พบผลลัพธ์ทั้งหมด 722 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆะของการสมรสซ้อน: คู่สมรสเดิมมีสิทธิฟ้องเพิกถอนการสมรสใหม่
โจทก์กับ ส. เป็นสามีภริยากันอยู่ตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย ครั้นเมื่อ ส. ตาย กระทรวงกลาโหมได้จ่ายบำนาญตกทอดให้แก่โจทก์ตลอดมา ต่อมาจำเลยไปคัดค้าน กระทรวงกลาโหมจึงงดจ่าย ปรากฏว่าก่อน ส. ตาย ส. ได้สมรสกับจำเลยโดยจดทะเบียนสมรส การจดทะเบียนสมรสเช่นนี้ย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1445 (3) , 1490 โจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนทะเบียนสมรสนั้นเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ชอบด้วยกฎหมาย และสิทธิการครอบครองที่ดินระหว่างราษฎร
(1) เดิมจำเลยทำงานอยู่ที่แห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี และโจทก์ได้ฟ้องอ้างถิ่นที่อยู่แห่งนี้และเจ้าพนักงานศาลก็นำหมายเรียกและสำเนาฟ้องส่งแก่จำเลย ณ ที่นี้และพบจำเลยๆ ไม่ยอมรับเจ้าพนักงานจึงวางหมายไว้ถือว่าได้ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องโดยชอบแล้ว ถึงแม้จะปรากฏว่าจำเลยได้ย้ายไปทำงานอยู่อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรีแต่จำเลยหาได้ย้ายทะเบียนและครอบครัวไปไม่ ยังคงกินอยู่หลับนอนอยู่ที่เดิม
(2) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 นั้นจำเลยไม่มีสิทธิอ้างพยานเอกสารมาสืบ
(3) ถึงแม้จะปรากฏว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังจำเลยว่าก็ตามแต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทอยู่ โจทก์ย่อมมีสิทธิดีกว่าจำเลยเพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างราษฎรด้วยกัน
(2) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 นั้นจำเลยไม่มีสิทธิอ้างพยานเอกสารมาสืบ
(3) ถึงแม้จะปรากฏว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังจำเลยว่าก็ตามแต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทอยู่ โจทก์ย่อมมีสิทธิดีกว่าจำเลยเพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างราษฎรด้วยกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกและภูมิลำเนา การครอบครองที่ดิน และสิทธิเหนือที่ดินสาธารณสมบัติ
(1) เดิมจำเลยทำงานอยู่ที่แห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี และโจทก์ได้ฟ้องอ้างถิ่นที่อยู่แห่งนี้และเจ้าพนักงานศาลก็นำหมายเรียกและสำเนาฟ้องส่งแก่จำเลย ณ ที่นี้ และพบจำเลย ๆ ไม่ยอมรับ เจ้าพนักงานจึงวางหมายไว้ ถือว่าได้ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องโดยชอบแล้ว ถึงแม้จะปรากฏว่าจำเลยได้ย้ายไปทำงานอยู่อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ยังคงกินอยู่หลับนอนอยู่ที่เดิม
(2) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 นั้น จำเลยไม่มีสิทธิอ้างพยานเอกสารมาสืบ
(3) ถึงแม้จะปรากฏว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังจำเลยว่าก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทอยู่ โจทก์ย่อมมีสิทธิดีกว่าจำเลย เพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างราษฎรด้วยกัน
(2) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 นั้น จำเลยไม่มีสิทธิอ้างพยานเอกสารมาสืบ
(3) ถึงแม้จะปรากฏว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังจำเลยว่าก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทอยู่ โจทก์ย่อมมีสิทธิดีกว่าจำเลย เพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างราษฎรด้วยกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสุราเป็นคนละคราวขาดตอน ไม่ถือว่ามีเจตนาขนสุราทั้งหมดเพื่อจำหน่าย จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา
จำเลยขนสุราจากร้านค้าสุราไปยังบ้านของ บ. 2 เที่ยว แต่ละเที่ยวมีปริมาณน้ำสุรา 9 ลิตรเศษ แต่เวลาก็ห่างกันชั่วโมงเศษ ดังนี้ การขนแต่ละเที่ยวย่อมขาดตอนกันไปแล้ว หากจะว่าจำเลยมีเจตนาจะขนสุราทั้งหมดนี้ต่อจากบ้าน บ. ไปให้ผู้ซื้อ ณ จุดหมายปลายทางแห่งหนึ่ง ถ้าเป็นแต่เพียงคำกล่าวอ้าง ก็จะถือว่าจำเลยกำลังขนสุราทั้งหมดไปยังจุดหมายปลายทางนั้น ๆ ไม่ได้ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 14
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามโฉนดสันนิษฐานเบื้องต้น การอุทิศทรัพย์สินต้องมีนิติบุคคลรับ
ผู้ใดมีชื่อในโฉนดที่ดิน ย่อมสันนิษฐานในเบื้องต้นว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นจนกว่าจะถูกพิสูจน์หักล้างเสีย
มัสยิดที่ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ย่อมไม่อยู่ในฐานะรับอุทิศทรัพย์สินที่มีผู้จะอุทิศให้
(อ้างฎีกาที่ 792/2497)
มัสยิดที่ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ย่อมไม่อยู่ในฐานะรับอุทิศทรัพย์สินที่มีผู้จะอุทิศให้
(อ้างฎีกาที่ 792/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: สิทธิในโฉนดเป็นหลักฐานเบื้องต้น แม้มีการอุทิศที่ไม่สมบูรณ์
ผู้ใดมีชื่อในโฉนดที่ดิน ย่อมสันนิษฐานในเบื้องต้นว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น จนกว่าจะถูกพิสูจน์หักล้างเสีย
มัสยิดที่ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลย่อมไม่อยู่ในฐานะรัรบอุทิศทรัพย์สินที่มีผู้จะอุทิศให้
อ้างฎีกาที่ 792/2497
มัสยิดที่ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลย่อมไม่อยู่ในฐานะรัรบอุทิศทรัพย์สินที่มีผู้จะอุทิศให้
อ้างฎีกาที่ 792/2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษทวีคูณการพนัน: จำเลยต้องพ้นโทษคดีก่อน จึงจะลงโทษทวีคูณได้ ศาลไม่อาจนำโทษเก่ามารวมกับคดีใหม่หากไม่มีโทษจำคุก
จำเลยกระทำผิดฐานเล่นการพนันซ้ำอีกในระหว่างเวลาที่ศาลรอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ในคดีก่อนนั้น จะวางโทษทวีคูณหรือทั้งจำทั้งปรับแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่พ้นโทษคดีก่อน
คดีที่ศาลพิพากษาปรับจำเลยนั้น จำเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกด้วยหาได้ไม่
คดีที่ศาลพิพากษาปรับจำเลยนั้น จำเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกด้วยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษซ้ำในคดีพนัน: การรอการลงโทษและการเพิ่มโทษตามกฎหมาย
จำเลยกระทำผิดฐานเล่นการพนันซ้ำอีกในระหว่างเวลาที่ศาลรอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ในคดีก่อนนั้น จะวางโทษทวีคูณหรือทั้งจำทั้งปรับแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่พ้นโทษคดีก่อน
คดีที่ศาลพิพากษาปรับจำเลยนั้น จะเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกด้วยหาได้ไม่
คดีที่ศาลพิพากษาปรับจำเลยนั้น จะเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกด้วยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีข้อตกลงชัดเจนของทั้งสองฝ่าย หากยังไม่ได้ตกลงกัน สัญญายังไม่สมบูรณ์
โจทก์ไปแจ้งความว่าจำเลยไม่ให้เงินแก่โจทก์ 20,000 บาทตามสัญญา แล้วพนักงานสอบสวนบันทึกข้อตกลงของโจทก์จำเลยไว้ว่า จำเลยยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 2,000 บาท โจทก์ไม่ยินยอม จำเลยยินยอมใช้เงิน 20,000 บาทแต่ไม่มีเงินสด จะให้หักโอนที่ดินที่เสม็ดเหนือ เสม็ดใต้ให้โจทก์ในราคาประมาณ 20,000 บาท คู่กรณีจะได้ทำการตกลงกันต่อไป ข้อความเพียงเท่านี้แสดงว่าโจทก์ยังไม่ได้ตกลงว่าจะยอมรับเอาที่ดินแทนเงินสดหรือไม่ ยังไม่มีข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายที่จะให้ระงับข้อพิพาท หนังสือนี้ยังไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีข้อตกลงร่วมกัน ระงับข้อพิพาทได้ จึงจะบังคับได้
โจทก์ไปแจ้งความว่าจำเลยไม่ให้เงินแก่โจทก์ 20,000 บาทตามสัญญา แล้วพนักงานสอบสวนบันทึกข้อตกลงของโจทก์จำเลยไว้ว่าจำเลยยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 2,000 บาท โจทก์ไม่ยินยอมจำเลยยินยอมใช้เงิน 20,000 บาทแต่ไม่มีเงินสดจะได้หักโอนที่ดินที่เสม็ดเหนือเสม็ดใต้ให้โจทก์ในราคาประมาณ 20,000 บาท คู่กรณีจะได้ทำการตกลงกันต่อไปข้อความเพียงเท่านี้แสดงว่าโจทก์ยังไม่ได้ตกลงว่าจะยอมรับเอาที่ดินแทนเงินสดหรือไม่ยังไม่มีข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายที่จะให้ระงับข้อพิพาทหนังสือนี้ยังไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ