พบผลลัพธ์ทั้งหมด 722 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1060/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นที่สุด เมื่อมีการชำระเงินแล้ว โจทก์หมดสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ได้ทำสัญญา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำละเมิดโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างจำเลยที่ 1 ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้เป็นนายจ้างลูกจ้าง โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเหตุสุดวิสัย และว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทกันแล้ว ดังนี้ประเด็นที่สำคัญที่จะต้องวินิจฉัยเบื้องต้น คือ โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมระงับข้อพิพาทกันไว้แล้วจริงหรือไม่ ถ้าได้ทำไว้จริงก็ไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป
เมื่อความรับผิดของจำเลยที่ 1 ได้ปลดเปลื้องไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็ไม่มีความรับผิดที่จะให้จำเลยที่ 2 ร่วมชดใช้ค่าเสียหายอันใดอีก แม้โจทก์จะไม่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่ 2 ก็ตาม โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ย่อมหมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วย
เมื่อความรับผิดของจำเลยที่ 1 ได้ปลดเปลื้องไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็ไม่มีความรับผิดที่จะให้จำเลยที่ 2 ร่วมชดใช้ค่าเสียหายอันใดอีก แม้โจทก์จะไม่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่ 2 ก็ตาม โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ย่อมหมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตค่าสินไหมทดแทนในคดีละเมิด: ค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการเรียนไม่ถือเป็นความเสียหายโดยตรง
ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายในกรณีละเมิด (อุบัติเหตุทางรถยนต์โดยสาร) นั้นรวมถึงค่ารักษาพยาบาลบาดแผล ค่าประสาทพิการ ค่าสิ่งของที่สูญหายไประหว่างสลบ แต่ไม่รวมถึงค่าที่ต้องขาดการเรียนแล้วสอบไล่ตกและค่าเล่าเรียนที่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตค่าสินไหมทดแทนในคดีละเมิด: ค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบาดเจ็บและทรัพย์สินสูญหายเท่านั้น
ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายในกรณีละเมิด(อุบัติเหตุทางรถยนต์โดยสาร)นั้น รวมถึงค่ารักษาพยาบาลบาดแผล ค่าประสาทพิการ ค่าสิ่งของที่สูญหายไประหว่างสลบ แต่ไม่รวมถึงค่าที่ต้องขาดการเรียนแล้วสอบไล่ตกและค่าเล่าเรียนที่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบในคดีประกันภัย: โจทก์ต้องพิสูจน์ความตายจากอุบัติเหตุเมื่อจำเลยปฏิเสธ
โจทก์ฟ้องว่า ภริยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้ในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุและภริยาโจทก์ได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยต่อสู้ว่าภริยาโจทก์ตายเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกวางแผนนำงูพิษมาให้กัดภริยาโจทก์ หรือนำภริยาโจทก์ไปให้งูพิษกัดตาย ดังนี้ เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าภริยาโจทก์ไม่ได้ตายเพราะถูกงูพิษกัดเองคือไม่เป็นอุบัติเหตุนั่นเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบในคดีประกันภัย: เมื่อจำเลยปฏิเสธเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ โจทก์ต้องนำสืบก่อน
โจทก์ฟ้องว่าภริยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้ในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุ และภริยาโจทก์ได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยต่อสู้ว่า ภริยาโจทก์ตายเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกวางแผนนำงูพิษมาให้กัดภริยาโจทก์ หรือนำภริยาโจทก์ไปให้งูพิษกัดตาย ดังนี้ เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าภริยา โจทก์ไม่ได้ตายเพราะถูกงูกัดเอง คือ ไม่เป็นอุบัติเหตุนั่นเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อกระบือที่ได้มาจากการลักทรัพย์ โดยผู้ซื้อมีความรู้หรือควรจะรู้ว่าเป็นของโจร
จำเลยที่ 2 รับของโจรกระบือจาก + แล้วขายให้จำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 รับซื้อไว้โดยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นกระบือของร้าย ก็มีความผิดฐานรับของโจรได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อของโจร: พฤติการณ์ส่อแสดงเจตนาของผู้รับซื้อที่รู้ว่าเป็นของร้าย
จำเลยที่ 2 รับของโจรกระบือจากบุคคลที่ลักมา แล้วขายให้จำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 รับซื้อไว้โดยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นกระบือของร้าย ก็มีความผิดฐานรับของโจรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำท้าและการสาบานพยานหลังคู่ความถึงแก่กรรม
คำท้าของคู่ความในศาลนั้น แม้คู่ความฝ่ายหนึ่งตายก็ยังมีผลผูกพันคู่ความอีกฝ่ายอยู่ ฉะนั้น การสาบานของพยานคนกลางตามคำท้าของคู่ความนั้น แม้จะสาบานภายหลังที่คู่ความฝ่ายหนึ่งตาย และอยู่ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ใดร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนก็ตามจึงหาตกเป็นโมฆะไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำท้าของคู่ความหลังการตายของโจทก์ การสาบานยังใช้ได้
คำท้าของคู่ความในศาลนั้น แม้คู่ความฝ่ายหนึ่งตายก็ยังมีผลผูกพันคู่ความอีกฝ่ายอยู่ ฉะนั้น การสาบานของพยานคนกลางตามคำท้าของคู่ความนั้น แม้จะสาบานภายหลังที่คู่ความฝ่ายหนึ่งตาย และอยู่ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ใดร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนก็ตามจึงหาตกเป็นโมฆะไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894-897/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท: ความสมบูรณ์ของฟ้องและเขตอำนาจศาล
1.ฟ้องว่าแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนตำรวจสันติบาลแบะสังฆมนตรี แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร นั้นเป็นฟ้องเคลือบคลุม ส่วนที่หาว่าแจ้งความเท็จต่อสังฆนายกแม้ไม่ระบุว่าเป็นใคร นั้น ไม่เคลือบคลุม เพราะใคร ๆ รวมทั้งจำเลยก็เข้าใจ และในขณะฟ้องนั้นสังฆนายกก็มีองค์เดียวเท่านั้น
2,ความผิดฐานหมิ่นประมาทใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 นั้น ไม่ต้องระบุว่าบุคคลที่ 3 นั้นเป็นใคร เพราะบุคคลที่ 3 นี้อาจเป็นใครก็ได้
3,เมื่อปรากฎว่าที่เกิดเหตุนั้นไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลและศาลเห็นว่าฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย นั้นย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161.
2,ความผิดฐานหมิ่นประมาทใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 นั้น ไม่ต้องระบุว่าบุคคลที่ 3 นั้นเป็นใคร เพราะบุคคลที่ 3 นี้อาจเป็นใครก็ได้
3,เมื่อปรากฎว่าที่เกิดเหตุนั้นไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลและศาลเห็นว่าฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย นั้นย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161.