คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 251

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5389/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิขอหลักประกันคืนหลังฎีกา: อุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่ศาลฎีกา
การที่จำเลยยื่นคำแถลงขอหลักประกันคืนต่อศาลชั้นต้น แม้เป็นการยื่นหลังจากคู่ความยื่นฎีกาแล้ว ก็เป็นการใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 251 ซึ่งกฎหมายมิได้บัญญัติว่าถ้าศาลชั้นต้นมีคำสั่งอย่างไรแล้วให้คู่ความอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไปยังศาลฎีกาได้เลย ฉะนั้นเมื่อจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลชั้นต้นชอบที่จะอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 จะอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5389/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิขอหลักประกันคืนและการอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
การที่จำเลยยื่นคำแถลงขอหลักประกันคืนต่อศาลชั้นต้นเป็นกรณีที่จำเลยใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 251เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำแถลงของจำเลย จำเลยจึงชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นมายังศาลฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนเงินค่าเสียหายที่วางศาลเมื่อศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา ศาลชอบที่จะคืนเงินโดยไม่รอคดีถึงที่สุด
เงินค่าเสียหายที่จำเลยผู้แพ้คดีในศาลชั้นต้นวางศาลเพื่อใช้หนี้โจทก์ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในระหว่างอุทธรณ์นั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น เหตุแห่งการวางเงินย่อมหมดสิ้นไป ศาลชอบที่จะคืนเงินจำนวนที่วางคืนแก่จำเลยโดยไม่จำต้องรอให้คดีถึงที่สุด.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3985/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอคืนเงินค่าธรรมเนียมเมื่อศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา
เมื่อโจทก์ผู้เป็นฝ่ายแพ้คดีในศาลชั้นต้นได้อุทธรณ์และวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนจำเลยผู้เป็นฝ่ายชนะคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษากลับให้โจทก์ชนะคดี โจทก์จึงชอบที่จะขอคืนเงินที่วางศาลได้ตามป.ว.พ. ม.251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1327/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนเงินค่าธรรมเนียมและค่าเสียหายที่วางศาลเมื่อเหตุแห่งการวางเงินสิ้นสุดลง แม้ผลคดีต่อมาจะแพ้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท กับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้ให้แก่โจทก์ มาวางศาลพร้อมกับนำเงินค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษามาวางศาลตามคำสั่ง เพื่อให้ศาลอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์นั้น ถือได้ว่า เงินค่าทนายความที่จำเลยวางเป็นเงินค่าธรรมเนียมที่วางไว้เพื่อใช้สิทธิในการอุทธรณ์ ส่วนเงินค่าเสียหายเป็นเงินที่วางตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับคดี เมื่อต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่แล้ว เหตุแห่งการวางเงินดังกล่าวย่อมหมดสิ้นไป และไม่มีบทกฎหมายใดที่ให้อำนาจศาล ยึดเงินที่วางไว้ในกรณีดังกล่าวต่อไปได้ศาลจึงชอบที่จะคืนเงินดังกล่าวให้แก่จำเลย ส่วนการที่ต่อมา ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกไปจากที่พิพาทพร้อมกับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ก็เป็นคำพิพากษาใหม่ไม่เกี่ยวเนื่องกับเงินที่จำเลยได้วางไว้ในกรณีดังกล่าวข้างต้นนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอคืนเงินค่าธรรมเนียมเมื่อยื่นอุทธรณ์และการพิพากษากลับคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ผู้อุทธรณ์ชนะคดี ผู้อุทธรณ์ชอบที่จะขอรับเงินค่าธรรมเนียมที่วางไว้ต่อศาลเมื่อยื่นอุทธรณ์คืนได้ ศาลชั้นต้นยังไม่คืนผู้อุทธรณ์อุทธรณ์คำสั่งได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนเงินจำนวนที่จำเลยวางศาลไว้นี้ โจทก์ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการขอคืนเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ถูกอายัดหลังศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ
เงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายที่จำเลยวางศาลเมื่อจำเลยอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะคดีจำเลยก็ชอบที่จะร้องขอคืนเงินที่วางนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 251 (อ้างคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 487/2493)
คำสั่งศาลอายัดเงินของจำเลยนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดีอันเป็นต้นเหตุแห่งการอายัดเงินรายนี้ และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็มิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นได้สั่งอายัดไว้นั้นแต่ประการใด คำสั่งอายัดนั้นจึงเป็นอันยกเลิกไปในตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(1) (อ้างฎีกาที่ 885/2490).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอคืนเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ถูกอายัด เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ
เงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายที่จำเลยวางศาลเมื่อจำเลยอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะคดีจำเลยก็ชอบที่จะร้องขอคืนเงินที่วางนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 251(อ้างคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 487/2493)
คำสั่งศาลอายัดเงินของจำเลยนั้น. เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดีอันเป็นต้นเหตุแห่งการอายัดเงินรายนี้และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็มิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นได้สั่งอายัดไว้นั้นแต่ประการใด คำสั่งอายัดนั้นจึงเป็นอันยกเลิกไปในตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(1)(อ้างฎีกาที่ 885/2490)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดี: ผู้แพ้คดีต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แม้จะมีการถอนการยึดทรัพย์โดยคำสั่งศาล
จำเลยแพ้คดีในศาลชั้นต้น โจทก์ขอหมายบังคับคดี และนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย ในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ถอนการยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 251 ศาลสั่งอนุญาต และให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย และค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี นั้น เป็นการที่ชอบ เพราะโจทก์เป็นผู้แพ้คดี โจทก์ต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมไปจนกว่าศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น และเรื่องความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมนั้น เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดีและการใช้ดุลพินิจศาลเมื่อมีการถอนการยึดทรัพย์หลังแพ้คดีในชั้นอุทธรณ์
จำเลยแพ้คดีในศาลชั้นต้น โจทก์ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย ในชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ถอนการยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 251 ศาลสั่งอนุญาตและให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย และค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี นั้นเป็นการที่ชอบ เพราะโจทก์เป็นผู้แพ้คดี โจทก์ต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมไปจนกว่าศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น และเรื่องความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161
of 2