คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อรรถไพศาลศรุดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งคำบอกกล่าวนัดประชุมบริษัทจำกัด การนับระยะเวลาตามกฎหมาย ให้ดูวันที่ส่ง ไม่ใช่วันที่ผู้รับได้รับ
มาตรา 1175 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยคำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่บริษัทจำกัด เพียงแต่บังคับให้ส่งคำบอกกล่าวนัดประชุมก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วันเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีได้ส่งคำบอกกล่าวทางไปรษณีย์ก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน และโจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นก็ได้รับ ย่อมถือว่าจำเลยส่งถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โจทก์ได้รับวันใด หาเป็นข้อสำคัญไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งคำบอกกล่าวประชุมผู้ถือหุ้น: ระยะเวลาที่กำหนดกฎหมายเน้นที่การส่งก่อนวันประชุม ไม่จำเป็นต้องให้ถึงมือผู้รับก่อน
มาตรา 1175 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยคำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่บริษัทจำกัด เพียงแต่บังคับให้ส่งคำบอกกล่าวนัดประชุมก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วันเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีได้ส่งคำบอกกล่าวทางไปรษณีย์ก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน และโจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นก็ได้รับ ย่อมถือว่าจำเลยส่งถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โจทก์จะได้รับวันใด หาเป็นข้อสำคัญไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือคดี ไม่ถือเป็นความผิดตามมาตรา 144 หากเจ้าพนักงานไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในคดีนั้น
ความผิดฐานให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์แก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จะต้องเป็นเรื่องให้หรือขอให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นเอง การที่จำเลยให้เงินกำนันเพื่อให้กำนันช่วยเหลือไปติดต่อกับเจ้าพนักงานอำเภอหรือพนักงานสอบสวนให้กระทำการให้คดีของจำเลยเสร็จไปในชั้นอำเภออย่าให้ต้องถึงฟ้องศาลเนื่องจากกำนันรายงานกล่าวโทษจำเลยไปอำเภอและอำเภอเรียกพยานทำการสอบสวนไปแล้วดังนี้ เป็นการพ้นอำนาจหน้าที่ของกำนันแล้วจำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือในคดี ไม่ถือเป็นความผิดฐานให้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจ
ความผิดฐานให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์แก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จะต้องเป็นเรื่องให้หรือขอให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นเอง การที่จำเลยให้เงินกำนันเพื่อให้กำนันช่วยเหลือไปติดต่อกับเจ้าพนักงานอำเภอหรือพนักงานอสบสวนให้กระทำการให้คดีของจำเลยเสร็จไปในชั้นอำเภออย่างให้ต้องถึงฟ้องศาลเนื่องจากกำนันรายงานกล่าวโทษจำเลยไปอำเภอ และอำเภอเรียกพยานทำการสอบสวนไปแล้ว ดังนี้ เป็นการพ้นอำนาจหน้าที่ของกำนันแล้ว จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องอาญาฐานวิวาทและการกระทำความผิดอื่นที่ทำให้เสียความสงบเรียบร้อย
บรรยายฟ้องว่า จำเลยวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในสาธารณสถาน ทำให้เสียความสงบเรียบร้อย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ด่าและโต้เถียงกัน ก็ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 ได้ ไม่ถือว่าต่างกับฟ้อง เพราะคำว่าวิวาทหมายถึงการโต้เถียง ทุ่มเถียง ทะเลาะกัน ทั้งมาตรา 372 นี้ ยังบัญญัติถึงการกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยไว้อีกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความหมายของคำว่า 'วิวาท' ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 และขอบเขตการฟ้องร้อง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในสาธารณสถานทำให้เสียความสงบเรียบร้อย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ด่าและโต้เถียงกัน ก็ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 ได้ ไม่ถือว่าต่างกับฟ้อง เพราะคำว่าวิวาทหมายถึงการโต้เถียง ทุ่มเถียง ทะเลาะกันทั้งมาตรา 372 นี้ ยังบัญญัติถึงการกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยไว้อีกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักการใช้กฎหมายเก่าเมื่อกฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย และอำนาจศาลสั่งทำลายต้นยางพร้อมบังคับค่าใช้จ่าย
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง ได้วางหลักให้พิจารณาความผิดและลงโทษจำเลยตามกฎหมายในขณะที่จำเลยกระทำการอันถูกกล่าวหานั้น แม้ถึงว่าได้มีการยกเลิกกฎหมายนั้นแล้วก็ตาม มาตรา 2 วรรคสอง และมาตรา 3 ก็ให้พิจารณาใช้กฎหมายใหม่เฉพาะแต่เมื่อเป็นคุณแก่จำเลยเท่านั้น ถ้ากฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย ก็ยังให้ใช้กฎหมายเก่าบังคับคดี
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกโดยมิได้รับอนุญาตและขอให้บังคับเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญาหาใช่คำขอทางแพ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำของคนขับรถที่มิได้เป็นลูกจ้าง และนายจ้างมิได้รู้เห็น
คนประจำรถยนต์บรรทุกและรับส่งคนโดยสารซึ่งมิได้เป็นลูกจ้างมิได้รู้เห็น ทั้งคดีก็ไม่มีประเด็นตามฟ้องว่าลูกจ้างผู้ขับประจำรถคันนั้นมีความประมาทขาดความระมัดระวังเป็นเหตุให้คนประจำรถนั้นขับรถไปชนม้าของผู้อื่นด้วย ดังนี้ เจ้าของรถผู้เป็นนายจ้างหากต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของม้าไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำของคนขับรถที่มิได้เป็นลูกจ้าง หากไม่มีประเด็นความประมาทของลูกจ้างผู้ขับประจำ
คนประจำรถยนต์บรรทุกและรับส่งคนโดยสารซึ่งมิได้เป็นลูกจ้างขับรถ ได้ขับรถไปชนม้าของผู้อื่นตายโดยนายจ้างมิได้รู้เห็น ทั้งคดีก็ไม่มีประเด็นตามฟ้องว่าลูกจ้างผู้ขับประจำรถคันนั้นมีความประมาทขาดความระมัดระวังเป็นเหตุให้คนประจำรถนั้นขับรถไปชนม้าของผู้อื่นด้วย ดังนี้ เจ้าของรถผู้เป็นนายจ้างหาต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของม้าไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำทางอาญา: การพิจารณาความผิดกรรมเดียวกัน และขอบเขตการดำเนินคดี
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนี้ฝ่ายหนึ่ง กับ ม.พ.ฮ.ฝ่ายหนึ่ง ได้ทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยชกต่อย พ. ไม่ถึงกับเกิดอันตรายแก่กายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 แล้วโจทก์แถลงว่า เหตุในคดีนี้กับอีกคดีหนึ่งของศาลทหารเกิดในเวลาเดียวกัน เป็นการกระทำครั้งเดียวกัน เป็นแต่ว่าข้อหาในคดีนี้จะยื่นฟ้องต่อศาลทหารไม่ได้ โจทก์จึงแยกฟ้องเป็นคดีนี้ ดังนี้ จะแปลเอาทีเดียวว่าเป็นการกระทำผิดอันเป็นกรรมเดียวกันและศาลได้มีคำพิพากษาในความผิดของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องคดีนี้แล้วยังไม่ได้ ชอบที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป.
of 28