิใช่ถืออัตราโทษปรับมากน้อยหรือต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พระราชบัญญัติศุลกากรนั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามพระราชบัญญัติศุลกากรจึงเป็นบทหนักกว่า พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมคบกันนำของออกนอกราชอาณาจักรหลีกเลี่ยงภาษี แม้เรือยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทยก็ถือเป็นความผิด
สมคบกันนำของออกนอกพระราชอาณาจักรไทย โดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีและไม่ได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้อง แม้ขณะจับได้ เรือที่บรรทุกของจะยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทยก็ถือว่า เป็นผิดบริบูรณ์ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร 2469 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมคบกันนำของออกนอกราชอาณาจักรหลีกเลี่ยงภาษี แม้ยังไม่ออกพ้นเขตแดน
สมคบกันนำของออกนอกพระราชอาณาจักรไทย โดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีและไม่ได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้อง แม้ขณะจับได้ เรือที่บรรทุกของจะยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทย ก็ถือว่า เป็นผิดบริบูรณ์ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับโทษทางอาญาแบบรวม และผลของการจำหน่ายคดีผู้ตาย
การนำของหนีภาษีศาลให้ปรับจำเลยรวมกันไม่ใช่แยกรายตัว
ศาลอุทธรณ์ให้ปรับจำเลยสองคนรวมกันมา เมื่อปรากฏในชั้นฎีกาว่าจำเลยคนหนึ่งตาย ศาลก็ให้จำหน่ายคดีสำหรับคนที่ตาย โดยไม่ต้องแก้โทษสำหรับอีกคนหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับโทษทางอาญาและผลกระทบเมื่อจำเลยเสียชีวิต: ศาลให้ปรับรวมและจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่เสียชีวิต
การนำของหนีภาษี ศาลให้ปรับจำเลยรวมกัน ไม่ใช่แยกรายตัว
ศาลอุทธรณ์ให้ปรับจำเลยสองคนรวมกันมา เมื่อปรากฏในชั้นฎีกาว่า จำเลยคนหนึ่งตาย ศาลก็ให้จำหน่ายคดีสำหรับคนที่ตาย โดยไม่ต้องแก้โทษสำหรับอีกคนหนึ่ง
of 2