พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,154 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไม่เข้าข้อยกเว้นการป้องกันตัว
                        
                        จำเลยเป็นคนงานของผู้ตาย จำเลยไม่สมัครใจทำงานกับผู้ตาย จำเลยขอเงินค่าโดยสารรถจากผู้ตายเพื่อกลับบ้าน ผู้ตายไม่ให้ จำเลยว่าจะไปขอความช่วยเหลือตำรวจผู้ตายโกรธ ตบหน้าจำเลย 1 ที และใช้ไม้ข้างถนนตีจำเลย 1 ที จำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายบ้าง  ผู้ตายชักปืนออกจะยิงจำเลย จำเลยเข้าแย่งปืนจากผู้ตายได้ จำเลยไล่ยิงตาย ผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยเข้าไปยิงผู้ตาย 2 นัด ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ไม่ใช่เป็นกรณีป้องกันตัว
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1452/2510
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การยกเว้นโทษอาวุธปืนตามกฎหมายแก้ไขใหม่ในช่วงเวลาที่กำหนด
                        
                        โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืน ฯลฯ  นำไปขอรับอนุญาตหรือนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้ภายใน 90 วัน  โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษซึ่งเมื่อคดียังอยู่ในระหว่างเวลา 90 วัน ก็ต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว  ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1452/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การยกเว้นโทษทางอาญาเนื่องจากกฎหมายใหม่ให้โอกาสผู้กระทำผิดขออนุญาตหรือมอบอาวุธปืน
                        
                        โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน  ฯ  ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา  มีประราชบัญญัติอาวุธปืน  ฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืน ฯลฯ  นำไปขอรับอนุญาติหรือนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้ภายใน  90  วัน  โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ  ซึ่งเมื่อคดียังอยู่ในระหว่าง  90  วัน  ก็ต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว  ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2510
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ค่าขึ้นศาลฟ้องแย้งกรณีที่ดินสาธารณสมบัติ - มิใช่คดีกรรมสิทธิ์
                        
                        จำเลยฟ้องแย้งในฐานะนายอำเภอและประธานสุขาภิบาล  ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวาร  รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาท ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลยมิใช่เป็นคดีที่พิพาทโต้แย้งด้วยกรรมสิทธิ์ที่พิพาท  จึงเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            คดีพิพาทที่ดินสาธารณสมบัติ การฟ้องแย้งขับไล่ไม่ใช่คดีกรรมสิทธิ์
                        
                        จำเลยฟ้องแย้งในฐานะนายอำเภอและประธานสุขาธิบาล ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทีพิพาท ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย มิใช่เป็นคดีที่พิพาทโต้แย้งด้วยกรรมสิทธิ์ที่พิพาท จึงเสียค่าขึ้นศาลอย่างมีคดีที่มีคำให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2510
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ฟ้องละเมิดฐานขับรถประมาท: ฟ้องสมบูรณ์เมื่อระบุเหตุละเมิดและค่าเสียหายชัดเจน
                        
                        โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด  โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์โจทก์ ด้วยความประมาทขาดความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องมี และจำเลยขับรถด้วยความเร็วเกินอัตรา พุ่งเข้าชนท้ายรถของโจทก์เสียหาย  เป็นการละเมิดต่อโจทก์  กับระบุความเสียหายว่า ค่าซ่อมรถ 2,000 บาท ค่าพาหนะที่จ่ายระหว่างซ่อมรถ 12 วัน เป็นเงิน 1,200 บาท ค่าเสื่อมราคาของรถ 5,000 บาท  ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ฟ้องละเมิดจากการชนท้ายรถ: ฟ้องสมบูรณ์ ไม่เคลือบคลุม, ประเมินค่าเสียหาย
                        
                        โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์โจทก์  ด้วยความประมาทขาดความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องมี และจำเลยขับรถด้วยความเร็วเกินอัตรา พุ่งเข้าชนท้ายรถของโจทก์เสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์ กับระบุความเสียหายว่า ค่าซ่อมรถ 2,000 บาท ค่าพาหนะที่จ่ายระหว่างซ่อมรถ 12 วัน เป็นเงิน 1,200 บาท ค่าเสื่อมราคาของรถ 5,000 บาท ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2510
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ลักทรัพย์สำเร็จ แม้รถเคลื่อนที่เพียง 3 เมตร และเครื่องยนต์ยังไม่ติด
                        
                        คนร้าย 3 คนร่วมกันลักรถยนต์จี๊ป  โดยคนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถ กำลังต่อสายไฟให้เครื่องยนต์ติด  อีกสองคนช่วยกันเข็นรถเพื่อให้เครื่องยนต์ติด  รถเคลื่อนไป 3 เมตร แต่เครื่องยนต์ไม่ติด และเจ้าพนักงานตำรวจพบการกระทำผิดเสียก่อน  ดังนี้ ถือได้ว่าคนร้ายนำรถยนต์เคลื่อนที่ไปแล้ว  พ้นขั้นพยายาม เป็นความผิดสำเร็จ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การลักรถยนต์สำเร็จ แม้เครื่องยนต์ไม่ติด: การเคลื่อนย้ายรถถือเป็นความผิดสำเร็จ
                        
                        คนร้าย 3 คนร่วมกันลักรถยนต์จิ๊ป โดยคนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถ กำลังต่อสายไฟให้เครืองยนต์ติด อีกสองคนช่วยกันเข็นรถเพื่อให้เครื่องยนต์ติด รถเคลื่อนไป 3 เมตร แต่เครื่องยนต์ไม่ติด และเจ้าพนักงานตำรวจพบการกระทำผิดเสียก่อน ดังนี้ ถือได้ว่าคนร้ายนำรถยนต์เคลื่อนที่ไปแล้ว พ้นชั้นพยายาม เป็นความผิดสำเร็จ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            เจ้าพนักงานที่ดินปฏิเสธจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เนื่องจากเห็นว่าที่ดินเป็นสาธารณสมบัติ ไม่ถือเป็นการจงใจละเมิด
                        
                        เจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ตามคำสั่งศาลเพราะเห็นว่าไม่อาจทำได้ตามกฎหมาย มิใช่เพราะมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์มาก่อน ยังไม่พอจะถือว่าเจ้าพนักงานที่ดินนั้นจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหาย