คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อรรถพิศาลโสภณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณา-สิทธิสืบพยาน-การมอบฉันทะ-การไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ก่อนวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลสั่งให้มาพูดกันวันนัด ครั้นถึงวันนัด จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลสั่งยกคำร้องและถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้นเป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้งๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดจะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการตัดสิทธิการสืบพยานจำเลย ศาลพิจารณาคำร้องขอพิจารณาใหม่โดยการสอบถามได้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ก่อนวันนัดสืบพยานจำเลย ๆ ยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลสั่งให้มาพูดกันวันนัด ครั้นถึงวันนัด ่จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลสั่งยกคำร้องและถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้น เป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้ง ๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัด จะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ: โจรปล้นทรัพย์ทำร้ายร่างกาย จำเลยป้องกันเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่น
พฤติการณ์ของผู้ตายเป็นโจรปล้นทรัพย์ทำร้ายนายเหืองจำเลยแล้วยังจะทำซ้ำอีก นายเบืองนายโหนจำเลยเข้าไปป้องกันโดยตีผู้ตายเสียก่อนเพื่อไม่ให้ผู้ตายทำร้ายนายเหืองจำเลย พรรคพวกของผู้ตาย 2 คน ยังกลับมาช่วยผู้ตายอีก ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายกับพวกจะก่อกรรมรุนแรงอย่างใดต่อไปย่อมรู้ไม่ได้ ในที่สุดผู้ตายก็ตายลงในเวลานั้นเอง การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดโดยผิดด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินจากโจรปล้นทรัพย์
พฤติการณ์ของผู้ตายเป็นโจรปล้นทรัพย์ทำร้ายนายเหืองจำเลยแล้วยังจะทำซ้ำอีกนายเบือง นายโหนจำเลยเข้าไปป้องกันโดยตีผู้ตายเสียก่อนเพื่อไม่ให้ผู้ตายทำร้ายนายเหืองจำเลย พรรคพวกของผู้ตาย 2 คน ยังกลับมาช่วยผู้ตายอีก ขณะนั้น เป็นเวลากลางคืน ผู้ตายกับพวกจะก่อกรรมรุนแรงอย่างใดต่อไปย่อมรู้ไม่ได้ ในที่สุดผู้ตายก็ตายลงในเวลานั้นเอง การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดโดยผิดด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาและการแจ้งความเท็จ: จำเลยไม่ได้แจ้งความเท็จ แต่เป็นการเข้าใจสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญากัน โดยจำเลยยอมให้เอาที่ดินของจำเลยให้โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญา ในการนี้โจทก์ตกลงให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน ต่อมาพ้นเวลา 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญาดังกล่าว จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อพนักงานโลหกิจว่า จนบัดนี้ โจทก์ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทำเหมืองได้ จำเลยจึงขอคัดค้านการอ้างสิทธิของโจทก์โดยจำเลยไม่ยอมให้ใช้ที่ดินของจำเลย ฯลฯ เช่นนี้ แม้ความจริงโจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากันนั้นไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อข้อความในสัญญามีเหตุทำให้จำเลยเข้าใจได้ดังคำร้องคัดค้านของจำเลยแล้ว โจทก์จะหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาและแจ้งความเท็จ: จำเลยเข้าใจสัญญาถูกต้องตามเจตนา แม้ข้อความไม่ชัดเจน ไม่ถือเป็นแจ้งความเท็จ
โจทก์จำเลยทำสัญญากัน โดยจำเลยยอมให้เอาที่ดินของจำเลยให้โจทก์ยื่นคำร้อง ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญา ในการนี้โจทก์ตกลงให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน ต่อมาพ้นเวลา 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญาดังกล่าว จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อพนักงานโลหกิจว่า จนบัดนี้ โจทก์ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทำเหมืองได้ จำเลยจึงขอคัดค้านการอ้างสิทธิของโจทก์โดยจำเลยไม่ยอมให้ใช้ที่ดินของจำเลย ฯลฯ เช่นนี้ แม้ความจริงโจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญากันนั้นไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อข้อความในสัญญามีเหตุทำให้จำเลยเข้าใจได้ดังคำร้องคัดค้านของจำเลยแล้ว โจทก์จะหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องขับไล่ที่ดินมือเปล่าเกิน 1 ปี และข้ออ้างเป็นที่บ้านที่สวนที่ไม่สมเหตุสมผล
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์มาฟ้องขอให้บังคับจำเลยออกจากที่ดินพิพาทเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี นับแต่ที่ถูกแย่งการครอบครอง คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่า: ฟ้องเกิน 1 ปี ขาดอายุความ
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์มาฟ้องขอให้บังคับจำเลยออกจากที่ดินพิพาทเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี นับแต่ที่ถูกแย่งการครอบครอง คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉุดคร่าสำเร็จ พิจารณาจากระยะทางที่ถูกลากและการเคลื่อนย้ายจากอิสรภาพ
ผู้เสียหายกับปู่ แม่ และน้าสาวนั่งดูเขาเล่นตรุษกันที่ปากตรอกบ้านจำเลย กับพวกเข้ามาที่ตัวผู้เสียหาย จำเลยคว้าแขนผู้เสียหายซึ่งนั่งอยู่ดึงลากไปเลยถูกไถลากไปกับพื้นดิน พวกจำเลยเข้ากั้นไม่ให้แม่และน้าสาวช่วย แม่ผู้เสียหายเข้ากอดตัวผู้เสียหายไว้และต่างร้องเอะอะกันขึ้น จำเลยปล่อยผู้เสียหายแล้วยังกลับมาลากอีก แม่ผู้เสียหายก็เข้ากอดไว้จนผู้เสียหายหลุดจากมือจำเลย จำเลยฉุดผู้เสียหายไถดินไปสัก 2 วา แล้วผู้เสียหายกับพวกก็พากันหนีเข้าบ้านไป การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฉุดคร่าสำเร็จแล้ว ไม่ใช่เพียงฐานพยายาม (อ้างฎีกาที่ 982/2482 จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายไป 1 วา ผู้เสียหายสบัดหลุดไปเกาะเอวนางเพียร เป็นเรื่องฉุดคร่าสำเร็จแล้ว ไม่ใช่พยายาม)
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์แก้เป็นจำคุก 3 เดือน และไม่รอการลงโทษ เช่นนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมากก็ตามแต่ศาลอุทธรณ์ก็ยังคงลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายคดีจำเลยปฏิเสธ: โจทก์ต้องฟ้องข้อหาเดิมเท่านั้น
ถ้าศาลได้สั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ปฏิเสธฟ้องของโจทก์เพื่อให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยใหม่แล้ว โจทก์ก็ต้องฟ้องจำเลยตามข้อหาที่โจทก์ได้เสนอต่อศาลตามฟ้องเดิมของโจทก์เท่านั้น โจทก์จะมาฟ้องจำเลยในข้อหาอื่นหาได้ไม่
of 2