พบผลลัพธ์ทั้งหมด 203 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองเกิน 1 ปี ทำให้สิทธิครอบครองตกเป็นของผู้แย่ง แม้มีเอกสารสิทธิก่อน
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเข้าแย่งการครอบครองที่พิพาทเกินกว่า 1 ปี จึงไม่ว่าโจทก์จะได้ ส.ค.1 น.ส.3ไปด้วยเหตุประการใด โจทก์ก็มิใช่ผู้ยึดถือที่พิพาทระหว่างที่จำเลยเข้าแย่งการครอบครอง จึงไม่มีสิทธิครอบครองดีไปกว่าจำเลย
จำเลยครอบครองที่พิพาทเกินกว่า 1 ปี โดยโจทก์ไม่ได้ฟ้องขับไล่ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ถูกแย่งการครอบครอง จำเลยย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครอง เมื่อจำเลยได้สิทธิครอบครอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่แม้จำเลยจะไม่ได้ยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ขึ้นต่อสู้ ศาลก็ต้องยกฟ้องโจทก์
จำเลยครอบครองที่พิพาทเกินกว่า 1 ปี โดยโจทก์ไม่ได้ฟ้องขับไล่ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ถูกแย่งการครอบครอง จำเลยย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครอง เมื่อจำเลยได้สิทธิครอบครอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่แม้จำเลยจะไม่ได้ยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ขึ้นต่อสู้ ศาลก็ต้องยกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาและการฎีกาข้อเท็จจริงที่ถูกจำกัดเนื่องจากแก้ไขคำพิพากษาเพียงเล็กน้อย
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในอนาคตแก่โจทก์ในอัตราวันละ 10 บาทจนกว่าจำเลยจะเลิกเกี่ยวข้องในที่พิพาทด้วยนอกนั้นยืน เช่นนี้ เป็นเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และจำเลยจะคำนวณค่าเสียหายในอนาคตตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์รวมเข้ากับทุนทรัพย์ที่ตั้งพิพาทกันมาเพื่อให้เกินห้าพันบาทโดยถือเอาเป็นทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาและขอฎีกาในข้อเท็จจริงเช่นนี้ หาชอบที่จะกระทำได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค้ำประกันหนี้ผิดสัญญาตัวแทน, อายุความ, จำนวนผู้ค้ำประกัน, และขอบเขตความรับผิด
ฟ้องระบุข้อหาหรือฐานความผิดว่าละเมิด แต่เนื้อแท้ของคำฟ้องเป็นเรื่องเรียกทรัพย์คืนในกรณีผิดสัญญาตัวแทนจะนำอายุความ 1 ปีมาเป็นข้อตัดฟ้องไม่ได้
การเพิ่มจำนวนผู้ค้ำประกันขึ้นหาทำให้ผู้ค้ำประกันคนเดิมพ้นความรับผิดไม่
ค้ำประกันหนี้กรณีที่ลูกจ้างไม่ปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนตามระเบียบของนายจ้างทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายผู้ค้ำประกันยอมรับผิดนั้นเป็นการค้ำประกันหนี้ที่ไม่มีลักษณะจะต้องชำระ ณ เวลากำหนดแน่นอนอันจะผ่อนเวลากันได้ จึงนำมาตรา 700 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาปรับแก่กรณีนี้ไม่ได้ และแม้จะมีบันทึกของลูกหนี้ให้ไว้ก็เพียงแต่กำหนดเวลาให้เป็นที่แน่นอนหลังจากมีหนี้เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
สัญญาค้ำประกันที่ไม่ได้จำกัดจำนวนจะเอาราคาหลักทรัพย์ที่ระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันมาจำกัดความรับผิดไม่ได้
การเพิ่มจำนวนผู้ค้ำประกันขึ้นหาทำให้ผู้ค้ำประกันคนเดิมพ้นความรับผิดไม่
ค้ำประกันหนี้กรณีที่ลูกจ้างไม่ปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนตามระเบียบของนายจ้างทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายผู้ค้ำประกันยอมรับผิดนั้นเป็นการค้ำประกันหนี้ที่ไม่มีลักษณะจะต้องชำระ ณ เวลากำหนดแน่นอนอันจะผ่อนเวลากันได้ จึงนำมาตรา 700 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาปรับแก่กรณีนี้ไม่ได้ และแม้จะมีบันทึกของลูกหนี้ให้ไว้ก็เพียงแต่กำหนดเวลาให้เป็นที่แน่นอนหลังจากมีหนี้เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
สัญญาค้ำประกันที่ไม่ได้จำกัดจำนวนจะเอาราคาหลักทรัพย์ที่ระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันมาจำกัดความรับผิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สาขาบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทใหญ่ ไม่ต้องจดทะเบียนแยกต่างหาก การฟ้องดำเนินคดีกับสาขาถือเป็นการฟ้องบริษัทใหญ่
อันบริษัทจำกัดนั้น นอกจากสำนักงานใหญ่แล้ว จะมีสำนักงานสาขาที่ใดอีกก็ได้ และสาขาบริษัทใดก็คือส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นนั่นเองไม่ต้องมีการจดทะเบียนให้สาขาเป็นบริษัทขึ้นอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ของผู้รับประกันภัยเมื่ออ้างเหตุยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์
เมื่อรถยนต์คันที่เอาประกันไว้เสียหาย ผู้รับประกันภัยจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ถ้าผู้รับประกันภัยอ้างว่าผู้เอาประกันภัยเอารถไปรับจ้างหรือให้เช่าผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ เพื่อผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดนั้น ผู้รับประกันภัยมีหน้าที่นำสืบตามที่กล่าวอ้าง
ประเด็นที่ฎีกาว่าผู้เอาประกันภัยให้เช่าซื้อรถไปเป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์นั้นไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้รับประกันไม่ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่วินิจฉัย
ประเด็นที่ฎีกาว่าผู้เอาประกันภัยให้เช่าซื้อรถไปเป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์นั้นไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้รับประกันไม่ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่วินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานสัญญากู้เป็นซื้อขายที่ดิน: การนำสืบเพื่อพิสูจน์มูลเหตุสัญญา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้เป็นเรื่องการซื้อขายที่ดินกัน ตอนหลังว่าแม้การกู้จะไม่เป็นโมฆะสัญญากู้ก็มีว่า เมื่อจำเลยไม่ใช้เงินให้ จะขอมอบที่ดินให้โจทก์และภรรยาเป็นกรรมสิทธิ์และจำเลยก็ได้ส่งมอบที่ดินที่ซื้อขายให้ภรรยาโจทก์เข้าครอบครองแล้ว หนี้ตามสัญญากู้ยืมจึงเป็นอันระงับไปนั้นการที่จำเลยจะนำสืบตามข้อต่อสู้นี้จึงไม่เป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร แต่เป็นการนำสืบถึงมูลเหตุที่จะทำสัญญากู้ ซึ่งอาจแสดงว่าสัญญากู้สมบูรณ์หรือไม่จึงชอบที่จะนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรมธรรม์ประกันชีวิตสิ้นอายุเมื่อชำระเบี้ยประกันเกินกำหนด แม้รับเงินแล้วแต่มีเงื่อนไขต่ออายุ ยังไม่ถือเป็นการชำระสมบูรณ์
การประกันชีวิตซึ่งตามกรมธรรม์ระบุไว้ว่าถ้าผู้เอาประกันไม่ชำระเบี้ยประกันคราวใด เมื่อถึงกำหนด กรมธรรม์เป็นอันสิ้นอายุนั้น เมื่อผู้เอาประกันชำระเบี้ยประกันเมื่อพ้นกำหนดเวลาและล่วงพ้นวันผ่อนตามที่กำหนดไว้ในสัญญาแล้วกรมธรรม์เป็นอันสิ้นอายุ ไม่มีผลผูกพันต่อไป บริษัทรับประกันจึงไม่ต้องรับผิด แม้ต่อมาผู้เอาประกันจะถึงแก่ความตายก็ตาม
ใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันที่มีเงื่อนไขว่ายังไม่สมบูรณ์มีผลบังคับจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามระเบียบการต่ออายุกรมธรรม์นั้น จะถือว่าการชำระเบี้ยประกันสมบูรณ์และเป็นการต่ออายุกรมธรรม์ย่อมไม่ได้
ใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันที่มีเงื่อนไขว่ายังไม่สมบูรณ์มีผลบังคับจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามระเบียบการต่ออายุกรมธรรม์นั้น จะถือว่าการชำระเบี้ยประกันสมบูรณ์และเป็นการต่ออายุกรมธรรม์ย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและผลของการไม่อุทธรณ์คดีจำเลยที่ 1
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 1(ตัวแทน) จำเลยที่ 2(ตัวการ) ร่วมกันและแทนกันใช้เงินค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อไปจากโจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เท่านั้นใช้เงินค่าสินค้าแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยส่วนฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยกเสีย จำเลยที่ 2 เท่านั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามฟ้องอีกหาได้ไม่ต้องถือว่าคดีสำหรับจำเลยที่ 1 เป็นอันยุติลงตามกระบวนความเพียงแค่ศาลชั้นต้นไปแล้ว โจทก์คงฎีกาได้เฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีความมั่นคงต่อศาลทหาร และการขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลพลเรือน
ผู้ร้องถูกหาว่ากระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ และกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ศาลทหารในเวลาไม่ปกติ (สังกัดกระทรวงกลาโหม) ซึ่งศาลนั้นได้สั่งประทับฟ้องและออกหมายขังผู้ร้องไว้ ณ เรือนจำชั่วคราว ผู้ร้องจะมาร้องขอให้ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลพลเรือนสั่งปล่อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นเพื่อป้องกันตนในฐานะกรรมการสหกรณ์ ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยพูดว่า 'ทนายความเมืองร้อยเอ็ดคบไม่ได้ เป็นนกสองหัวเหยียบเรือสองแคมเป็นมวยล้ม.....' โดยจำเลยพูดในที่ประชุมใหญ่สมาชิกร้านสหกรณ์ประจำปีในฐานะเป็นกรรมการร้านสหกรณ์ ซึ่งจำเลยต้องแสดงถึงเหตุผลที่ไปจ้างทนายความจากกรุงเทพฯ มาว่าความของร้านสหกรณ์ และพูดเพื่อป้องกันตนให้พ้นข้อหา การกระทำของจำเลยเป็นการกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นกรรมการร้านสหกรณ์นั้นตามคลองธรรมกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท