พบผลลัพธ์ทั้งหมด 240 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เอกสารปลอมหลอกลวงเพื่อการซื้อขาย ถือเป็นความเสียหายต่อผู้อื่นและประชาชน
จำเลยนำประกาศนียบัตรปลอมของกลางออกแสดงต่อสายของตำรวจดูเป็นตัวอย่างเพื่อให้ผู้ติดต่อขอซื้อเชื่อถือจะได้ตกลงซื้อ เช่นนี้ ถือได้แล้วว่า เป็นการนำเอกสารปลอมมาใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นและประชาชนแล้ว จำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2503)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เอกสารปลอมหลอกลวงเพื่อการซื้อขาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นและประชาชน
จำเลยนำประกาศนียบัตรปลอมของกลางออกแสดงต่อสายของตำรวจดูเป็นตัวอย่างเพื่อให้ผู้ติดต่อขอซื้อเชื่อถือจะได้ตกลงซื้อ เช่นนี้ ถือได้แล้วว่าเป็นการนำเอกสารปลอมมาใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชนแล้ว จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในคดีอาญาและการพิจารณาความผิดร่วมของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 98 จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษให้จำคุก 5 ปี เป็นการเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจำคุกในคดีหมิ่นประมาท และการพิพากษาคดีที่ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 98 จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษให้จำคุก 5 ปี เป็นการเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: ฟ้องผิดฐาน, ศาลสั่งรับเฉพาะข้อกล่าวหาที่อยู่ในอำนาจ และไม่จำต้องแก้ฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 285 แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์มีข้อเท็จจริงไม่เข้าลักษณะความผิดตาม มาตรา 285 ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารเลย แต่เข้าลักษณะการกระทำผิดตามมาตรา 276 ถึงแม้โจทก์จะอ้างมาตรา 285 มาด้วย ก็ไม่เป็นเหตุทำให้ฟ้องของโจทก์ต้องขึ้นศาลทหารและศาลชั้นต้นก็ได้ สั่งประทับฟ้องเฉพาะในข้อกล่าวหาตาม มาตรา 276 ศาลจึงมีอำนาจพิจารณาได้ โดยไม่จำต้องสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องมายื่นใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: ฟ้องหลายกระทง ศาลพิจารณาเฉพาะกระทงที่อยู่ในอำนาจตนได้ แม้ฟ้องรวมกระทงที่ต้องส่งไปศาลทหาร
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 และ 285 แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์มีข้อเท็จจริงไม่เข้าลักษณะความผิดตาม มาตรา 285 ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารเลย แต่เข้าลักษณะการกระทำผิดตามมาตรา 276 ถึงแม้โจทก์จะอ้างมาตรา 285 มาด้วย ก็ไม่เป็นเหตุทำให้ฟ้องของโจทก์ต้องขึ้นศาลทหาร และศาลชั้นต้นก็ไต่สวนประทับฟ้องเฉพาะในข้อกล่าวหาตาม มาตรา 276 ศาลจึงมีอำนาจพิจารณาได้โดยไม่จำต้องสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องมายื่นใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องทำพยานเท็จไม่ชัดเจน ฟ้องไม่บรรยายรายละเอียดการกระทำที่เป็นเท็จ จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ความผิดฐานทำพยานหลักฐานเท็จ เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยได้กระทำหลักฐานขึ้นเป็นประการใดว่าเป็นเท็จ ดังนี้ ถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่บรรยายรายละเอียดให้ครบถ้วนพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนฐานทำพยานหลักฐานเท็จ ศาลยกฟ้องเพราะจำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ความผิดฐานทำพยานหลักฐานเท็จ เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยได้กระทำหลักฐานขึ้นเป็นประการใดว่าเป็นเท็จ ดังนี้ ถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่บรรยายรายละเอียดให้ครบถ้วนพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิจากเจตนาให้เจ้าพนักงานยึดทรัพย์สินโดยไม่สุจริต จำเลยต้องรับผิดในทางแพ่ง
จำเลยยืนยันให้กำนันยึดรถยนต์บรรทุก ของโจทก์ซึ่งรับจ้างบรรทุกข้าวเปลือกนั้นสักข้าวเปลือกของจำเลยไว้โดยไม่มีความจำเป็นและเป็นการแกล้งโจทก์โดยไม่สุจริต กำนันจึงยึดของโจทก์ไว้ 39 วันดังนี้ การกระทำของจำเลยได้ชื่อว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์ กำนันจะยึดรถไว้โดยอาศัยอำนาจของตนเองในฐานเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจเช่นว่า นั้น หรือไม่ ไม่สำคัญ เมื่อโจทก์ฟ้องในทางแพ่ง และจำเลยได้ละเมิดสิทธิของโจทก์แล้ว จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ในทางแพ่ง ตามประมวลกฎหมายแพและพาณิชย์ มาตรา 420 (ควรเทียบดูฎีกา ที่ 320/2503) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิจากการยืนยันให้ยึดทรัพย์ของผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจ แม้เจ้าพนักงานจะใช้ดุลพินิจยึดทรัพย์ตามกฎหมาย ผู้ยืนยันก็ต้องรับผิดในทางแพ่ง
จำเลยยืนยันให้กำนันยึดรถยนต์บรรทุกของโจทก์ซึ่งรับจ้างบรรทุกข้าวเปลือก โดยจำเลยหาว่าผู้ว่าจ้างบรรทุกข้าวเปลือกนั้นลักข้าวเปลือกของจำเลยไว้โดยไม่มีความจำเป็นและเป็นการจงใจแกล้งโจทก์โดยไม่สุจริต กำนันจึงยึดรถของโจทก์ไว้ 39 วัน ดังนี้ การกระทำของจำเลยได้ชื่อว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์กำนันจะยึดรถไว้โดยอาศัยอำนาจของตนเองในฐานเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจเช่นว่านั้น หรือไม่ไม่สำคัญ เมื่อโจทก์ฟ้องในทางแพ่งและจำเลยได้ละเมิดสิทธิของโจทก์แล้ว จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ในทางแพ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 (ควรเทียบดูกับฎีกาที่ 320/2503) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2503)