พบผลลัพธ์ทั้งหมด 722 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาจากการใช้ชีวิตร่วมกัน แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส เจ้าหนี้บังคับคดีเอาทรัพย์ส่วนเจ้าของร่วมไม่ได้
หญิงชายอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ได้ร่วมกันซื้อนาและทำกินเป็นการแสดงเจตนาให้ถือได้ว่าเป็นเจ้าของร่วมกัน ส่วนเงินที่ซื้อฝ่ายใดจะยืมใครมาเป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่เกี่ยวกับตัวทรัพย์ เพราะหญิงชายนั้นระคนปนทรัพย์กันใช้สอยและทำมาหากินด้วยกัน ต้องถือว่าต่างสิทธิเป็นเจ้าของคนละครึ่ง
เจ้าหนี้ของสามีจะเอาทรัพย์ส่วนของภริยาที่มิได้จดทะเบียนและมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามาชำระหนี้ไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 303/2488)
เจ้าหนี้ของสามีจะเอาทรัพย์ส่วนของภริยาที่มิได้จดทะเบียนและมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามาชำระหนี้ไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 303/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมทรัพย์สิน: สามีภริยาไม่ได้จดทะเบียนซื้อร่วมทำกิน สิทธิในทรัพย์สินแบ่งครึ่ง
หญิงชายอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสได้ร่วมกันซื้อนาและทำกินเป็นการแสดงเจตนาให้ถือได้ว่าเป็นเจ้าของร่วมกันส่วนเงินที่ซื้อฝ่ายใดจะยืมใครมาเป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่เกี่ยวกับตัวทรัพย์ เพราะหญิงชายนั้นระคนปนทรัพย์กันใช้สอยและทำมาหากินด้วยกัน ต้องถือว่าต่างมีสิทธิเป็นเจ้าของคนละครึ่ง
เจ้าหนี้ของสามีจะเอาทรัพย์ส่วนของภริยาที่มิได้จดทะเบียนและมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามาชำระหนี้ไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 303/2488)
เจ้าหนี้ของสามีจะเอาทรัพย์ส่วนของภริยาที่มิได้จดทะเบียนและมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามาชำระหนี้ไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 303/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังสละสิทธิโดยสัญญาประนีประนอม อายุความครอบครองไม่เริ่มนับ
จำเลยครอบครองที่พิพาทอยู่ ภายหลังได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมสละสิทธิยกที่พิพาทให้แก่ผู้มีชื่อตามสัญญายอมและศาลได้ออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมแล้วจำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องมอบและโอนสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่ผู้มีชื่อนั้นถึงแม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทตลอดมาเป็นเวลาเกิน 1 ปีก็มิใช่เป็นการเข้าแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันจะทำให้คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังสละสิทธิโดยสัญญาประนีประนอม การเข้าแย่งการครอบครอง และอายุความ
จำเลยครอบครองที่พิพาทอยู่ ภายหลังได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ยอมสละสิทธิยกที่พิพาทให้แก่ผู้มีชื่อตามสัญญายอม และศาลได้ออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องมอบและโอนสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่ผู้มีชื่อนั้น ถึงแม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทตลอดมาเป็นเวลาเกิน 1 ปี ก็มิใช่เป็นการเข้าแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันจะทำให้คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 1299 วรรคสอง ไม่จำเป็นต้องได้มาทั้งแปลง
การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ (ตามฎีกานี้คือที่ดิน)ตามมาตรา 1299 วรรคสองนั้น หมายความว่า ได้มาเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็ใช้ได้เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าจะต้องเป็นการได้มาทั้งแปลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ตาม ม.1299 วรรค 2 ไม่จำเป็นต้องได้มาทั้งแปลง เพียงส่วนหนึ่งก็ใช้ได้
การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์(ตามฎีกานี้คือที่ดิน) ตามมาตรา 1299 วรรค 2 นั้นหมายความว่า ได้มาเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็ใช้ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าจะต้องเป็นการได้มาทั้งแปลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์คำแปลกฎหมาย: จำเลยต้องรู้ว่าคำแปลนั้นเป็นของโจทก์
ผู้เสียหายได้แปลประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1669 เป็นภาษาอังกฤษแล้วตีพิมพ์จำหน่าย คำแปลดังกล่าวเป็นวรรณกรรมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ.2474 มาตรา 4 และผู้เสียหายได้ลิขสิทธิ์ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้จัดการสาขาประกันภัย และผลกระทบต่อการบอกล้างกรมธรรม์
เมื่อผู้จัดการสาขาของบริษัทจำเลยซึ่งประกอบธุรกิจการค้าในทางรับประกันภัยและประกันชีวิตเป็นเพียงผู้หาผู้ที่จะเอาประกันและดำเนินการเบื้องต้นเท่านั้นมิใช่ตัวแทนของบริษัทจำเลยในการทำกรมธรรม์ประกันชีวิตอำนาจในการที่จะรับประกันหรือไม่เป็นอำนาจของสำนักงานใหญ่การที่ผู้จัดการสาขารู้ข้อความจริง จะถือว่าบริษัทจำเลยต้องรู้ข้อความจริงด้วยหาได้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยรู้ข้อความจริงหรือรู้ว่าข้อแถลงเป็นความเท็จหรือควรจะรู้กรรมธรรม์ประกันชีวิตก็ตกเป็นโมฆียะเมื่อผู้รับประกันบอกล้างแล้ว ก็ตกเป็นโมฆะ ผู้รับประโยชน์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินค่าประกัน
เมื่อข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยรู้ข้อความจริงหรือรู้ว่าข้อแถลงเป็นความเท็จหรือควรจะรู้กรรมธรรม์ประกันชีวิตก็ตกเป็นโมฆียะเมื่อผู้รับประกันบอกล้างแล้ว ก็ตกเป็นโมฆะ ผู้รับประโยชน์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินค่าประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาที่รอรวมวินิจฉัยกับคำพิพากษา ไม่ถือเป็นคำสั่งที่ทำให้คดีเสร็จสิ้น อุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความและเป็นฟ้องซ้ำศาลชั้นต้นสั่งให้รอไว้รวมวินิจฉัยสั่งคำร้องในคำพิพากษาและให้ดำเนินการสืบพยานต่อไปนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสิ้น คู่ความยังไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความลงเป็นฟ้องซ้ำศาลชั้นต้นสั่งให้รอไว้รวมวินิจฉัยสั่งคำร้องในคำพิพากษา และให้ดำเนินการสืบพยานต่อไปนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้