คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประกอบ หุตะสิงห์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 722 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกงเกิดจากการหลอกลวงให้มอบทรัพย์สิน ไม่ใช่การเบียดบังทรัพย์สินเดิม
การที่จำเลยโดยทุจริต นำข้อความอันเป็นเท็จไปกล่าวหลอกลวงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริง และมอบเงินให้จำเลยไปนั้น เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ไม่ใช่ความผิดฐานยักยอก เพราะจำเลยหาได้ครอบครองเงินของผู้เสียหายมาก่อนแล้ว เบียดบังเอาไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกงจากการหลอกลวงโดยทุจริต
จำเลยนำข้อความอันเป็นเท็จไปกล่าวหลอกลวงเขาโดยทุจริตทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริง แล้วมอบเงินให้จำเลยไปนั้นเป็นความผิดฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นเจ้าพนักงานในหน้าที่ แม้ส่งถึงบุคคลที่สามก็มีความผิดตามกฎหมาย
หนังสือใส่ความผู้อื่นนั้นแม้จะส่งไปถึงนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวก็ถือว่าใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ตามมาตรา 326 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาและได้ร่วมเป็นองค์คณะตัดสินคดีที่ทำให้จำเลยแพ้ และจำเลยได้กล่าวข้อความซึ่งเป็นการดูหมิ่นโจทก์ในฐานะที่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาย่อมเป็นความผิดต่อมาตรา 198ประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน: การใส่ความต่อบุคคลที่ 3 และการดูหมิ่นผู้พิพากษา
หนังสือใส่ความผู้อื่นนั้น แม้จะส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ก็ถือว่าใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ตามมาตรา 326 แห่ง ประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา และได้ร่วมเป็นองค์คณะตัดสินคดีที่ทำให้จำเลยแพ้และจำเลยได้กล่าวข้อความซึ่งเป็นการดูหมิ่น โจทก์ในฐานะที่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ย่อมเป็นความผิดต่อมาตรา 198ประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องขับไล่ได้เมื่อบอกเลิกสัญญาแล้ว และไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในเขตสุขาภิบาล
การเช่าห้องที่ไม่มีหนังสือเป็นหลักฐานผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ มิใช่เป็นการฟ้องร้องบังคับคดีให้ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าแต่อย่างใด
ห้องเช่าอยู่ในเขตสุขาภิบาล ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติให้อนุโลมเข้ารับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ เช่นเดียวกับเคหะในเขตเทศบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าไม่มีหลักฐาน ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้ และไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การเช่าห้องที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ เพราะมิใช่เป็นการฟ้องร้องบังคับคดีให้ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าแต่อย่างใด
ห้องเช่าอยู่ในเขตสุขาภิบาล ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อนุโลมเข้ารับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าภาวะคับขันเช่นเดียวกับเคหะในเขตเทศบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายหลักเขตป่าสงวน: ฟ้องต้องระบุรายละเอียดชัดเจน
ในฟ้องกล่าวบรรยายแต่เพียงว่า จำเลยทำลายตราหลักเขตป่าสงวนซึ่งเจ้าพนักงานตีตราประทับไว้ที่ต้นไม้ส้าน ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นตราที่เจ้าพนักงานประทับไว้ในการปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัดหรือรักษาสิ่งนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141 ฟ้องอย่างนี้ศาลต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายตราหลักเขตป่าสงวน ต้องพิสูจน์เจตนาและวัตถุประสงค์ของการประทับตรา เพื่อให้เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ในฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า ทำลายตราหลักเขตป่าสงวนซึ่งเจ้าพนักงานตรีตราประทับไว้ที่ต้นไม้ส้าน ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นตราที่เจ้าพนักงานประทับไว้ในการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัดหรือรักษาสิ่งนั้น ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141
ฟ้องอย่างนี้ศาลย่อมยกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้หุ้นส่วน-ล้มละลาย: การชำระหนี้ของห้างโดยหุ้นส่วนกระทบสิทธิเจ้าหนี้
หนี้ที่เกิดแต่กิจการของหุ้นส่วนที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้ผูกพันส่วนตัวผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่ใช่ลูกหนี้เป็นคนละคนไปจากผู้เป็นหุ้นส่วนเมื่อผู้ล้มละลายก็เป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วยแล้ว การที่หุ้นส่วนคนหนึ่งเอาเงินของห้างหุ้นส่วนชำระหนี้ของห้างหุ้นส่วนก็ถือว่าเป็นการกระทำแทนหุ้นส่วนอื่นรวมทั้งผู้ล้มละลายด้วย ตามนัยแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1033,1042 เมื่อการนั้นทำให้เจ้าหนี้ได้เปรียบกัน ต้องตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 115เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมขอให้ศาลสั่งเพิกถอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ห้างหุ้นส่วนไม่จดทะเบียน: การชำระหนี้แทนกันและผลกระทบต่อเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย
หนี้ที่เกิดแต่กิจการของห้างหุ้นส่วนที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เป็นหนี้ผูกพันส่วนตัวผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่ใช่ลูกหนี้เป็นคนละคนไปจากผู้เป็นหุ้นส่วน เมื่อผู้ล้มละลายก็เป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วยแล้ว การที่หุ้นส่วนคนหนึ่งเอาเงินของห้างหุ้นส่วนชำระหนี้ของห้างหุ้นส่วนก็ถือว่าเป็นการกระทำแทนหุ้นส่วนอื่นรวมทั้งผู้ล้มละลายด้วย ตามนัย แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1033, 1042 เมื่อการนั้นทำให้เจ้าหนี้ได้เปรียบกัน ต้องตามมาตรา 115 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมขอให้ศาลสั่งเพิกถอนได้
of 73