คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยง เหลืองรังษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,154 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าทารกแรกเกิด: การกระทำแสดงเจตนาฆ่า แม้จะอ้างเพียงต้องการละทิ้ง
เมื่อรูปคดีฟังได้ว่า จำเลยคลอดบุตรออกมาแล้วไม่ขอความช่วยเหลือใคร ไม่บอกให้ใครทราบ จำเลยได้ดึงสายสะดือเด็กจนขาด แล้วทิ้งรกลงในส้วมและลาดน้ำล้างโลหิตจนหมด เอาเด็กวางไว้ในอ่างปัสสาวะ เปิดน้ำไหลลาดท่วมตัว ทำให้น้ำเข้าปากและปอดเด็ก แล้วเด็กนั้นตายเพราะปอดบวมในวันรุ่งขึ้น ถือได้แล้วว่าเป็นการที่จำเลยกระทำโดยรู้สึกในการที่กระทำนั้น และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การทำดังนี้ เด็กบุตรของจำเลยอาจตายได้ ประกอบกับเหตุที่จำเลยทำไปทั้งนี้ก็เพราะจำเลยไม่ต้องการบุตรคนนี้ จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง
กรณีตามพฤติการณ์หาใช่จำเลยมีเจตนาเพียงต้องการทิ้งบุตรของจำเลยไว้ให้แก่โรงพยาบาลไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าทารกแรกเกิด: การกระทำแสดงถึงเจตนาและเล็งเห็นผลตายได้
เมื่อรูปคดีฟังได้ว่า จำเลยคลอดบุตรออกมาแล้วไม่ขอความช่วยเหลือใคร. ไม่บอกให้ใครทราบ. จำเลยได้ดึงสายสะดือเด็กจนขาด แล้วทิ้งรกลงในส้วมและลาดน้ำล้างโลหิตจนหมด. เอาเด็กวางไว้ในอ่างปัสสาวะ. เปิดน้ำไหลลาดท่วมตัว ทำให้น้ำเข้าปากและปอดเด็ก. แล้วเด็กนั้นตายเพราะปอดบวมในวันรุ่งขึ้น. ถือได้แล้วว่าเป็นการที่จำเลยกระทำโดยรู้สึกในการที่กระทำนั้น. และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การทำดังนี้. เด็กบุตรของจำเลยอาจตายได้. ประกอบกับเหตุที่จำเลยทำไปทั้งนี้ก็เพราะจำเลยไม่ต้องการบุตรคนนี้. จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 วรรคสอง.
กรณีตามพฤติการณ์หาใช่จำเลยมีเจตนาเพียงต้องการทิ้งบุตรของจำเลยไว้ให้แก่โรงพยาบาลไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางและการคืนราคาข้าวที่จำหน่ายแล้วในคดีการค้าข้าวที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งให้ผู้ประกอบการค้าข้าวทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันรุ่งขึ้น และคำขอตามฟ้องส่วนหนึ่งขอให้สั่งคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนที่จำเลยได้จำหน่ายไปเสียก่อนแล้ว เมื่อปรากฏว่าข้าวจำนวนนี้จำเลยได้จำหน่ายไปแล้ว ก็ไม่มีข้าวที่ศาลจะสั่งริบได้ และจึงไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไปว่าจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนนี้แก่แผ่นดินตามคำขอของโจทก์ได้หรือไม่ด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางและการคืนราคาข้าวในคดีละเมิดกฎหมายการค้าข้าว: ศาลฎีกาตัดสินว่าการริบของกลางต้องมีเหตุผลและข้าวที่จำหน่ายไปแล้วไม่ต้องคืนราคา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งให้ผู้ประกอบการค้าข้าวทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันรุ่งขึ้น และคำขอตามฟ้องส่วนหนึ่งขอให้สั่งคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนที่จำเลยได้จำหน่ายไปเสียก่อนแล้ว เมื่อปรากฏว่าข้าวจำนวนนี้จำเลยได้จำหน่ายไปแล้ว ก็ไม่มีข้าวที่ศาลจะสั่งริบได้ และจึงไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไปว่าจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนนี้แก่แผ่นดินตามคำขอของโจทก์ได้หรือไม่ด้วย(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางและการคืนราคาข้าวในคดีการค้าข้าวที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศเจ้าหน้าที่ ศาลฎีกาตัดสินให้คืนของกลางและยกคำขอคืนราคาข้าวที่จำหน่ายไปแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งให้ผู้ประกอบการค้าข้าวทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันรุ่งขึ้น. และคำขอตามฟ้องส่วนหนึ่งขอให้สั่งคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนที่จำเลยได้จำหน่ายไปเสียก่อนแล้ว. เมื่อปรากฏว่าข้าวจำนวนนี้จำเลยได้จำหน่ายไปแล้ว. ก็ไม่มีข้าวที่ศาลจะสั่งริบได้. และจึงไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไปว่าจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวจำนวนนี้แก่แผ่นดินตามคำขอของโจทก์ได้หรือไม่ด้วย.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับข้อพิพาทด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความ และการพิจารณาคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลมีอำนาจที่จะแยกการพิจารณาคดีอาญาออกจากคดีแพ่ง และพิพากษาคดีอาญาไปทีเดียว ส่วนคดีแพ่งจะพิพากษาในภายหลังก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 42 วรรค 2 ฉะนั้นการที่โจทก์ถอนฟ้องคดีส่วนอาญาไป จึงหาทำให้คดีส่วนแพ่งระงับไปด้วยไม่
โจทก์จำเลยได้ตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาลงว่าจำเลยขอชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์เพียง 170,000 บาท โดยจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนโจทก์ตกลงด้วย ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยโจทก์จำเลยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ศาลชั้นต้นได้จดข้อความแห่งข้อตกลงของคู่ความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาและคู่ความได้ลงชื่อไว้แล้ว ข้อตกลงนั้นจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ 851แล้ว สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวนี้หาจำเป็นที่ศาลจะต้องบันทึกลงไว้ในแบบพิมพ์สัญญายอมความเสมอไปไม่ ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าคู่ความได้ตกลงประนีประนอมยอมความกันในประเด็นแห่งคดี ไม่มีข้อเท็จจริงอื่นที่ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาคดีไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับข้อพิพาทด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความและการพิจารณาคดีแพ่งควบคู่คดีอาญา
คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลมีอำนาจที่จะแยกการพิจารณาคดีอาญาออกจากคดีแพ่ง และพิพากษาคดีอาญาไปทีเดียว. ส่วนคดีแพ่งจะพิพากษาในภายหลังก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 42 วรรคสอง. ฉะนั้นการที่โจทก์ถอนฟ้องคดีส่วนอาญาไป จึงหาทำให้คดีส่วนแพ่งระงับไปด้วยไม่.
โจทก์จำเลยได้ตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาลงว่าจำเลยขอชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์เพียง 170,000 บาท. โดยจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนโจทก์ตกลงด้วย. ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยโจทก์จำเลยยอมผ่อนผันให้แก่กัน. ศาลชั้นต้นได้จดข้อความแห่งข้อตกลงของคู่ความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาและคู่ความได้ลงชื่อไว้แล้ว. ข้อตกลงนั้นจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ 851แล้ว. สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวนี้หาจำเป็นที่ศาลจะต้องบันทึกลงไว้ในแบบพิมพ์สัญญายอมความเสมอไปไม่. ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าคู่ความได้ตกลงประนีประนอมยอมความกันในประเด็นแห่งคดี. ไม่มีข้อเท็จจริงอื่นที่ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้ว. ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาคดีไปได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลแยกพิจารณาได้ การประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาชอบด้วยกฎหมาย
คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลมีอำนาจที่จะแยกการพิจารณาคดีอาญาออกจากคดีแพ่ง และพิพากษาคดีอาญาไปทีเดียวส่วนคดีแพ่งจะพิพากษาในภายหลังก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 42 วรรคสอง ฉะนั้นการที่โจทก์ถอนฟ้องคดีส่วนอาญาไป จึงหาทำให้คดีส่วนแพ่งระงับไปด้วยไม่
โจทก์จำเลยได้ตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาลงว่าจำเลยขอชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์เพียง 170,000 บาท โดยจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนโจทก์ตกลงด้วย ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยโจทก์จำเลยยอมผ่อนผันให้แก่กัน ศาลชั้นต้นได้จดข้อความแห่งข้อตกลงของคู่ความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาและคู่ความได้ลงชื่อไว้แล้ว ข้อตกลงนั้นจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ 851แล้ว สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวนี้หาจำเป็นที่ศาลจะต้องบันทึกลงไว้ในแบบพิมพ์สัญญายอมความเสมอไปไม่ ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าคู่ความได้ตกลงประนีประนอมยอมความกันในประเด็นแห่งคดี ไม่มีข้อเท็จจริงอื่นที่ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาคดีไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความเหมือน/คล้ายคลึงของสารสำคัญและเจตนาเลียนแบบ
เครื่องหมายการค้าของโจทก์ 2 ตรา เป็นรูปเด็กจูงควายและนกขี่ควายของจำเลยเป็นรูปเด็กจูงและฉุดควาย กับควายขี่นก เห็นได้ว่ามีสารสำคัญอย่างเดียวกันคือควายกับเด็กและควายกับนก แม้จะมีการผิดแปลกแตกต่างกันไปบ้างแต่สารสำคัญของเครื่องหมายทั้งสองก็ยังคงเป็นอย่างเดียวกัน เช่นนี้เรียกได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนหรือคล้ายคลึงกับของโจทก์ ทั้งเมื่อพิจารณาถึงการขานชื่อก็เป็นการเรียกขานชื่ออย่างเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำมาใช้กับสินค้าประเภทเดียวกันแล้ว อาจทำให้ผู้ซื้อผิดหลงได้ และเมื่อปรากฏว่าเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่รับจดทะเบียนให้มาก่อนครั้งแรก ต่อเมื่อจำเลยได้ดัดแปลงจนได้รับจดให้ภายหลัง ย่อมส่อเจตนาของจำเลยว่าประสงค์จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความคล้ายคลึงและเจตนาเลียนแบบในการจดทะเบียน
เครื่องหมายการค้าของโจทก์ 2 ตรา เป็นรูปเด็กจูงควายและนกขี่ควายของจำเลยเป็นรูปเด็กจูงและฉุดควาย กับควายขี่นก เห็นได้ว่ามีสารสำคัญอย่างเดียวกันคือควายกับเด็ก และควายกับนก แม้จะมีการผิดแปลกแตกต่างกันไปบ้าง แต่สารสำคัญของเครื่องหมายทั้งสองก็ยังคงเป็นอย่างเดียว เช่นนี้เรียกได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนหรือคล้ายคลึงกับของโจทก์ ทั้งเมื่อพิจารณาถึงการขานชื่อก็เป็นการเรียกขานชื่ออย่างเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำมาใช้กับสินค้าประเภทเดียวกันแล้ว อาจทำให้ผู้ซื้อผิดหลงได้และเมื่อปรากฏว่าเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่รับจดทะเบียนให้มาก่อนครั้งแรก แต่เมื่อจำเลยได้ดัดแปลงจนได้รับจดให้ภายหลัง ย่อมส่อเจตนาของจำเลยว่าประสงค์จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าและของโจทก์
of 116