พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,126 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินจากการยกให้และการครอบครองปรปักษ์ แม้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โจทก์ยังพิสูจน์สิทธิดีกว่าได้
คดีก่อน จำเลยฟ้องขับไล่บิดาโจทก์กับบริวารให้ออกจากที่แปลงพิพาทศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย พิพากษาขับไล่บิดาโจทก์และบริวารออกไปจากที่พิพาท ดังนี้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นบริวารบิดาในคดีก่อนมาฟ้องจำเลย ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทบางส่วนเป็นของโจทก์โดยย่าของโจทก์ยกให้ และได้ครอบครองมาโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้ว ข้ออ้างของโจทก์เช่นนี้เป็นการกล่าวอ้างว่าตนมีสิทธิดีกว่าซึ่งกฎหมายยอมให้พิสูจน์ได้ และฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อนเพราะคู่ความในคดีทั้งสองมิใช่เป็นคู่ความเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: การอ้างสิทธิที่ดีกว่าและการไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คดีก่อน จำเลยฟ้องขับไล่บิดาโจทก์กับบริวารให้ออกจากที่แปลงพิพาท ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย พิพากษาขับไล่บิดาโจทก์และบริวารออกไปจากที่พิพาทดังนี้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นบริวารบิดาในคดีก่อนมาฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทบางส่วนเป็นของโจทก์โดยย่าของโจทก์ยกให้ และได้ครอบครองมาโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้ว ข้ออ้างของโจทก์เช่นนี้เป็นการกล่าวอ้างว่าตนมีสิทธิดีกว่า ซึ่งกฎหมายยอมให้พิสูจน์ได้ และฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อน เพราะคู่ความในคดีทั้งสองมิใช่เป็นคู่ความเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลคำพิพากษาต้องพิจารณาข้อวินิจฉัยทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุขับไล่ชัดเจน หากวินิจฉัยว่าอยู่โดยไม่มีสิทธิ ก็ย่อมมีหน้าที่ส่งมอบคืน
โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิด ขับไล่ ขอให้จำเลยออกจากห้องพิพาท และส่งมอบห้องพิพาทให้โจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ขาดประโยชน์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้อง กับค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาท ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้องและนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้ แม้คำพิพากษาจะไม่ได้กล่าวโดยชัดแจ้งให้ขับไล่จำเลย หรือให้จำเลยส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ก็ตามแต่การแปลคำพิพากษาต้องพิเคราะห์เกี่ยวกับข้อวินิจฉัยในคำพิพากษา เมื่อคำพิพากษาได้วินิจฉัยว่าจำเลยอยู่ในห้องพิพาท โดยไม่มีสิทธิจะอ้างได้ และพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจนกว่าจำเลยจะส่งมอบห้องพิพาท จึงมีความหมายอยู่ในตัวว่า คำพิพากษามุ่งประสงค์ให้จำเลยออกจากห้องพิพาทและส่งมอบห้องพิพาทตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลคำพิพากษาต้องพิจารณาข้อวินิจฉัยทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุขับไล่โดยชัดแจ้ง หากพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายจนกว่าจะส่งมอบทรัพย์สิน ย่อมหมายถึงการสั่งให้ส่งมอบ
โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิด ขับไล่ ขอให้จำเลยออกจากห้องพิพาท และส่งมอบห้องพิพาทให้โจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ขาดประโยชน์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้อง กับค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาท ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันละเมิดถึงวันฟ้องและนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้ แม้คำพิพากษาจะไม่ได้กล่าวโดยชัดแจ้งให้ขับไล่จำเลย หรือให้จำเลยส่งมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ก็ตาม แต่การแปลคำพิพากษาต้องพิเคราะห์เกี่ยวกับข้อวินิจฉัยในคำพิพากษา เมื่อคำพิพากษาได้วินิจฉัยว่าจำเลยอยู่ในห้องพิพาทโดยไม่มีสิทธิ์จะอ้างได้ และพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจนกว่าจำเลยจะส่งมอบห้องพิพาท จึงมีความหมายอยู่ในตัวว่า คำพิพากษามุ่งประสงค์ให้จำเลยออกจากห้องพิพาทและส่งมอบห้องพิพากษาตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายรับเงินแทนตัวความ: จำเป็นต้องมีใบมอบอำนาจ
ทนายโจทก์ไม่มีอำนาจรับเงินซึ่งจำเลยชำระตาม สัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์นอกศาล เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ทนายรับเงินนั้นแทน การที่จำเลยชำระเงิน ให้ทนายโจทก์ย่อมไม่ผูกพันโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายไม่มีอำนาจรับเงินแทนตัวความหากไม่ได้รับมอบอำนาจ การชำระหนี้ให้ทนายไม่ผูกพันตัวความ
ทนายโจทก์ไม่มีอำนาจรับเงินซึ่งจำเลยชำระตามสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์นอกศาล เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ทนายรับเงินนั้นแทน การที่จำเลยชำระเงินให้ทนายโจทก์ย่อมไม่ผูกพันโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกจำกัดสิทธิเนื่องจาก พ.ร.ฎ. แนวทางหลวง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการบังคับคดีเป็นไปตามกฎหมาย
จำเลยฎีกาขอให้สั่งงดการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดจากจำเลยโดยอ้างว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกโจทก์นำยึดจะขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล เป็นที่ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับของพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวทางหลวงที่จะสร้างทางหลวงแผ่นดิน ซึ่งได้มีประกาศห้ามทำการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในเขตส่วนกว้างของแนวทางหลวงหนึ่งพันเมตร โดยการขายแลกเปลี่ยน ให้ หรือโดยประการอื่น ฯลฯ นั้น ถือว่าแม้ที่ดินจะตกอยู่ภายใต้พระราชกฤษฎีกาตามที่จำเลยอ้างแต่ตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 มาตรา 57 ซึ่งได้บัญญัติ ให้นำมาตรา 46 มาใช้บังคับในกรณีนี้โดยอนุโลม ก็ได้บัญญัติโดยมีข้อยกเว้นไว้ว่าถ้าได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ย่อมจำหน่ายจ่ายโอนกันได้ มิได้บังคับไว้เด็ดขาด และกรณีเช่นนี้ จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะร้องขอให้งดการขาย เพราะเป็นทรัพย์ของจำเลยที่ตกอยู่ในบังคับที่เจ้าหนี้มีสิทธิจะขอให้ยึดมาใช้หนี้ได้ ทั้งเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องดำเนินการบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการจำหน่ายทรัพย์สินที่ถูกจำกัดสิทธิโดย พ.ร.ฎ.แนวทางหลวง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการบังคับคดีสามารถทำได้หากได้รับอนุญาต
จำเลยฎีกาขอให้สั่งงดการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดจากจำเลย โดยอ้างว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกโจทก์นำยึดจะขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล เป็นที่ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับของพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวทางหลวงที่จะสร้างทางหลวงแผ่นดิน ซึ่งได้มีประกาศห้ามทำการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในเขตส่วนกว้างของแนวทางหลวงหนึ่งพันเมตร โดยการขาย แลกเปลี่ยน ให้ หรือโดยประการอื่น ฯลฯ นั้น ถือว่า แม้ที่ดินจะตกอยู่ภายใต้พระราชกฤษฎีกาตามที่จำเลยอ้าง แต่ตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 มาตรา 57 ซึ่งบัญญัติให้นำมาตรา 46 มาใช้บังคับในกรณีนี้โดยอนุโลม ก็ได้บัญญัติโดยมีข้อยกเว้นไว้ว่าถ้าได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ย่อมจำหน่ายจ่ายโอนกันได้ มิให้บังคับไว้เด็ดขาด และกรณีเช่นนี้ จำเลยก็ไม่มีสิทธิ์จะร้องขอให้งดการขาย เพราะเป็นทรัพย์ของจำเลยที่ตกอยู่ในบังคับที่เจ้าหนี้มีสิทธิ์จะขอให้ยึดมาใช้หนี้ได้ ทั้งเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องดำเนินการบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องล้มละลาย: รายละเอียดการเบิกเกินบัญชีไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้อง หากพิสูจน์หนี้ได้
การเบิกเงินเกินบัญชีจะกระทำไปกี่คราว คราวละเท่าใดนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง และไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องล้มละลาย: รายละเอียดการเบิกเงินเกินบัญชีไม่จำเป็นในฟ้อง, ฟ้องไม่เคลือบคลุม
การเบิกเงินเกินบัญชีจะกระทำไปกี่คราว ๆ ละเท่าใดนั้น เป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง และไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)