คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประกอบ หุตะสิงห์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 722 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้าขายซากกระบือโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจทำการค้าขายซากกระบือ คือหนังกระบือดิบโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจำเลยให้การว่าได้นำหนังกระบือไปขายจริงตามฟ้องโดยไปพบมีผู้นำมาขายกลางทาง จึงซื้อและนำไปขายเอากำไรอีกต่อหนึ่งดังนี้ ย่อมเข้าใจได้แล้วว่าจำเลยค้าหนังกระบือโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผาถ่านไม่ใช่การทำป่าไม้ตามกฎหมายภาษีอากร
การเผาถ่าน ไม่ใช่การทำป่าไม้ตามความในพระราชกฤษฎีกากำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากรพ.ศ.2496 มาตรา 3 ข้อ 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดประเภทรายได้จากการเผาถ่านเพื่อเสียภาษี: ทำป่าไม้หรืออุตสาหกรรม
การเผาถ่านขาย ไม่ใช่การทำไม้ตามความในพระราชกฤษฎีกากำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ข้อ (14).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืนและการยิงเพื่อข่มขู่ต่อเนื่องจากการปล้น ถือเป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่
การที่จำเลยปล้นทรัพย์และยิงปืนทางท้ายขบวนเกวียนหลังจากบอกให้พวกผู้เสียหายขับเกวียนไปได้ นั้น เป็นการยิงปืนเพื่อขู่ขวัญมิให้พวกเจ้าทรัพย์ติดตามต่อสู้เห็นได้ว่าเหตุการณ์ยังคงต่อเนื่องกับการปล้นอยู่จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืนและการยิงเพื่อข่มขู่ยับยั้งการติดตามของผู้เสียหายต่อเนื่องจากการปล้น
การที่จำเลยปล้นทรัพย์และยิงปืนทางท้ายขบวนเกวียนหลังจากบอกให้พวกผู้เสียหายขับเกวียนไปได้ นั้น เป็นการยิงปืนเพื่อขู่ขวัญมิให้พวกเจ้าทรัพย์ติดตามต่อสู้ เห็นได้ว่า เหตุการณ์ยังคงต่อเนื่องกับการปล้นอยู่ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาว่าจ้างรังวัดที่ดินและการบังคับตามสัญญาเมื่อคู่สัญญาไม่ปฏิบัติตาม
โจทก์จำเลยทำสัญญาให้กรรมการวัดสอบเขตที่ดินตามเนื้อที่ในโฉนดของโจทก์ หากปรากฏว่าจำเลยปลูกรั้วล้ำเข้าไปในเขตของโจทก์จำเลยยอมรื้อรั้ว เมื่อเริ่มรังวัดเพียงด้านหนึ่ง ปรากฏว่ารั้วของจำเลยล้ำเข้าไปในเขตที่ของโจทก์ 1.20 เมตร จำเลยจึงไม่ยอมให้วัดต่อไป สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวนี้ย่อมเป็นสัญญาที่ใช้บังคับกันได้ตามกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่ยินยอมให้กรรมการวัดตามสัญญาที่ตกลงกัน จำเลยก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมจะมาฟ้องขอให้บังคับจำเลยมิให้ขัดขวางในการที่กรรมการจะทำการตามสัญญานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความชอบธรรม ศาลบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ แม้การรังวัดไม่สมบูรณ์
โจทก์จำเลยทำสัญญาให้กรรมการวัดสอบเขตที่ดินตามเนื้อที่ในโฉนดของโจทก์หากปรากฎว่าจำเลยปลูกรั้วล้ำเข้าไปในเขตของโจทก์ จำเลยยอมรื้อรั้ว เมื่อเริ่มรังวัดเพียงด้านหนึ่งปรากฎว่ารั้วของจำเลยล้ำเข้าไปในเขตที่ของโจทก์ 1.20 เมตร จำเลยจึงไม่ยอมให้วัดต่อไป สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวนี้ย่อมเป็นสัญญาที่ใช้บังคับกันได้ตามกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่ยินยอมให้กรรมการวัดตามสัญญาที่ตกลงกัน นั้น จำเลยก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมจะมาฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยมิให้ขัดขวางในการที่กรรมการจะทำการตามสัญญานั้นได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนขายทรัพย์สินและสัญญาเช่า: ผลกระทบต่อสิทธิผู้เช่าเดิม
เดิมที่ดินและตึกพิพาทเป็นของโจทก์ ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯมาก่อนแล้วต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินจำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินเพียง 1 ปี พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าที่ดินให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องและศาลพิพากษาขับไล่จำเลย ดังนี้ เป็นอุบายที่จะขับไล่ผู้ร้อง จะเอาผลคำพิพากษานั้นมาบังคับขับไล่ผู้ร้องด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมค่าเช่า: สิทธิของผู้เช่าช่วง
เดิมที่ดินและตึกพิพาทเป็นของโจทก์ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่ามาก่อนแล้วต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินซึ่งมีเนื้อที่เพียงเท่าที่ตัวตึกตั้งอยู่ จำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินเพียง 1 ปี พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าที่ดินให้โจทก์เลย โจทก์จึงฟ้องและศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ดังนี้ จะเอาผลคำพิพากษานั้นมาบังคับขับไล่ผู้ร้องด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งในคดีขับไล่: ต้องรับฟ้องแย้งก่อนชี้ขาดประเด็นสัญญาต่างตอบแทน
ฟ้องขับไล่ออกจากที่เช่า จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้เสียเงินกินเหล่าแก่โจทก์เพื่ออยู่ 9 ปี และฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ให้จำเลยเช่าต่อไปอีก 3 ปี เพื่อจะได้อยู่ครบ 9 ปี นั้น แม้เป็นการเช่าเกิน 3 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม แต่จำเลยเถียงว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนมิใช่สัญญาเช่าธรรมดา จึงควรรับฟ้องแย้งไว้ก่อน เพราะจะชี้ขาดในประเด็นนี้ก่อนรับฟ้องแย้งหาควรไม่
of 73