พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวเกิน 200 กก. โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในเขตควบคุมการค้าข้าว ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว
ประกาศกำหนดการควบคุมการค้าข้าวมีข้อความว่า "ห้ามมิให้ยักย้ายหรือขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกไปจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุม เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่จังหวัดสตูลหรือผู้รักษาการแทน....ฯ" นั้น กินความถึงการขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวเกิน 200 กิโลกรัมโดยไม่ได้รับอนุญาตภายในเขตควบคุมการค้าข้าว ถือเป็นความผิดตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด
ประกาศกำหนดการควบคุมการค้าข้าวมีข้อความว่า 'ห้ามมิให้ยักย้ายหรือขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไปออกไปจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุม เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่จังหวัดสตูลหรือผู้รักษาการแทนฯ.....' นั้น กินความถึงการขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ประกอบการค้าข้าวตามประกาศ คณะกรรมการฯ ผู้จัดการหรือลูกจ้างย่อมไม่เป็นผู้กระทำผิดตามประกาศ
ประกาศที่ห้ามมิให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทขายปลีกขนย้ายหรือยักย้ายข้าวนั้น หมายถึงผู้ประกอบการค้าข้าวที่ต้องขออนุญาตเท่านั้น ไม่หมายถึงผู้จัดการหรือลูกจ้าง
การที่ภริยาเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบการค้าข้าวประเภทขายปลีก แต่สามีได้ทำการขนย้ายหรือยักย้ายข้าว ดังนี้โจทก์จะฟ้องเอาผิดแก่สามีว่าได้ขนย้ายหรือยักย้ายข้าวในนามของภริยาผู้ได้รับอนุญาตมิได้
การที่ภริยาเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบการค้าข้าวประเภทขายปลีก แต่สามีได้ทำการขนย้ายหรือยักย้ายข้าว ดังนี้โจทก์จะฟ้องเอาผิดแก่สามีว่าได้ขนย้ายหรือยักย้ายข้าวในนามของภริยาผู้ได้รับอนุญาตมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ประกอบการค้าข้าวตามประกาศคือผู้ได้รับอนุญาต ไม่รวมถึงผู้จัดการหรือลูกจ้าง การฟ้องผู้จัดการในนามผู้ได้รับอนุญาตจึงไม่ชอบ
ประกาศที่ห้ามมิให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทขายปลีกขนย้ายหรือยักย้ายข้าวนั้น หมายถึงผู้ประกอบการค้าข้าว ฯ ที่ต้องขออนุญาตเท่านั้น ไม่หมายถึงผู้จัดการหรือลูกจ้าง
การที่ภริยาเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบการค้าข้าวประเภทขายปลีก แต่สามีได้ทำการขนย้ายหรือยักย้ายข้าว ดังนี้ โจทก์จะฟ้องเอาผิดแก่สามีว่าได้ขนย้ายหรือยักย้ายข้าวในนามของภริยาผู้ได้รับอนุญาตมิได้.
การที่ภริยาเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบการค้าข้าวประเภทขายปลีก แต่สามีได้ทำการขนย้ายหรือยักย้ายข้าว ดังนี้ โจทก์จะฟ้องเอาผิดแก่สามีว่าได้ขนย้ายหรือยักย้ายข้าวในนามของภริยาผู้ได้รับอนุญาตมิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2059/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองข้าวเปลือกโดยไม่แจ้งปริมาณตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว แม้เป็นกสิกรก็ต้องปฏิบัติตาม
ข้าวเปลือกที่มีไว้ในครอบครองไม่แจ้งปริมาณ ต้องริบทั้งหมด และตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว มาตรา 8 ใช้บังคับทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นกสิกรหรือไม่ไม่เหมือนกับมาตรา 9 ซึ่งมีมาตรา 11 ยกเว้น ไว้สำหรับกสิกร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2059/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองข้าวเปลือกโดยไม่แจ้งปริมาณ: พ.ร.บ.การค้าข้าวใช้บังคับกับกสิกรเช่นกัน
ข้าวเปลือกที่มีไว้ในครอบครองไม่แจ้งปริมาณ ต้องริบทั้งหมด และตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวมาตรา 8 ใช้บังคับทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นกสิกรหรือไม่ ไม่เหมือนกับมาตรา 9 ซึ่งมีมาตรา 11 ยกเว้นไว้สำหรับกสิกร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาปกปิดปริมาณข้าวถือเป็นความผิดฐานไม่แจ้งตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว และไม่มีสิทธิรับบำเหน็จ
จำเลยมีข้าวไว้ในครอบครอง 6 เกวียนหลวงกับ 10 ถัง แต่จำเลยได้แจ้งปริมาณเพียง 3 เกวียนหลวง การที่จำเลยไม่แจ้งประมาณให้ครบถ้วน เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยเจตนาปกปิดข้าวนอกจากที่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บไว้นั้น จำเลยย่อมมีผิดฐานไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บสำหรับข้าวอีก 3 เกวียนหลวงกับ 10 ถัง
พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 5 บัญญัติให้ใช้บังคับแก่ความผิดซึ่งเกิดตามกฎหมายที่ระบุไว้ ส่วน พ.ร.บ.การค้าข้าวออกใช้ในภายหลัง และไม่มีบัญญัติให้นำ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดมาใช้บังคับแต่อย่างใด ฉะนั้นจะยกเอาการให้บำเหน็จตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว มาใช้แก่ความผิดตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ย่อมไม่ได้
พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 5 บัญญัติให้ใช้บังคับแก่ความผิดซึ่งเกิดตามกฎหมายที่ระบุไว้ ส่วน พ.ร.บ.การค้าข้าวออกใช้ในภายหลัง และไม่มีบัญญัติให้นำ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดมาใช้บังคับแต่อย่างใด ฉะนั้นจะยกเอาการให้บำเหน็จตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว มาใช้แก่ความผิดตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบอนุญาตขนย้ายข้าวและการเดินเรือในเวลากลางคืน: การตีความเงื่อนไขใบอนุญาตและการปฏิบัติตามประกาศ
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรีไปยังจังหวัดพระนครโดยยานพาหนะเรือบันทุกตามใบอนุญาต ๆ ให้ขนย้ายได้ภายใน 10 วัน ในวันที่ออกใบอนุญาตเวลาประมาณ 15 ถึง 16 น. ปลัดอำเภอได้ไปตรวจดูการขนย้ายจากโรงสีลงเรือกระแชงซึ่งจอดอยู่หน้าโรงสีเมื่อการขนถ้ายข้าวลงเรือเสร็จแล้ว ปลัดอำเภอได้ออกใบอนุญาตให้ขนย้ายข้าวได้ แต่น้ำในคลองแห้ง จึงยังออกเรือไม่ได้ จนเวลากลางคืนประมาณ 3.00 น. น้ำขึ้นเรือจึงออกได้ แล้วก็ถูกจับ ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าการขนข้าวจากอำเภอพานทองไปยังกรุงเทพฯ จะต้องใช้เวลากลางวันและกลางคืน รวม 4 วัน 4 คืน หากจะเดินเรือฉะเพาะกลางวันจะต้องใช้เวลาถึง 15 -16 วัน ปลัดอำเภอผู้ออกใบอนุญาตก็ทราบเหตุนี้ ก่อนออกใบอนุญาตก็หาได้ห้ามปรามหรือตักเตือนมิให้เดินเรือในเวลากลางคืนไม่ และในใบอนุญาตก็หามีข้อความห้ามมิให้เดินเรือในเวลากลางคืนไม่ ตามเหตุผลจะชี้ขาดว่าจำเลยบังอาจฝ่าฝืนประกาศคำสั่งห้ามขนย้ายข้าวในเวลากลางคืนยังไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกใบอนุญาตขนย้ายข้าวโดยมิได้ห้ามเดินเรือกลางคืน และการบังคับใช้ประกาศห้ามขนย้ายข้าวเวลากลางคืน
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรีไปยังจังหวัดพระนครโดยยานพาหนะเรือบรรทุก ตามใบอนุญาตอนุญาตให้ขนย้ายได้ภายใน 10 วัน ในวันที่ออกใบอนุญาตเวลาประมาณ 15.00 ถึง 16.00 น. ปลัดอำเภอได้ไปตรวจดูการขนย้ายข้าวจากโรงสีลงเรือกระแซงซึ่งจอดอยู่หน้าโรงสีเมื่อการขนถ่ายข้าวลงเรือเสร็จแล้ว ปลัดอำเภอได้ออกใบอนุญาตให้ขนย้ายข้าวได้ แต่น้ำในคลองแห้ง จึงยังออกเรือไม่ได้จนเวลากลางคืนประมาณ 3.00 น. น้ำขึ้นเรือจึงออกได้ แล้วก็ถูกจับ ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าการขนข้าวจากอำเภอพานทองไปยังกรุงเทพฯจะต้องใช้เวลากลางวันและกลางคืน รวม 4 วัน 4 คืน หากจะเดินเรือเฉพาะกลางวันจะต้องใช้เวลาถึง 15-16 วัน ปลัดอำเภอผู้ออกใบอนุญาตก็ทราบเหตุนี้ ก่อนออกใบอนุญาตก็หาได้ห้ามปรามหรือตักเตือนมิให้เดินเรือในเวลากลางคืนไม่ และในใบอนุญาตก็หามีข้อความห้ามมิให้เดินเรือในเวลากลางคืนไม่ ตามเหตุผลจะชี้ขาดว่าจำเลยบังอาจฝ่าฝืนประกาศคำสั่งห้ามขนย้ายข้าวในเวลากลางคืนยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณข้าว ไม่จำต้องระบุว่าเป็นผู้ค้าข้าว
ความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณสถานที่เก็บข้าวนั้น ฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุว่าจำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่