พบผลลัพธ์ทั้งหมด 722 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1512/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินมือเปล่าต้องมีการประกาศขายก่อน หากจำเลยอ้างเหตุไม่สมเหตุผล ศาลถือว่าจำเลยผิดสัญญา
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เจ้าพนักงานจะรับจดทะเบียนโอนให้แก่คู่กรณีได้ต่อเมื่อได้มีการประกาศขายมีกำหนด 30 วัน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 5 เสียก่อน ฉะนั้น การที่โจทก์จำเลยได้ไปอำเภอในวันที่ 1 สิงหาคม 2510 ตามสัญญา ก็เพื่อจะดำเนินการประกาศขายดังกล่าวข้างต้น แต่จำเลยกลับไม่ยอมประกาศขายโดยอ้างเหตุว่าโจทก์มีเงินสดชำระเพียง 20,000 บาท ส่วนอีก 37,500 บาทโจทก์จะขอจ่ายเป็นเช็คลงวันล่วงหน้าในเมื่อครบประกาศแล้วหนึ่งเดือนข้ออ้างดังกล่าวของจำเลยฟังไม่ขึ้นเพราะเหตุว่าในวันนั้นโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายผู้ซื้อยังไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินค่าที่ดินให้กับจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายผู้ขายแต่อย่างใดเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1512/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินมือเปล่าต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงเรื่องการประกาศขายก่อนจดทะเบียน การอ้างเหตุผลเรื่องเงินชำระไม่ชอบ
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เจ้าพนักงานจะรับจดทะเบียนโอนให้แก่คู่กรณีได้ต่อเมื่อได้มีการประกาศขายมีกำหนด 30 วันตามกฎกระทรวงฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 5 เสียก่อน ฉะนั้น การที่โจทก์จำเลยได้ไปอำเภอในวันที่ 1 สิงหาคม 2510 ตามสัญญา ก็เพื่อจะดำเนินการประกาศขายดังกล่าวข้างต้น แต่จำเลยกลับไม่ยอมประกาศขายโดยอ้างเหตุว่าโจทก์มีเงินสดชำระเพียง 20,000 บาท ส่วนอีก 37,500 บาทโจทก์จะขอจ่ายเป็นเช็คลงวันล่วงหน้า ในเมื่อครบประกาศแล้วหนึ่งเดือนข้ออ้างดังกล่าวของจำเลยฟังไม่ขึ้น เพราะเหตุว่าในวันนั้นโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายผู้ซื้อยังไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินค่าที่ดินให้กับจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายผู้ขายแต่อย่างใดเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินวัด: แม้มีการครอบครองและรังวัดออกโฉนดแล้ว แต่กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของวัดและห้ามอ้างอายุความ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินพิพาทเป็นที่วัด แม้จำเลยจะได้นำรังวัดออกโฉนดเป็นของจำเลย และครอบครองทำประโยชน์มานานสักเท่าใดก็ตามจำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ทั้งจะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดไม่ได้ เพราะตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 ก็ดีพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ. 2477 ก็ดีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ก็ดี ได้มีข้อบัญญัติไว้ตลอดมาว่าที่วัดผู้ใดผู้หนึ่งจะโอนกรรมสิทธิ์ที่นั้นไปไม่ได้ จะโอนกรรมสิทธิ์ได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ และห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นที่วัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินวัดห้ามโอน/อ้างอายุความ แม้มีการครอบครองทำประโยชน์นานก็ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินพิพาทเป็นที่วัด แม้จำเลยจะได้นำรังวัดออกโฉนดเป็นของจำเลย และครอบครองทำประโยชน์มานานสักเท่าใดก็ตาม จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ทั้งจะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดไม่ได้ เพราะตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 ก็ดี พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ. 2477 ก็ดี พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 ก็ดี และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ก็ดี ได้มีข้อบัญญัติไว้ตลอดมาว่า ที่วัด ผู้ใดผู้หนึ่งจะโอนกรรมสิทธิ์ที่นั้นไปไม่ได้ จะโอนกรรมสิทธิ์ได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ และห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นที่วัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงสละประเด็นต่อศาล: ผลผูกมัดคู่ความ & ศาลมีอำนาจวินิจฉัยตามตกลง
ในรายงานกระบวนพิจารณามีข้อความว่า คู่ความจะหาทางตกลงปรองดองในระหว่างกันเองก่อน แล้วจะแถลงให้ศาลทราบภายในวันที่ระบุไว้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือไม่แถลงให้ศาลทราบให้ศาลกำหนดเงินจำนวนหนึ่งขึ้นตามที่ศาลเห็นสมควรเพื่อให้เป็นการช่วยเหลือโดยจำเลยตกลงชำระตามที่ศาลกำหนด และโจทก์ก็พอใจตามนั้นไม่ติดใจดำเนินคดีกันต่อไป ข้อตกลงข้างต้นนี้เป็นการสละประเด็นตามฟ้องและตามคำให้การของคู่กรณี โดยต่างสละข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นอื่นสิ้นเชิง เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดจำนวนเงินที่จะให้จำเลยชำระแก่โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวย่อมมีผลผูกมัดโจทก์จำเลยดังนั้นคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะมาขอยกเลิกเพิกถอนข้อตกลง โดยจะขอให้สืบพยานต่อไป แล้วให้ศาลพิพากษาไปตามรูปคดีย่อมไม่อาจกระทำได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงสละประเด็นต่อศาล: ผลผูกพันและขอบเขตการเปลี่ยนแปลง
ในรายงานกระบวนพิจารณามีข้อความว่า คู่ความจะหาทางตกลงปรองดองในระหว่างกันเองก่อน แล้วจะแถลงให้ศาลทราบภายในวันที่ระบุไว้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือไม่แถลงให้ศาลทราบให้ศาลกำหนดเงินจำนวนหนึ่งขึ้นตามที่ศาลเห็นสมควร เพื่อให้เป็นการช่วยเหลือโดยจำเลยตกลงชำระตามที่ศาลกำหนด และโจทก์ก็พอใจตามนั้นไม่ติดใจดำเนินคดีกันต่อไป ข้อตกลงข้างต้นนี้เป็นการสละประเด็นตามฟ้องและตามคำให้การของคู่กรณี โดยต่างสละข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นอื่นสิ้นเชิง เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดจำนวนเงินที่จะให้จำเลยชำระแก่โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวย่อมมีผลผูกมัดโจทก์จำเลยดังนั้นคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะมาขอยกเลิกเพิกถอนข้อตกลงโดยจะขอให้สืบพยานต่อไป แล้วให้ศาลพิพากษาไปตามรูปคดีย่อมไม่อาจกระทำได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทนที่ไม่ได้รับมอบอำนาจ: ตัวแทนย่อมไม่มีอำนาจฟ้องแย้งแทนตัวการหากไม่มีใบมอบอำนาจ
จำเลยเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทยิบอินซอย จำกัด และฟ้องแย้งโดยไม่ปรากฏว่ามีใบมอบอำนาจจากบริษัทดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทนที่ไม่มีใบมอบอำนาจ: ตัวแทนย่อมไม่มีอำนาจฟ้องแย้งแทนตัวการ
จำเลยเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทยิบอินซอย จำกัด และฟ้องแย้งโดยไม่ปรากฏว่ามีใบมอบอำนาจจากบริษัทดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนำทรัพย์เป็นประกันหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์ทั่วไปหรือทรัพย์จำนำก็ได้
การจำนำเป็นการเอาทรัพย์เป็นประกันการชำระหนี้ อาจแบ่งแยกการจำนำกับหนี้ที่เอาทรัพย์เป็นประกันเป็นคนละส่วนได้ เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องอย่างหนี้สามัญ โดยบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทั่วไปของลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 หรือจะบังคับจำนำก็ได้ การจำนำมิได้ผูกพันผู้รับจำนำให้ต้องบังคับจำนำเฉพาะแต่ทางเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนำเป็นประกันหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับชำระหนี้ได้ทั้งจากทรัพย์สินทั่วไปและทรัพย์ที่จำนำ
การจำนำเป็นการเอาทรัพย์เป็นประกันการชำระหนี้อาจแบ่งแยกการจำนำกับหนี้ที่เอาทรัพย์เป็นประกันเป็นคนละส่วนได้ เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องอย่างหนี้สามัญโดยบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทั่วไปของลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 หรือจะบังคับจำนำก็ได้ การจำนำมิได้ผูกพันผู้รับจำนำให้ต้องบังคับจำนำเฉพาะแต่ทางเดียว