คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยง เหลืองรังษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,154 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางแม้ผู้ซื้อสุจริตหลังกระทำผิด: สิทธิในทรัพย์สินเกิดหลังการกระทำผิด
กระบือที่จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร ซึ่งต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติศุลกากรนั้น หากผู้ร้องได้รับโอนกระบือนั้นไว้จากจำเลยภายหลังวันจำเลยกระทำผิด แม้จะโดยสุจริตก็ตาม ก็ถือได้ว่าในวันจำเลยกระทำผิดนั้น ผู้ร้องยังไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของกระบือนั้น จึงไม่เป็นเหตุที่จะให้กระบือนั้นรอดพ้นจากการถูกริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 34 ไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางแม้ผู้รับโอนจะสุจริต: สิทธิในทรัพย์สินเกิดขึ้นหลังการกระทำผิด
กระบือที่จำเลยนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร ซึ่งต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติศุลกากรนั้นหากผู้ร้องได้รับโอนกระบือนั้นไว้จากจำเลยภายหลังวันจำเลยกระทำผิด แม้จะโดยสุจริตก็ตาม ก็ถือได้ว่าในวันจำเลยกระทำผิดนั้น ผู้ร้องยังไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของกระบือนั้น จึงไม่เป็นเหตุที่จะให้กระบือนั้นรอดพ้นจากการถูกริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,34 ไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลให้รอไต่สวนมูลฟ้องเพื่อรอผลคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองทรัพย์สิน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ขัดกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วต่อมาสั่งงดไต่สวนเพื่อรอฟังผลในอีกคดีหนึ่ง เพราะจะเป็นผลให้ร่นระยะการพิจารณาคดีให้สั้นและง่ายเข้า นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลให้รอไต่สวนมูลฟ้องเพื่อรอผลคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้อง แล้วต่อมาสั่งงดไต่สวนเพื่อรอฟังผลในอีกคดีหนึ่ง เพราะจะเป็นผลให้ร่นระยะการพิจารณาคดีให้สั้นและง่ายเข้า นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยเนื่องจากไม่ได้รับล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน และการพิจารณาโทษฐานกระทำผิดติดนิสัย
ตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสครบ 25 พุทธศตวรรษพ.ศ.2499ผู้ที่จะได้รับล้างมลทิน คือ ผู้ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษที่ได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่กฎหมายนี้ใช้บังคับคือ วันที่ 13 พฤษภาคม 2500 ฉะนั้น เมื่อจำเลยต้องโทษและพ้นโทษภายหลังที่กฎหมายดังกล่าวในคดีก่อนใช้บังคับจำเลยย่อมไม่ได้รับล้างมลทิน ศาลจึงเพิ่มโทษจำเลยได้ตามกฎหมาย
จำเลยกระทำผิดติดนิสัย เคยถูกพิพากษาให้กักกันมาครั้งหนึ่งแล้วในคดีก่อน พ้นจากการกักกันมาได้เพียง 4เดือน ก็มากระทำผิดขึ้นอีก ศาลจะพิพากษาให้กักกันมีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 10 ปีอีกก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยเนื่องจากไม่ได้รับล้างมลทินตาม พ.ร.บ. 25 พุทธศตวรรษ และการพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดติดนิสัย
ตาม พ.ร.บ. ล้างมลทินในโอกาสครบ 25 พุทธศตวรรษ พ.ศ. 2499 ผู้ที่ได้รับล้างมลทินคือ ผู้ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษที่ได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่กฎหมายนี้ใช้บังคับ คือวันที่ 13 พฤษภาคม 2500 ฉะนั้น เมื่อจำเลยต้องโทษและพ้นโทษภายหลังที่กฎหมายดังกล่าวในคดีก่อนใช้บังคับ จำเลยย่อมไม่ได้รับล้างมลทิน ศาลจึงเพิ่มโทษจำเลยได้ตามกฎหมาย
จำเลยกระทำผิดติดสิสัยเคยถูกพิพากษาให้กักกันมาครั้งหนึ่งแล้วในคดีก่อน พ้นจากการกักกันมาได้เพียง 4 เดือน ก็มากระทำผิดขึ้นอีก ศาลจะพิพากษาให้กักกันมีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 10 ปีอีกก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63-64/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยสุจริต แม้ทรัพย์สินไม่ใช่ของผู้ถูกบังคับคดี สิทธิผู้ซื้อยังคงอยู่
กรณีที่ผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ภายหลังเจ้าของอันแท้จริงพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาสิทธิของผู้ซื้อก็มิเสียไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 กรณีเช่นนี้เจ้าของอันแท้จริงจะอ้างมาตรา 1332ขอบังคับให้ผู้ซื้อคืนทรัพย์ที่ซื้อนั้นโดยเจ้าของจะชดใช้ราคาตามที่ซื้อมาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด - พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ - การส่งคำบังคับ
ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปโดยจำเลยขาดนัด จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ เมื่อปรากฎว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดและศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ คำสั่งนี้เป็นคำสั่งภายหลังเมื่อศาลพิพากษาแล้ว ฉะนั้น จึงไม่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณา โจทก์ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้
การที่จำเลยไปอยู่ต่างประเทศโดยไม่ทราบว่าตนถูกฟ้องและถูกศาลพิพากษาให้แพ้คดีย่อมถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจบังคับได้ จำเลยจึงอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยขาดนัดโดยมีเหตุสุดวิสัยและยื่นคำขอภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปโดยจำเลยขาดนัด จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อปรากฏว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดและศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาใหม่ คำสั่งนี้เป็นคำสั่งภายหลังเมื่อศาลพิพากษาแล้ว ฉะนั้น จึงไม่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณา โจทก์ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้
การที่จำเลยไปอยู่ต่างประเทศโดยไม่ทราบว่าตนถูกฟ้องและถูกศาลพิพากษาให้แพ้คดี ย่อมถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจบังคับได้ จำเลยจึงอาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทขับรถ ชนจักรยาน ผู้ตายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยประมาทขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงตามทางโค้งซึ่งเป็นทางลาดชัน และไม่ให้สัญญาณแตรเมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถจักรยานผู้ตาย ทั้งผู้ตายยังไม่ให้สัญญาณให้แซงได้ กับจำเลยไม่ขับรถยนต์หลบทางข้างซ้ายซึ่งยังมีทางกว้างเหลืออยู่ถึง 7 เมตร เป็นเหตุให้รถยนต์จำเลยชนรถจักรยานผู้ตาย ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่บรรยายเหตุแห่งการประมาทของจำเลยไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี และเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
การที่จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทด้วยความเร็วสูงชนท้ายรถจักรยานผู้ตายๆ ตกจากรถกระเด็นไปไกล 4 เมตรศีรษะกระทบกับพื้นดินอย่างแรง รุ่งขึ้นมีอาการมึนซึมปวดศีรษะมาก และถึงแก่กรรมหลังจากนั้นเพียง 3 วันเช่นนี้ถือได้ว่าผู้ตายตายเพราะการกระทำโดยประมาทของจำเลยโดยตรง
of 116