คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
โพยม เลขยานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,126 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้โดยสารรถจักรยานสามล้อไม่ต้องรับผิดชอบความประมาทของผู้ขับขี่ การฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ประมาทชนท้ายรถจักรยานสามล้อที่โจทก์โดยสารมาเป็นเหตุให้โจทก์บาดเจ็บ ขอให้ใช้ค่าเสียหาย นั้นแม้ผู้ขับขี่จักรยานสามล้อนั้นจะประมาทด้วยก็ตาม หากโจทก์เป็นเพียงผู้โดยสาร ไม่มีส่วนต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับขี่รถจักรยานสามล้อแต่อย่างใดแล้ว จำเลยก็จะขอให้ศาลเรียกผู้ขับขี่รถจักรยานสามล้อเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บทบัญญัติกฎหมายเดิมที่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมยังคงมีผลบังคับใช้ ศาลต้องพิจารณาตามกฎหมายที่แก้ไข
เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายเดิมมิได้ถูกยกเลิกไป เพียงแต่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมและยังคงเป็นบทบังคับอยู่อย่างเก่าแล้ว แม้โจทก์ฟ้องจะอ้างแต่พระราชบัญญัติและมาตราเดิม ไม่อ้างกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นบทลงโทษด้วยก็ใช้ได้ และถือเป็นหน้าที่ของศาลต้องรู้เองด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บทบัญญัติเดิมยังใช้ได้ แม้มีแก้ไขเพิ่มเติม ศาลมีหน้าที่รู้ตามกฎหมาย
เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายเดิมมิได้ถูกยกเลิกไปเพียงแต่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมและยังคงเป็นบทบังคับอยู่อย่างเก่าแล้ว แม้โจทก์ฟ้องจะอ้างแต่พระราชบัญญัติและมาตราเดิมไม่อ้างกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นบทลงโทษด้วยก็ใช้ได้.และถือเป็นหน้าที่ของศาลต้องรู้เองด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษอาญา: ศาลลงโทษเฉพาะความผิดฐานบุกรุก แม้จะมีความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ด้วย ก็ไม่ถือว่าลงโทษควบกัน จึงไม่สามารถกักกันได้
คดีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์ แต่ให้ลงโทษฐานบุกรุกซึ่งเป็นบทหนักมาตราเดียวกัน จะถือว่าเป็นการลงโทษฐานพยายามลักทรัพย์ควบไปด้วยไม่ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่า จำเลยได้ถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 41 ที่จะกักกันจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์ ศาลลงโทษเฉพาะความผิดฐานบุกรุก จึงไม่ถือว่าลงโทษความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ควบไปด้วย
คดีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์ แต่ให้ลงโทษฐานบุกรุกซึ่งเป็นบทหนักมาตราเดียวนั้นจะถือว่าเป็นการลงโทษฐานพยายามลักทรัพย์ควบไปด้วยไม่ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 41 ที่จะกักกันจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมโนสาเร่: ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีโดยไม่ต้องรอคำให้การ และการนัดสืบพยานในวันเดียวกับหมายเรียกชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอาจพิจารณาแต่คำฟ้องอย่างเดียว เมื่อเห็นว่าเป็นคดีมโนสาเร่ก็ออกหมายเรียกจำเลยอย่างคดีมโนสาเร่ได้ทีเดียวยังไม่ต้องพิจารณาคำให้การแก้คดีด้วย
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่ดินอันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 500 บาทการที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย ก็เป็นแต่ผลบังคับส่วนหนึ่งของการขับไล่แม้กระทบถึงอสังหาริมทรัพย์ คือ สิ่งปลูกสร้างของจำเลยด้วยก็ไม่ทำให้เป็นคดีแพ่งสามัญ
เมื่อการขาดนัดยื่นคำให้การเป็นความผิดของจำเลยเองแล้วจำเลยจะมาโต้เถียงอีกไม่ได้ว่าศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดเสียก่อนทำให้ไม่มีคำให้การแก้คดีของจำเลยที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าเป็นคดีแพ่งสามัญ
ในคดีมโนสาเร่ เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแม้ศาลจะไม่ได้นัดสืบพยานไว้ศาลก็ยังมีอำนาจดำเนินการพิจารณาคดีในวันนัดตามหมายเรียกนั้นต่อไปได้ตามมาตรา 193 วรรคสี่และในกรณีที่จำเลยไม่มาศาลก็ยังมีผลเท่ากับจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาด้วยแล้วฉะนั้น การที่ศาลแจ้งไปในหมายเรียกด้วยว่าวันนัดตามหมายนั้นเป็นวันสืบพยานด้วย จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมโนสาเร่: ศาลมีอำนาจพิจารณาโดยไม่ต้องรอคำแก้คดี หากจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลอาจพิจารณาแต่คำฟ้องอย่างเดียว เมื่อเห็นว่าเป็นคดีมโนสาเร่ ก็ออกหมายเรียกจำเลยอย่างคดีมโนสาเร่ได้ทีเดียว ยังไม่ต้องพิจารณาคำแก้คดีด้วย
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่ดินอันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 500 บาท การที่โจทก์ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย ก็เป็นแต่ผลบังคับส่วนหนึ่งของการขับไล่ แม้กระทบถึงอสังหาริมทรัพย์ คือ สิ่งปลูกสร้างของจำเลยด้วย ก็ไม่ทำให้เป็นคดีแพ่งสามัญ
เมื่อการขาดนัดยื่นคำให้การเป็นความผิดของจำเลยเองแล้ว จำเลยจะมาโต้เถียงอีกไม่ได้ว่า ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดเสียก่อนทำให้ไม่มีคำให้การแก้คดีของจำเลยที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าเป็นคดีแพ่งสามัญ
ในคดีมโนสาเร่ เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้ศาลจะไม่ได้นัดสืบพยานไว้ ศาลก็ยังมีอำนาจดำเนินการพิจารณาดคีในวัดนัดตามหมายเรียกนั้นต่อไปได้ตามมาตรา 193 วรรค 4 และในกรณีที่จำเลยไม่มาศาลก็ยังมีผลเท่ากับจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาด้วยแล้ว ฉะนั้น การที่ศาลแจ้งไปในหมายเรียกด้วยว่าวัดนัดตามหมายนั้นเป็นวัดนัดสืบพยานด้วย จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความคำว่า 'พนักงาน' ใน พ.ร.บ.ความผิดของพนักงานฯ และขอบเขตการฟ้องคดีอาญาเฉพาะ
ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า "พนักงาน" ไว้ให้หมายถึง บุคคลต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ ทั้งนี้นอกจากผู้เป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย จำเลยเป็นพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำเลยย่อมเป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย คือเป็นเจ้าพนักงานตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ฉะนั้น จำเลยจึงไม่เป็นพนักงาน" ตามความหมายที่บัญญัติไว้ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 แต่เพียงประการเดียว เมื่อจำเลยมิได้เป็น "พนักงาน" ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรานี้ได้แล้ว ก็ต้องยกฟ้อง จะยกบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญาขึ้นมาพิจารณาลงโทษจำเลยโดยโจทก์มิได้ขอมาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์ระหว่าง 'พนักงาน' ตาม พ.ร.บ.ความผิดพนักงานรัฐ กับ 'เจ้าพนักงาน' ตามกฎหมายอื่น และขอบเขตการฟ้องคดี
ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'พนักงาน' ไว้ให้หมายถึง บุคคลต่างๆ ตามที่ระบุไว้ ทั้งนี้นอกจากผู้เป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย จำเลยเป็นพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำเลยย่อมเป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย คือเป็นเจ้าพนักงานตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 ฉะนั้น จำเลยจึงไม่เป็น 'พนักงาน' ตามความหมายที่บัญญัติไว้ในมาตรา3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 แต่เพียงประการเดียว เมื่อจำเลยมิได้เป็น'พนักงาน' ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรานี้ได้แล้วก็ต้องยกฟ้อง จะยกบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญาขึ้นมาพิจารณาลงโทษจำเลยโดยโจทก์มิได้ขอมาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนร่วมรับผิดในละเมิดจากการดำเนินกิจการร่วมกัน
จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนเดินรถโดยสารประจำทางกับจำเลยที่1โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ควบคุมรถและเก็บค่าโดยสาร ถ้าจำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายและตัวโจทก์ได้รับบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 ก็ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 กระทำต่อโจทก์เช่นเดียวกับตัวการต้องร่วมรับผิดกับตัวแทนตามนัยมาตรา 1042และ 427 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
of 113