คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
โพยม เลขยานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,126 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: ผู้ครอบครองก่อนย่อมมีสิทธิดีกว่า แม้มีการจัดสรรที่ดินให้ผู้อื่น แต่ยังมิได้เข้าครอบครอง
โจทก์ครอบครองที่ดินมือเปล่าโดยมิชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดิน ต่อมาทางการจัดสรรที่ดินนั้นให้จำเลย แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้จัดให้จำเลยเข้าครอบครอง จำเลยจึงยังไม่ได้สิทธิครอบครอง. โจทก์ครอบครองอยู่ก่อนจึงมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลย.
คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงไว้. ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงเองได้. (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอพิจารณาใหม่ขาดเงื่อนไขตามกฎหมาย – ขาดการยื่นคำขอภายในกำหนดและข้อคัดค้านไม่ชัดเจน
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2509โดยอ้างว่าจำเลยได้กลับมาบ้านเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2509 รุ่งขึ้นก็ถูกเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของจำเลยเช่นนี้ จำเลยจึงรู้ได้ว่าถูกฟ้องและมีการบังคับคดีแล้วแต่ไม่ได้ยื่นคำขอฯภายในกำหนด15 วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ทั้งคำขอของจำเลยก็มิได้กล่าวโดยละเอียดและชัดแจ้ง ซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลว่าไม่ถูกต้องประการใดคำขอของจำเลยขาดองค์ประกอบสำคัญที่ศาลจะพึงรับไว้ได้ และตามรูปคดีศาลก็ไม่จำต้องทำการไต่สวนคำขอของจำเลยต่อไป เพราะตามคำขอของจำเลยก็พอที่จะวินิจฉัยได้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอพิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันหลังทราบการบังคับคดี และต้องระบุข้อคัดค้านคำตัดสินอย่างชัดเจน
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2509 โดยอ้างว่าจำเลยได้กลับมาบ้านเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2509 รุ่งขึ้นก็ถูกเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของจำเลย เช่นนี้ จำเลยจึงรู้ได้ว่าถูกฟ้องและมีการบังคับคดีแล้ว แต่ไม่ได้ยื่นคำขอ ฯ ภายในกำหนด 15 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ทั้งคำขอของจำเลยก็มิได้กล่าวโดยละเอียดและชัดแจ้ง ซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลว่าไม่ถูกต้องประการใด คำขอของจำเลยขาดองค์ประกอบสำคัญที่ศาลจะพึงรับไว้ได้ และตามรูปคดีศาลก็ไม่จำต้องทำการไต่สวนคำขอของจำเลยต่อไป เพราะตามคำขอของจำเลยก็พอที่จะวินิจฉัยได้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอพิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันหลังรู้ถึงการบังคับคดี และต้องระบุข้อคัดค้านคำตัดสินอย่างชัดเจน
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2509โดยอ้างว่าจำเลยได้กลับมาบ้านเมื่อวันที่ 27 กันยายน2509. รุ่งขึ้นก็ถูกเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของจำเลย. เช่นนี้ จำเลยจึงรู้ได้ว่าถูกฟ้องและมีการบังคับคดีแล้ว. แต่ไม่ได้ยื่นคำขอฯภายในกำหนด 15 วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208. ทั้งคำขอของจำเลยก็มิได้กล่าวโดยละเอียดและชัดแจ้ง ซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลว่าไม่ถูกต้องประการใด. คำขอของจำเลยขาดองค์ประกอบสำคัญที่ศาลจะพึงรับไว้ได้. และตามรูปคดีศาลก็ไม่จำต้องทำการไต่สวนคำขอของจำเลยต่อไป. เพราะตามคำขอของจำเลยก็พอที่จะวินิจฉัยได้แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องจำเลยใหม่ในคดีอาญา ต้องเป็นคดีเดียวกัน โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องฐานฉ้อโกงซึ่งต่างจากฐานทำให้เสียทรัพย์เดิมไม่ได้
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 คนเดียวในข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์. แล้วต่อมาได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องโดยขอให้มารดาจำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นจำเลยอีกคนหนึ่งในข้อหาฐานฉ้อโกง ซึ่งเป็นข้อหาและการกระทำผิดที่มิได้เกี่ยวข้องเป็นคดีเดียวกัน. คำร้องของโจทก์ที่ยื่นขอเพิ่มเติมนี้ถือได้ว่าเป็นการฟ้องจำเลยคนใหม่เป็นคดีใหม่เข้ามาอีกเรื่องหนึ่ง. โจทก์จะมาขอเพิ่มเติมฟ้องเช่นนี้ไม่ได้. ไม่มีเหตุอันควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 163.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องจำเลยใหม่ในคดีอาญาที่ไม่เกี่ยวข้องกับจำเลยเดิม ถือเป็นการฟ้องคดีใหม่
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 คนเดียวในข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์ แล้วต่อมาได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องโดยขอให้มารดาจำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นจำเลยอีกคนหนึ่งในข้อหาฐานฉ้อโกง ซึ่งเป็นข้อหาและการกระทำผิดที่มิได้เกี่ยวข้องเป็นคดีเดียวกัน คำร้องของโจทก์ที่ยื่นขอเพิ่มเติมนี้ถือได้ว่าเป็นการฟ้องจำเลยคนใหม่เป็นคดีใหม่เข้ามาอีกเรื่องหนึ่ง โจทก์จะมาขอเพิ่มเติมฟ้องเช่นนี้ไม่ได้ ไม่มีเหตุอันควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องจำเลยใหม่ในคดีอาญา: ข้อหาและการกระทำผิดต้องเกี่ยวเนื่องกัน
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 คนเดียวในข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์แล้วต่อมาได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องโดยขอให้มารดาจำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นจำเลยอีกคนหนึ่งในข้อหาฐานฉ้อโกง ซึ่งเป็นข้อหาและการกระทำผิดที่มิได้เกี่ยวข้องเป็นคดีเดียวกันคำร้องของโจทก์ที่ยื่นขอเพิ่มเติมนี้ถือได้ว่าเป็นการฟ้องจำเลยคนใหม่เป็นคดีใหม่เข้ามาอีกเรื่องหนึ่ง โจทก์จะมาขอเพิ่มเติมฟ้องเช่นนี้ไม่ได้ ไม่มีเหตุอันควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 163

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่ พิจารณาจากความสำคัญของคำ, สำเนียง, สินค้าประเภทเดียวกัน, และการใช้ก่อน
จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษร WINNER ประกอบกับภาพคนยืนยกมือ ภาพคนขี่ม้ากระโดดข้ามรั้วและอักษรว่าด้วยคุณภาพสินค้า ตามเอกสารหมาย จ.2. ต่อมาโจทก์ขอจดทะเบียนการค้าอักษร WINNERR ไม่มีภาพประกอบตามเอกสารหมายจ.1. ดังนี้เห็นได้ว่าความสำคัญเด่นชัดอยู่ที่คำว่า'WINNERR' กับ 'WINNER' ภาพและอักษรอื่นเป็นแต่ส่วนประกอบ และการที่จะวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่. จะเพียงแต่เอามาเทียบกันแล้วชี้ขาดว่าไม่เหมือนกัน.เพราะมีความแตกต่างกันบางประการเท่านั้น หาได้ไม่.ยังจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่างๆประกอบด้วยว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงเข้าใจผิดได้หรือไม่. เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวในลักษณะสำคัญได้ใช้ภาษาต่างประเทศ. มีสำเนียงเรียกขานเหมือนกันและใช้สำหรับสินค้าจำพวกเดียวกัน.ผู้ซื้อย่อมติดใจยึดถือคำเรียกขานและหลงผิดได้ง่ายว่าสินค้าทั้งสองเครื่องหมายเป็นอย่างเดียวกัน. เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จึงมีลักษณะเหมือนกัน. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2510).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความเหมือนและความแตกต่างโดยคำนึงถึงสำเนียงการออกเสียงและการใช้สินค้าประเภทเดียวกัน
จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษร WINNER ประกอบกับภาพคนยืนยกมือ ภาพคนขี่ม้ากระโดดข้ามรั้วและอักษรว่าด้วยคุณภาพสินค้า ตามเอกสารหมาย จ.2 ต่อมาโจทก์ขอจดทะเบียนการค้าอักษรWINNERR ไม่มีภาพประกอบตามเอกสารหมายจ.1 ดังนี้เห็นได้ว่าความสำคัญเด่นชัดอยู่ที่คำว่า'WINNERR' กับ 'WINNER' ภาพและอักษรอื่นเป็นแต่ส่วนประกอบ และการที่จะวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่จะเพียงแต่เอามาเทียบกันแล้วชี้ขาดว่าไม่เหมือนกันเพราะมีความแตกต่างกันบางประการเท่านั้น หาได้ไม่ยังจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่างๆประกอบด้วยว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงเข้าใจผิดได้หรือไม่เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวในลักษณะสำคัญได้ใช้ภาษาต่างประเทศมีสำเนียงเรียกขานเหมือนกันและใช้สำหรับสินค้าจำพวกเดียวกันผู้ซื้อย่อมติดใจยึดถือคำเรียกขานและหลงผิดได้ง่ายว่าสินค้าทั้งสองเครื่องหมายเป็นอย่างเดียวกันเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จึงมีลักษณะเหมือนกัน
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความเหมือนของเครื่องหมายและการใช้ก่อน
จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษร winner ประกอบกับภาพคนยืนยกมือ ภาพคนขี่ม้ากระโดดข้ามรั้วและอักษรว่าด้วยคุณภาพสินค้า ตามเอกสารหมาย จ.2 ต่อมาโจทก์ขอจดทะเบียนการค้าอักษร winnerr ไม่มีภาพประกอบตามเอกสารหมาย จ.1 ดังนี้ เห็นได้ว่าความสำคัญเด่นชัดอยู่ที่คำว่า "winnerr" กับ "winner" ภาพและอักษรอื่นเป็นแต่ส่วนประกอบ และการที่จะวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่ จะเพียงแต่เอามาเทียบกันแล้วชี้ขาดว่าไม่เหมือนกัน เพราะมีความแตกต่างกันบางประการเท่านั้น หาได้ไม่ ยังจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ ประกอบด้วยว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงเข้าใจผิดได้หรือไม่ เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวในลักษณะสำคัญได้ใช้ภาษาต่างประเทศ มีสำเนียงเรียกขานเหมือนกันและใช้สำหรับสินค้าจำพวกเดียวกัน ผู้ซื้อย่อมติดใจยึดถือคำเรียกขานและหลงผิดได้ง่าย ว่าสินค้าทั้งสองเครื่องหมายเป็นอย่างเดียวกัน เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จึงมีลักษณะเหมือนกัน
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2510)
of 113