พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,154 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ของผู้รับประกันภัยเมื่ออ้างเหตุยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์
เมื่อรถยนต์คันที่เอาประกันไว้เสียหาย ผู้รับประกันภัยจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ถ้าผู้รับประกันภัยอ้างว่าผู้เอาประกันภัยเอารถไปรับจ้างหรือให้เช่าผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ เพื่อผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดนั้น ผู้รับประกันภัยมีหน้าที่นำสืบตามที่กล่าวอ้าง
ประเด็นที่ฎีกาว่าผู้เอาประกันภัยให้เช่าซื้อรถไปเป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์นั้นไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้รับประกันไม่ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่วินิจฉัย
ประเด็นที่ฎีกาว่าผู้เอาประกันภัยให้เช่าซื้อรถไปเป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์นั้นไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้รับประกันไม่ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่วินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลคดีเด็กฯ ในคดีเปลี่ยนผู้ปกครอง: การพิจารณาจากบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
โจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลคดีเด็กฯ ขอให้ถอนอำนาจปกครองจากจำเลยแต่งตั้งโจทก์เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองแทน แม้ว่าคำฟ้องของโจทก์อาศัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1503 เป็นหลักซึ่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กฯ พ.ศ.2494 มาตรา 8(2) ไม่ได้บัญญัติให้มาตรา 1503 นี้อยู่ในอำนาจศาลคดีเด็กฯก็ตามแต่การที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งเปลี่ยนอำนาจปกครองจากจำเลยให้อยู่แก่โจทก์ผู้เป็นมารดาซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลจะสั่งตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1538(6) ด้วย และมาตรานี้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กฯ พ.ศ.2494 มาตรา 8(2)บัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็กฯ ฉะนั้นศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานสัญญากู้เป็นซื้อขายที่ดิน: การนำสืบเพื่อพิสูจน์มูลเหตุสัญญา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้เป็นเรื่องการซื้อขายที่ดินกัน ตอนหลังว่าแม้การกู้จะไม่เป็นโมฆะสัญญากู้ก็มีว่า เมื่อจำเลยไม่ใช้เงินให้ จะขอมอบที่ดินให้โจทก์และภรรยาเป็นกรรมสิทธิ์และจำเลยก็ได้ส่งมอบที่ดินที่ซื้อขายให้ภรรยาโจทก์เข้าครอบครองแล้ว หนี้ตามสัญญากู้ยืมจึงเป็นอันระงับไปนั้นการที่จำเลยจะนำสืบตามข้อต่อสู้นี้จึงไม่เป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร แต่เป็นการนำสืบถึงมูลเหตุที่จะทำสัญญากู้ ซึ่งอาจแสดงว่าสัญญากู้สมบูรณ์หรือไม่จึงชอบที่จะนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรมธรรม์ประกันชีวิตสิ้นอายุเมื่อชำระเบี้ยประกันเกินกำหนด แม้รับเงินแล้วแต่มีเงื่อนไขต่ออายุ ยังไม่ถือเป็นการชำระสมบูรณ์
การประกันชีวิตซึ่งตามกรมธรรม์ระบุไว้ว่าถ้าผู้เอาประกันไม่ชำระเบี้ยประกันคราวใด เมื่อถึงกำหนด กรมธรรม์เป็นอันสิ้นอายุนั้น เมื่อผู้เอาประกันชำระเบี้ยประกันเมื่อพ้นกำหนดเวลาและล่วงพ้นวันผ่อนตามที่กำหนดไว้ในสัญญาแล้วกรมธรรม์เป็นอันสิ้นอายุ ไม่มีผลผูกพันต่อไป บริษัทรับประกันจึงไม่ต้องรับผิด แม้ต่อมาผู้เอาประกันจะถึงแก่ความตายก็ตาม
ใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันที่มีเงื่อนไขว่ายังไม่สมบูรณ์มีผลบังคับจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามระเบียบการต่ออายุกรมธรรม์นั้น จะถือว่าการชำระเบี้ยประกันสมบูรณ์และเป็นการต่ออายุกรมธรรม์ย่อมไม่ได้
ใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันที่มีเงื่อนไขว่ายังไม่สมบูรณ์มีผลบังคับจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามระเบียบการต่ออายุกรมธรรม์นั้น จะถือว่าการชำระเบี้ยประกันสมบูรณ์และเป็นการต่ออายุกรมธรรม์ย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมเสียสิทธิในการฟ้องจำเลยที่ 1 หลังศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว ไม่อาจฎีกาใหม่ได้
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 1 (ตัวแทน) จำเลยที่ 2 (ตัวการ) ร่วมกันและแทนกันใช้เงินค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อไปจากโจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เท่านั้นใช้เงินค่าสินค้าแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยส่วนฟ้งอของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยกเสียจำเลยที่ 2 เท่านั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามฟ้องอีกหาได้ไม่ ต้องถือว่าคดีสำหรับจำเลยที่ 1 เป็นอันยุติลงตามกระบวนความเพียงแค่ศาลชั้นต้นไปแล้ว โจทก์คงฎีกาได้เฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและผลของการไม่อุทธรณ์คดีจำเลยที่ 1
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 1(ตัวแทน) จำเลยที่ 2(ตัวการ) ร่วมกันและแทนกันใช้เงินค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อไปจากโจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เท่านั้นใช้เงินค่าสินค้าแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยส่วนฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยกเสีย จำเลยที่ 2 เท่านั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามฟ้องอีกหาได้ไม่ต้องถือว่าคดีสำหรับจำเลยที่ 1 เป็นอันยุติลงตามกระบวนความเพียงแค่ศาลชั้นต้นไปแล้ว โจทก์คงฎีกาได้เฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีความมั่นคงต่อศาลทหาร และการขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลพลเรือน
ผู้ร้องถูกหาว่ากระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ และกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ศาลทหารในเวลาไม่ปกติ (สังกัดกระทรวงกลาโหม) ซึ่งศาลนั้นได้สั่งประทับฟ้องและออกหมายขังผู้ร้องไว้ ณ เรือนจำชั่วคราว ผู้ร้องจะมาร้องขอให้ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลพลเรือนสั่งปล่อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันส่วนได้เสียของตนเองในฐานะกรรมการ ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท
จำเลยพูดว่า "ทนายความเมืองร้อยเอ็ดคบไม่ได้เป็นนกสองหัว เหยียบเรือสองแคม เป็นมวยล้ม......" โดยจำเลยพูดในที่ประชุมใหญ่สมาชิกร้านสหกรณ์ประจำปีในฐานะเป็นกรรมการร้านสหกรณ์ ซึ่งจำเลยต้องแสดงถึงเหตุผลที่ไปจ้างทนายความจากกรุงเทพฯมาว่าความของร้านสหกรณ์ และพูดเพื่อป้องกันตนให้พ้นข้อหา การกระทำของจำเลยเป็นการกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นกรรมการร้านสหกรณ์นั้นตามคลองธรรม กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นเพื่อป้องกันตนในฐานะกรรมการสหกรณ์ ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยพูดว่า 'ทนายความเมืองร้อยเอ็ดคบไม่ได้ เป็นนกสองหัวเหยียบเรือสองแคมเป็นมวยล้ม.....' โดยจำเลยพูดในที่ประชุมใหญ่สมาชิกร้านสหกรณ์ประจำปีในฐานะเป็นกรรมการร้านสหกรณ์ ซึ่งจำเลยต้องแสดงถึงเหตุผลที่ไปจ้างทนายความจากกรุงเทพฯ มาว่าความของร้านสหกรณ์ และพูดเพื่อป้องกันตนให้พ้นข้อหา การกระทำของจำเลยเป็นการกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นกรรมการร้านสหกรณ์นั้นตามคลองธรรมกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมต่างวาระ: การตัดไม้และการมีไม้ไว้ในครอบครองถือเป็นคนละกรรม
ฟ้องระบุวันเวลากระทำผิดอันเดียวกัน กล่าวหาว่าจำเลยได้ตัดฟันไม้หวงห้าม 1 ต้นโดยมิได้รับอนุญาต และได้มีไม้นั้นไว้ในครอบครองโดยไม้นั้นเป็นไม้ที่ยังมิได้แปรรูปฯ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11,69,73 ตามที่ได้แก้ไขดังนี้ถือว่ากล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด 2 กรรม
การตัดฟันไม้ และการมีไม้ที่ตัดฟันไว้จะเป็นกรรมเดียววาระเดียวกันไม่ได้
การตัดฟันไม้ และการมีไม้ที่ตัดฟันไว้จะเป็นกรรมเดียววาระเดียวกันไม่ได้