พบผลลัพธ์ทั้งหมด 722 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดมาตรา 228: การปิดกั้นเหมืองสาธารณโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดทางอาญา
จำเลยปิดกั้นเหมืองสาธารณเพราะเชื่อมั่นโดยสุจริตว่าเป็นเหมืองของจำเลยนั้น จำเลยย่อมไม่รู้ว่าเหมืองนั้นเป็นสาธารณูปโภคซึ่งเป็นองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 228 จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2504)
เมื่อเป็นเช่นนี้ ฎีกาของจำเลยที่ว่าเป็นเหมืองของจำเลยก็ไม่ต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง หากจำเลยมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ในเหมืองอย่างไร ก็ชอบที่จะว่ากล่าวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2504)
เมื่อเป็นเช่นนี้ ฎีกาของจำเลยที่ว่าเป็นเหมืองของจำเลยก็ไม่ต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง หากจำเลยมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ในเหมืองอย่างไร ก็ชอบที่จะว่ากล่าวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: เงินผ่อนชำระค่าออกแบบ หรือ เงินยืมทดรอง?
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบสร้างคานเรือ 150,000 บาท จำเลยผ่อนชำระ 50,000 บาท ที่เหลือไม่ชำระ จำเลยให้การต่อสู้และว่าเงิน 50,000 บาท เป็นเงินที่ให้โจทก์ยืมทดรองไปใช้ จึงฟ้องแย้งเรียกคืน นั้น ฟ้องแย้งนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์โดยตรง ศาลจำต้องพิจารณาประเด็นข้อนี้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: สิทธิเรียกร้องเงินยืมทดรองเมื่อผลงานไม่ได้รับการอนุมัติ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบสร้างคานเรือ150,000 บาท จำเลยผ่อนชำระ 50,000 บาท ที่เหลือไม่ชำระ จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การว่าไม่ได้ว่าจ้างโจทก์ดังกล่าว แต่จำเลยใช้ให้โจทก์ออกแบบสร้างคานเรือในฐานะที่โจทก์เป็นลูกจ้างส่วนตัวของจำเลย ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ตกลงรับแบบการสร้างคานเรือของโจทก์จำเลยจะให้บำเหน็จรางวัลเป็นเงินโบนัสสิ้นปีแก่โจทก์ตามสมควร ส่วนเงิน 50,000 บาท นั้น จำเลยได้ให้แก่โจทก์ไปจริง คือให้โจทก์ยืมทดรองไปใช้ก่อน ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ โจทก์จะต้องคืนให้จำเลย บัดนี้ การท่าเรือกรุงเทพฯไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกเงิน 50,000 บาทคืนจากโจทก์ ดังนี้คำฟ้องแย้งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรง ศาลต้องรับคำฟ้องแย้งไว้ดำเนินการต่อไปตามกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาขัดต่อผลคำพิพากษาถึงที่สุด สัญญาประนีประนอม
ทำสัญญาประนีประนอมกัน แบ่งที่ดินเป็น 4 ส่วน โดยถือตามหลักที่แบ่งไว้ต่อมาจำเลยไม่ยอมตามที่ตกลง โจทก์จึงฟ้องขอให้แบ่งตามสัญญา ศาลพิพากษาให้แบ่งเป็น 4 ส่วนเท่าๆ กันคดีถึงที่สุด ดังนี้ ต่อมาศาลจะสั่งเปลี่ยนแก้ให้แบ่งตามที่ตกลงปักหลักกันตามสัญญา ไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการบังคับตามสัญญาประนีประนอมหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด การเปลี่ยนแปลงแก้ไขต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
ทำสัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินมรดกแปลงหนึ่งออกเป็น 4 ส่วน ตามที่ตกลงปักหลักเขตแบ่งกันไว้ (ซึ่งได้จำนวนเนื้อที่ไม่เท่ากัน) แล้ว ต่อมาจำเลยไม่ยินยอมตามที่ตกลงกัน โจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้แบ่งตามสัญญา ศาลพิพากษาให้แบ่งเป็น 4 ส่วนเท่าๆ กัน คดีถึงที่สุดดังนี้ต่อมาศาลจะสั่งเปลี่ยนแก้ให้แบ่งตามที่ตกลงปักหลักกันตามสัญญาไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 143 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำเนาเอกสารทางกฎหมาย: ถือฉบับยื่นต่อศาลเป็นหลัก
ต้นฉบับใบมอบอำนาจฟ้องคดีมีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ 2 คนครบถ้วน แต่สำเนาที่ส่งให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งปรากฎว่าตกพยานไปคนหนึ่ง ดังนี้ ต้องถือต้นฉบับที่ยื่นต่อศาลเป็นสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เอกสารมอบอำนาจ: ต้นฉบับสำคัญกว่าสำเนา
ต้นฉบับใบมอบอำนาจฟ้องคดีมีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ 2คนครบถ้วน แต่สำเนาที่ส่งแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้น ปรากฏว่าตกพยานไปคนหนึ่ง ดังนั้น ต้องถือต้นฉบับที่ยื่นต่อศาลเป็นสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัวของผู้เสียหายทำให้สิทธิในการดำเนินคดีระงับ
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา เมื่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ขอถอนฟ้องและขอถอนคำร้องทุกข์โดยจำเลยไม่คัดค้านแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องร้องย่อมระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาโดยโจทก์ร่วมสิทธิการฟ้องระงับ
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาเมื่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ขอถอนฟ้องและขอถอนคำร้องทุกข์ โดยจำเลยไม่คัดค้านแล้วสิทธินำคดีมาฟ้องร้องย่อมระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้าซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต: การตีความคำให้การประกอบฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจทำการค้าขายซากกระบือ คือ หนังกระบือดิบ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำเลยให้การว่าได้นำหนังกระบือไปขายจริงตามฟ้องโดยไปพบมีผู้นำมาขายกลางทางจึงซื้อและนำไปขายเอากำไรอีกต่อหนึ่ง ดังนี้ ย่อมเข้าใจได้แล้วว่าจำเลยค้าหนังกระบือโดยไม่ได้รับอนุญาต