พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนำก่อนใช้ป.พ.พ. หากมีพฤติการณ์เป็นการขายฝาก เกิน 10 ปี สิทธิไถ่ระงับ
สัญญาจำนำที่ดินที่ได้ทำกันก่อนประกาศใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ต้องบังคับตามกฎหมายที่มีอยู่ก่อน ได้แก่พระราชบัญญัติการขายฝากและจำนำที่ดิน ร.ศ.115 และโดยเฉพาะประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ.118 ซึ่งให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่นก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกันตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1044/2492
บิดาโจทก์ได้ตกลงกับผู้รับจำนำมอบที่พิพาทให้ไว้เอาค่าเช่าหักชำระดอกเบี้ยและค่าภาษีแล้ว บิดาโจทก์ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นและเคยมาคิดเงินกับผู้รับจำนำเป็นบางปี บิดาโจทก์ตายไปประมาณ 30 ปีแล้ว ก่อนตายไม่เคยพูดขอไถ่จำนำเลย แสดงว่าบิดาโจทก์ได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว การปฏิบัติของคู่สัญญาเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการขายฝากซึ่งประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ.118 ข้อ 6 มีข้อความว่า ในการขายฝากที่ดิน ถ้ามีข้อสัญญาจะให้ไถ่ได้เกินกว่า 10 ปีไป อย่าให้วินิจฉัยว่าไถ่ได้เมื่อพ้น10 ปีไปเลย เมื่อบิดาโจทก์ได้จำนำที่พิพาทไว้ตั้งแต่ปี 2460 และได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2473 เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีไปมากแล้ว ที่พิพาทจึงหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับซื้อฝาก โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิไถ่ถอน
บิดาโจทก์ได้ตกลงกับผู้รับจำนำมอบที่พิพาทให้ไว้เอาค่าเช่าหักชำระดอกเบี้ยและค่าภาษีแล้ว บิดาโจทก์ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นและเคยมาคิดเงินกับผู้รับจำนำเป็นบางปี บิดาโจทก์ตายไปประมาณ 30 ปีแล้ว ก่อนตายไม่เคยพูดขอไถ่จำนำเลย แสดงว่าบิดาโจทก์ได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว การปฏิบัติของคู่สัญญาเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการขายฝากซึ่งประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ.118 ข้อ 6 มีข้อความว่า ในการขายฝากที่ดิน ถ้ามีข้อสัญญาจะให้ไถ่ได้เกินกว่า 10 ปีไป อย่าให้วินิจฉัยว่าไถ่ได้เมื่อพ้น10 ปีไปเลย เมื่อบิดาโจทก์ได้จำนำที่พิพาทไว้ตั้งแต่ปี 2460 และได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2473 เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีไปมากแล้ว ที่พิพาทจึงหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับซื้อฝาก โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิไถ่ถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับสัญญาจำนำ/ขายฝากก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องพิจารณากิริยาคู่สัญญาและกฎหมายที่ใช้บังคับก่อน
สัญญาจำนำที่ดินที่ได้ทำกันก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ต้องบังคับตามกฎหมายที่มีอยู่ก่อน ได้แก่ พระราชบัญญัติการขายฝากและจำนำที่ดิน ร.ศ.115 และโดยเฉพาะประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ.118 ซึ่งให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่นก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกันตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1044/2492
บิดาโจทก์ได้ตกลงกับผู้รับจำนำมอบที่พิพาทให้ไว้เอาค่าเช่าหักชำระดอกเบี้ยและค่าภาษีแล้ว บิดาโจทก์ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นและเคยมาคิดเงินกับผู้รับจำนำเป็นบางปี บิดาโจทก์ตายไปประมาณ 30 ปีแล้ว ก่อนตายไม่เคยพูดขอไถ่จำนำเลย แสดงว่าบิดาโจทก์ได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว การปฏิบัติของคู่สัญญาเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการขายฝาก ซึ่งประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ.118 ข้อ 6 มีข้อความว่า ในการขายฝากที่ดิน ถ้ามีข้อสัญญาจะให้ไถ่ได้เกินกว่า 10 ปีไป อย่าให้วินิจฉัยว่าไถ่ได้เมื่อพ้น10 ปีไปเลยเมื่อบิดาโจทก์ได้จำนำที่พิพาทไว้ตั้งแต่ปี 2460 และได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2473 เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีไปมากแล้ว ที่พิพาทจึงหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับซื้อฝาก โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิไถ่ถอน
บิดาโจทก์ได้ตกลงกับผู้รับจำนำมอบที่พิพาทให้ไว้เอาค่าเช่าหักชำระดอกเบี้ยและค่าภาษีแล้ว บิดาโจทก์ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นและเคยมาคิดเงินกับผู้รับจำนำเป็นบางปี บิดาโจทก์ตายไปประมาณ 30 ปีแล้ว ก่อนตายไม่เคยพูดขอไถ่จำนำเลย แสดงว่าบิดาโจทก์ได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว การปฏิบัติของคู่สัญญาเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการขายฝาก ซึ่งประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ.118 ข้อ 6 มีข้อความว่า ในการขายฝากที่ดิน ถ้ามีข้อสัญญาจะให้ไถ่ได้เกินกว่า 10 ปีไป อย่าให้วินิจฉัยว่าไถ่ได้เมื่อพ้น10 ปีไปเลยเมื่อบิดาโจทก์ได้จำนำที่พิพาทไว้ตั้งแต่ปี 2460 และได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำทำกินต่างดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2473 เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีไปมากแล้ว ที่พิพาทจึงหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับซื้อฝาก โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิไถ่ถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนำที่ดินที่มีพฤติการณ์คล้ายขายฝาก หากไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่ดินตกเป็นของผู้นำจำนำ
เมื่อหลักฐานในสำนวนฟังได้ว่าการจำนำที่ดินพิพาทได้ปฏิบัติต่อกันอย่างขายฝาก คือ ผู้จำนำได้มอบที่พิพาทให้ผู้รับจำนำครอบครองทำกินต่างดอกเบี้ย แม้จะได้ทำสัญญาจำนำไว้ก็ดี (ทำสัญญาจำนำที่ดินมีโฉนด โดยจดทะเบียนไว้ที่หอทะเบียนที่ดิน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2466 โดยมีข้อสัญญาว่าจะชำระดอกเบี้ยให้ชั่งละ 1 บาท 25 สตางค์ ต่อเดือน และยอมให้ผู้รับจำนำถือโฉนดไว้) ก็ต้องถือตามกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันมาว่า เป็นจำนำหรือขายฝาก เมื่อพฤติการณ์เป็นขายฝากและไม่ไถ่ใน 10 ปี ที่พิพาทย่อมหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1954/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเภทสัญญา (จำนำ/ขายฝาก) ให้ดูตามพฤติกรรมของคู่สัญญา แม้ข้อตกลงในสัญญาจะระบุไว้ต่างจากนั้น
ก่อนใช้ ป.พ.พ. บรรพ 3 การวินิจฉัยว่าสัญญาใดเป็นจำนำ หรือขายฝากนั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติกันมาว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้สัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่นก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน
มารดาจำเลยจำนำนาพิพาทไว้กับปู่ของโจทก์ อีก 2 ปีต่อมา มารดาจำเลยได้มอบนาพิพาทนั้นให้ปู่ของโจทก์ ทำต่างดอกเบี้ยกิริยาที่มารดาจำเลยกับปู่ของโจทก์ประพฤติต่อกันนี้จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อมารดาจำเลยมิได้ไถ่คืนภายใน 10 ปี ที่พิพาทจึงหลุดเป็นของปู่ของโจทก์.
(ฎีกาที่ 22/117, ที่ 25/123, ที่ 467/2457, ที่ 81/2469, ที่ 790/2469 และที่ 1044/2492)
มารดาจำเลยจำนำนาพิพาทไว้กับปู่ของโจทก์ อีก 2 ปีต่อมา มารดาจำเลยได้มอบนาพิพาทนั้นให้ปู่ของโจทก์ ทำต่างดอกเบี้ยกิริยาที่มารดาจำเลยกับปู่ของโจทก์ประพฤติต่อกันนี้จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อมารดาจำเลยมิได้ไถ่คืนภายใน 10 ปี ที่พิพาทจึงหลุดเป็นของปู่ของโจทก์.
(ฎีกาที่ 22/117, ที่ 25/123, ที่ 467/2457, ที่ 81/2469, ที่ 790/2469 และที่ 1044/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1954/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเภทสัญญา (จำนำ/ขายฝาก) พิจารณาจากพฤติกรรมคู่สัญญา แม้ข้อตกลงในสัญญาจะระบุไว้ต่างกัน
ก่อนใช้ ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 การวินิจฉัยว่าสัญญาใดเป็นจำนำหรือขายฝากนั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติกันมาว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้สัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่นก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน
มารดาจำเลยจำนำนาพิพาทไว้กับปู่ของโจทก์ อีก 2 ปีต่อมามารดาจำเลยได้มอบนาพิพาทนั้นให้ปู่ของโจทก์ทำต่างดอกเบี้ย กิริยาที่มารดาจำเลยกับปู่ของโจทก์ประพฤติต่อกันนี้จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อมารดาจำเลยมิได้ไถ่คืนภายใน 10 ปีที่พิพาทจึงหลุดเป็นของปู่ของโจทก์ (ฎีกาที่ 22/117, ที่ 25/123, ที่ 467/2457,ที่ 81/2469, ที่ 790/2469 และที่ 1044/2492)
มารดาจำเลยจำนำนาพิพาทไว้กับปู่ของโจทก์ อีก 2 ปีต่อมามารดาจำเลยได้มอบนาพิพาทนั้นให้ปู่ของโจทก์ทำต่างดอกเบี้ย กิริยาที่มารดาจำเลยกับปู่ของโจทก์ประพฤติต่อกันนี้จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อมารดาจำเลยมิได้ไถ่คืนภายใน 10 ปีที่พิพาทจึงหลุดเป็นของปู่ของโจทก์ (ฎีกาที่ 22/117, ที่ 25/123, ที่ 467/2457,ที่ 81/2469, ที่ 790/2469 และที่ 1044/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนำ/ขายฝากที่ดินก่อนประมวลกฎหมายแพ่ง: ดูตามกิริยา ไม่ใช่ข้อสัญญา
สัญญาจำนำที่นาทำกันเมื่อ พ.ศ.2467 เป็นเวลาก่อนประกาศใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 กรณีต้องบังคับตามพ.ร.บ.การขายฝากและจำนำที่ดิน ร.ศ.115 และประกาศเรื่องจำนำและขายฝาก ร.ศ.118
คดีเรื่องจำนำ(จำนอง)หรือขายฝากที่ดิน(ก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3)นั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน (อ้างฎีกาที่ 22 ร.ศ.117, ที่ 25 ร.ศ.123,467/2487,81/2469,790/2469)
โจทก์ได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยมาตั้งแต่พ.ศ.2470 อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจำนำที่ทำกันขึ้นเมื่อ พ.ศ.2467จึงเป็นกิริยาการขายฝากเมื่อไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่นาก็หลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยตามลักษณะขายฝากโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอไถ่ได้ (อ้างฎีกาที่ 760/2469)
คดีเรื่องจำนำ(จำนอง)หรือขายฝากที่ดิน(ก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3)นั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน (อ้างฎีกาที่ 22 ร.ศ.117, ที่ 25 ร.ศ.123,467/2487,81/2469,790/2469)
โจทก์ได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยมาตั้งแต่พ.ศ.2470 อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจำนำที่ทำกันขึ้นเมื่อ พ.ศ.2467จึงเป็นกิริยาการขายฝากเมื่อไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่นาก็หลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยตามลักษณะขายฝากโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอไถ่ได้ (อ้างฎีกาที่ 760/2469)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามสัญญาจำนา/ขายฝากก่อน ป.ม.แพ่งฯ: ดูจากกิริยาการปฏิบัติของคู่สัญญา
สัญญาจำนาที่นาทำกันเมื่อ พ.ศ. 2467 เป็นเวลาก่อนประกาศใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 3 กรณีต้องบังคับตาม พ.ร.บ.การขายฝากและจำนำที่ดิน ร.ศ. 115 และประกาศเรื่องจำนำและขายฝาก ร.ศ. 118
คดีเรื่องจำนา (จำนอง) หรือขายฝากที่ดิน (ก่อน ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 3 )นั้นให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน
(อ้างฎีกาที่ 22 ร.ศ. 117, ที่ 25 ร.ศ. 123, 467/2487,81/2469, 790/2469)
โจทก์ได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2470 อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจำนำที่ทำกันขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2467 จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่นาก็หลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยตามลักษณะขายฝาก โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอไถ่ได้.
(อ้างฎีกาที่ 760/2469)
คดีเรื่องจำนา (จำนอง) หรือขายฝากที่ดิน (ก่อน ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 3 )นั้นให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน
(อ้างฎีกาที่ 22 ร.ศ. 117, ที่ 25 ร.ศ. 123, 467/2487,81/2469, 790/2469)
โจทก์ได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2470 อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจำนำที่ทำกันขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2467 จึงเป็นกิริยาการขายฝาก เมื่อไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่นาก็หลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยตามลักษณะขายฝาก โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอไถ่ได้.
(อ้างฎีกาที่ 760/2469)