คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยง เหลืองรังษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,154 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนจากการขายเชื่อเกินอำนาจและการละเลยหลักฐานการซื้อขาย
จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างโดยเป็นผู้จัดการสาขาของโจทก์ ได้ขายมะพร้าวเชื่อให้ ป. และ ส. ไปโดยมิได้ให้ผู้ซื้อทำหลักฐานการซื้อไว้ และขายมะพร้าวเชื่อให้ ต.และง.เกินอำนาจผู้จัดการสาขาที่จะให้ผู้ซื้อซื้อเชื่อได้ จำเลยในฐานะตัวแทนของโจทก์ในเรื่องการค้ามะพร้าว ก็ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 812 ข้อที่โจทก์เคยฟ้องเรียกหนี้ค่าซื้อเชื่อมะพร้าว แล้วถอนฟ้อง เหตุที่โจทก์จำต้องถอนฟ้องก็เพราะจำเลยมิได้ทำหลักฐานการซื้อเชื่อไว้และยังปล่อยให้หนี้ขาดอายุความ จำเลยจึงยังต้องรับผิดในความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้น เพราะโจทก์ไม่มีทางรับชำระหนี้อีกต่อไป
จำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ขายมะพร้าวเชื่อให้ พ.เกินอำนาจของจำเลย โจทก์ฟ้อง พ. เรียกให้ชำระหนี้ค่าซื้อมะพร้าวจนโจทก์ชนะคดีไปแล้ว แต่บังคับคดีไม่ได้ เพราะ พ. หลบหนีไป โจทก์จะเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากจำเลยอีกไม่ได้ ต้องถือว่าความเสียหายของโจทก์หมดไป โดยการที่โจทก์บังอาจบังคับคดีเอาจาก พ. ลูกหนี้ได้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในกรณีนี้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20-22/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนจากการขายเชื่อเกินอำนาจและการขาดหลักฐานการซื้อขาย
จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างโดยเป็นผู้จัดการสาขาของโจทก์ ได้ขายมะพร้าวเชื่อให้ ป. และ ส. ไปโดยมิได้ให้ผู้ซื้อทำหลักฐานการซื้อไว้ และขายมะพร้าวเชื่อให้ ต. และ ง. เกินอำนาจผู้จัดการสาขาที่จะให้ผู้ซื้อซื้อเชื่อได้ จำเลยในฐานะตัวแทนของโจทก์ในเรื่องการค้ามะพร้าว ก็ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 812 ข้อที่โจทก์เคยฟ้องเรียกหนี้ค่าซื้อเชื่อมะพร้าว แล้วถอนฟ้อง เหตุที่โจทก์จำต้องถอนฟ้องก็เพราะจำเลยมิได้ทำหลักฐานการซื้อเชื่อไว้ และยังปล่อยให้หนี้ขาดอายุความ จำเลยจึงต้องรับผิดในความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้น เพราะโจทก์ไม่มีทางรับชำระหนี้อีกต่อไป
จำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ขายมะพร้าวเชื่อให้ พ. เกินอำนาจของจำเลย โจทก์ฟ้อง พ. เรียกให้ชำระหนี้ค่าซื้อมะพร้าวจนโจทก์ชนะคดีไปแล้ว แต่บังคับคดีไม่ได้เพราะ พ.หลบหนีไป โจทก์จะเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากจำเลยอีกไม่ได้ ต้องถือว่าความเสียหายของโจทก์หมดไป โดยการที่โจทก์บังอาจบังคับคดีเอาจาก พ.ลูกหนี้ได้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในกรณีนี้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมครั้งที่ 20-22/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: การป้องกันตัวและเจตนาฆ่าในคดีอาญา
เมื่อพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน. จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะ เป็นการป้องกันหาได้ไม่. และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้. เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน. แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย. แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย. และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา. จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้. เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้. คงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาทสมัครใจ การป้องกันตัว และเจตนาในการทำร้ายร่างกาย ศาลฎีกาพิจารณาพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้
เมื่อพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะ เป็นการป้องกันหาได้ไม่ และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้ เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้ คงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย การพิเคราะห์เจตนา การป้องกันตัว และบันดาลโทสะ
เมื่อพฤติการณ์เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะเป็นการป้องกันหาได้ไม่ และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้ เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้ คงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ผู้ร่วมกระทำผิดและผู้เสียหายที่แท้จริง
โจทก์ที่ 1 ฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนายการโรงพยาบาล ได้มีคำสั่งให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลทำหน้าที่เบิกจ่ายค่าอาหารคนไข้และเก็บรักษาเงินสะสมโรงพยาบาล และให้รายการจำนวนของและจำนวนเงินเกินกว่าที่จ่ายไปจริง อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และโดยทุจริต ดังนี้ เมื่อตามฟ้องของโจทก์แสดงออกแจ้งชัดว่าโจทก์ที่ 1 ได้ร่วมกระทำผิดด้วยกับจำเลยที่ 1 และตนจะแก้ตัวอ้างความจำเป็นในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่จำต้องปฏิบัติตามคำสั่งที่ตนรู้อยู่ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชาไม่ได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาได้
ตามฟ้องโจทก์ที่ 2 กล่าวหาว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอาหน้าที่ของโจทก์ที่ 2 ไปให้โจทก์ที่ 1 ทำบ้าง จำเลยที่ 2 ทำบ้าง และเป็นการกระทำโดยมิชอบและโดยทุจริต เป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 เสียหาย เมื่อการมอบหมายงานอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ที่จะสั่งได้ และโจทก์ที่ 2 ซึ่งมิใช่เป็นผู้กระทำผิดหรือละเว้นกระทำ จึงหาจำต้องรับผิดในความเสียหายนั้นแต่อย่างใดไม่ โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยอันเป็นความผิดตามมาตรา 267,268 ประมวลกฎหมายอาญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เสียหายในคดีอาญา: การพิสูจน์ความเสียหายโดยตรงและการมีส่วนร่วมกระทำผิด
โจทก์ที่ 1 ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้มีคำสั่งให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินค่าอาหารคนไข้และเก็บรักษาเงินสะสมโรงพยาบาล และให้ลงรายการจำนวนของและจำนวนเงินเกินกว่าที่จ่ายไปจริง อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และโดยทุจริต ดังนี้ เมื่อตามฟ้องของโจทก์แสดงออกแจ้งชัดว่าโจทก์ที่ 1 ได้ร่วมกระทำผิดด้วยกับจำเลยที่ 1 และตนจะแก้ตัวอ้างความจำเป็นในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่จำต้องปฏิบัติตามคำสั่งที่ตนรู้อยู่ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชาไม่ได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ที่จะมีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาได้
ตามฟ้องโจทก์ที่ 2 กล่าวหาว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล เอาหน้าที่ของโจทก์ที่ 2 ไปให้โจทก์ที่ 1 ทำบ้าง จำเลยที่ 2 ทำบ้าง และเป็นการกระทำโดยมิชอบและโดยทุจริต เป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 เสียหาย เมื่อการมอบหมายงานอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ที่จะสั่งได้ และโจทก์ที่ 2 ซึ่งมิใช่เป็นผู้กระทำหรือละเว้นกระทำ จึงหาจำต้องรับผิดในความเสียหายนั้นแต่อย่างใดไม่ โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยอันเป็นความผิดตามมาตรา 267,268 ประมวลกฎหมายอาญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาโดยผู้ไม่เป็นผู้เสียหาย และความรับผิดของผู้ถูกกล่าวหาตามหน้าที่
โจทก์ที่ 1 ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล. ได้มีคำสั่งให้โจทก์ที่ 1ซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินค่าอาหารคนไข้และเก็บรักษาเงินสะสมโรงพยาบาล และให้ลงรายการจำนวนของและจำนวนเงินเกินกว่าที่จ่ายไปจริง อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และโดยทุจริต. ดังนี้ เมื่อตามฟ้องของโจทก์แสดงออกแจ้งชัดว่าโจทก์ที่ 1 ได้ร่วมกระทำผิดด้วยกับจำเลยที่ 1 และตนจะแก้ตัวอ้างความจำเป็นในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่จำต้องปฏิบัติตามคำสั่งที่ตนรู้อยู่ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชาไม่ได้.โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย.ที่จะมีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาได้.
ตามฟ้องโจทก์ที่ 2 กล่าวหาว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล.เอาหน้าที่ของโจทก์ที่ 2 ไปให้โจทก์ที่ 1 ทำบ้าง จำเลยที่ 2 ทำบ้าง และเป็นการกระทำโดยมิชอบและโดยทุจริต เป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2เสียหาย. เมื่อการมอบหมายงานอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ที่จะสั่งได้. และโจทก์ที่ 2 ซึ่งมิใช่เป็นผู้กระทำหรือละเว้นกระทำ. จึงหาจำต้องรับผิดในความเสียหายนั้นแต่อย่างใดไม่. โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยอันเป็นความผิดตามมาตรา 267,268 ประมวลกฎหมายอาญาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้และการป้องกันตัว: การไล่ติดตามเพื่อป้องกันตนเองไม่ใช่การป้องกันตัวตามกฎหมาย
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายกับพวกมีเหล็กขูดชาร์ฟทำร้ายพวกจำเลยและวิ่งตามมาจะทำร้ายอีก. จำเลยทราบเรื่องก็โกรธ จึงถือมีดปังตอออกมาหาผู้ตายกับพวก. ผู้ตายกับพวกได้วิ่งหนีไปจำเลยวิ่งไล่ทันแล้วเกิดต่อสู้กับผู้ตาย.เหตุที่จำเลยวิ่งไล่เพราะผู้ตายกับพวกมาทำร้ายพวกจำเลยอันเป็นการสมัครใจวิวาทกัน. จึงไม่เป็นการป้องกันตัวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้และการป้องกันตัว: การกระทำเกินเหตุและสมัครใจวิวาท
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายกับพวกมีเหล็กขูดชาร์ฟทำร้ายพวกจำเลยและวิ่งตามมาจะทำร้ายอีก จำเลยทราบเรื่องก็โกรธ จึงถือมีดปังตอออกมาหาผู้ตายกับพวก ผู้ตายกับพวกได้วิ่งหนีไปจำเลยวิ่งไล่ทันแล้วเกิดต่อสู้กับผู้ตาย เหตุที่จำเลยวิ่งไล่เพราะผู้ตายกับพวกมาทำร้ายพวกจำเลยอันเป็นการสมัครใจวิวาทกัน จึงไม่เป็นการป้องกันตัวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
of 116