พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,126 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1457/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นตัวแทนต้องมีหลักฐานแสดงการมอบหมาย หรือการกระทำที่แสดงเจตนาชัดเจน มิได้เกิดจากการเป็นข้าราชการเท่านั้น
จำเลยที่ 1 เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนช่างกลปทุมวัน ซึ่งสังกัดอยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 2,3 ได้สั่งซื้อสีจากโจทก์ในนามของโรงเรียน แต่โจทก์นำสืบมิได้ว่า จำเลยที่ 2,3 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนหรือเชิดหรือยอมให้จำเลยที่ 1 เชิดตัวเองเป็นตัวแทน ทั้งจำเลยที่ 2,3 ก็มิได้ตกลงยินยอมให้จำเลยที่ 1 ซื้อสีรายนี้โดยตรงหรือโดยปริยายด้วย จำเลยที่ 2 และ 3 จึงมิต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1
การที่เพียงแต่ผู้ใดเป็นข้าราชการกรมใด จะถือว่าผู้นั้นเป็นผู้แทนหรือตัวแทนของกรมนั้นในการทำนิติกรรมต่างๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เสมอไปนั้นหาได้ไม่ ต้องแล้วแต่ว่าได้มีการแต่งตั้งหรือการปฏิบัติระหว่างกรมกับข้าราชการผู้นั้นว่าจะเข้าลักษณะเป็นตัวแทนหรือไม่
การที่เพียงแต่ผู้ใดเป็นข้าราชการกรมใด จะถือว่าผู้นั้นเป็นผู้แทนหรือตัวแทนของกรมนั้นในการทำนิติกรรมต่างๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เสมอไปนั้นหาได้ไม่ ต้องแล้วแต่ว่าได้มีการแต่งตั้งหรือการปฏิบัติระหว่างกรมกับข้าราชการผู้นั้นว่าจะเข้าลักษณะเป็นตัวแทนหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1457/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้าราชการไม่ใช่ตัวแทนกรมโดยอัตโนมัติ ต้องมีการแต่งตั้งหรือแสดงเจตนาเป็นตัวแทน
การที่เพียงแต่ผู้ใดเป็นข้าราชการกรมใด จะถือว่าผู้นั้นเป็นผู้แทนหรือตัวแทนของกรมนั้นในการทำนิติกรรมต่างๆตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เสมอไปนั้นหาได้ไม่ ต้องแล้วแต่ว่าได้มีการแต่งตั้งหรือการปฏิบัติระหว่างกรมกับข้าราชการผู้นั้นว่าจะเข้าลักษณะเป็นตัวแทนหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเกิน 3 ปี ต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นบังคับได้แค่ 3 ปี
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้จะได้มีหนังสือเป็นหลักฐานแล้วก็ตาม แต่ถ้าตกลงเช่ากันมีกำหนดระยะเวลาเกินสามปีแล้ว จะต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย ถ้าเพียงแต่ทำเป็นหนังสือ แต่ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วยแล้ว ไม่ว่าผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า จะอาศัยสิทธิสัญญาเช่ามาฟ้องให้บังคับการเช่าให้เกินสามปีหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเกินสามปีต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นบังคับได้แค่สามปี
การเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้จะได้มีหนังสือเป็นหลักฐานแล้วก็ตาม แต่ถ้าตกลงเช่ากันมีกำหนดระยะเวลาเกินสามปีแล้ว จะต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย ถ้าเพียงแต่ทำเป็นหนังสือ แต่ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วยแล้ว ไม่ว่าผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าจะอาศัยสิทธิสัญญาเช่ามาฟ้องให้บังคับการเช่าให้เกินสามปีหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องเงินผลประโยชน์จากทรัพย์มรดกของโจทก์ร่วมหลังศาลมีคำพิพากษาบังคับคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกผู้ตาย ระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณา ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วม ขณะคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยตกลงประมูลเก็บผลประโยชน์ทรัพย์มรดกพิพาท ผู้ใดประมูลได้ ให้วางเงินต่อศาลทุกเดือนจนกว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ที่ 2 ประมูลได้ จึงวางเงินต่อศาลทุกเดือนเมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายแก่ทายาท โจทก์ร่วมมีสิทธิได้รบส่วนแบ่งตามคำพิพากษาด้วย โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิร้องขอบังคับคดี โดยให้โจทก์ที่ 2 นำเงินค่าผลประโยชน์ดังกล่าวมาวางศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องส่วนแบ่งผลประโยชน์จากทรัพย์มรดกของโจทก์ร่วมหลังศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกผู้ตาย ระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาศาลอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมขณะคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยตกลงประมูลเก็บผลประโยชน์ทรัพย์มรดกพิพาท ผู้ใดประมูลได้ ให้วางเงินต่อศาลทุกเดือนจนกว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ที่ 2 ประมูลได้ จึงวางเงินต่อศาลทุกเดือน เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายแก่ทายาท โจทก์ร่วมมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งตามคำพิพากษาด้วย โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิร้องขอบังคับคดี โดยให้โจทก์ที่ 2 นำเงินค่าผลประโยชน์ดังกล่าวมาวางศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381-1388/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสุจริตในการครอบครองที่ดินพิพาทเป็นเหตุให้พ้นผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่าที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งจำเลยเข้าครอบครองอยู่นั้นเป็นที่ของตน ฉะนั้น การที่จำเลยไม่ยอมออกจากที่พิพาทตามคำสั่งนายอำเภอโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของตนนั้น จึงมีเหตุอันสมควรเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381-1388/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสุจริตในการครอบครองที่ดินสาธารณะเป็นเหตุให้พ้นความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่าที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งจำเลยเข้าครอบครองอยู่นั้นเป็นที่ของตน ฉะนั้น การที่จำเลยไม่ยอมออกจากที่พิพาทตามคำสั่งนายอำเภอโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของตนนั้น จึงมีเหตุอันสมควรเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินจากการสมรสไม่จดทะเบียน: ศาลชี้ขาดแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์จะร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทั้งหมด เมื่อศาลฟังว่าผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยแต่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของจำเลยและผู้ร้องคนละครึ่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(2)
ในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์ที่ยึดแล้วก็หักเงินที่ขายให้แก่ผู้ร้องได้ครึ่งหนึ่ง
ในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์ที่ยึดแล้วก็หักเงินที่ขายให้แก่ผู้ร้องได้ครึ่งหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่ไม่จดทะเบียนสมรสเมื่อถูกยึดทรัพย์ชำระหนี้
แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์จะร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทั้งหมด และแม้ศาลจะยกคำร้องขัดทรัพย์ แต่เมื่อศาลฟังว่าผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยแต่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของจำเลย และผู้ร้องคนละครึ่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(2)
ในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์ที่ยึดแล้วก็หักเงินที่ขายให้แก่ผู้ร้องได้ครึ่งหนึ่ง
ในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์ที่ยึดแล้วก็หักเงินที่ขายให้แก่ผู้ร้องได้ครึ่งหนึ่ง