คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
คร้าม สิวายะวิโรจน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 517 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังสามีเสียชีวิต: อายุความ & กฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ
ในกรณีที่มีผู้ครอบครองที่ดินของสามีที่ตายไปแล้วภริยาไม่จำต้องเรียกร้องเอาคืนภายใน 1 ปี ตามอายุความมรดก เพราะกรณีไม่ใช่เรียกร้องตามสิทธิของเจ้าหนี้อันมีต่อกองมรดกและไม่ใช่เป็นเรื่องพิพาทในระหว่างทายาท
การที่จะใช้กฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 บังคับในกรณีที่เจ้าของที่ดินไม่ครอบครองที่ดินนั้น ต้องแล้วแต่ว่าที่ดินนั้นได้เป็นที่บ้านที่สวนตั้งแต่เมื่อใด คือ ก่อนหรือหลังวันที่ 1 เมษายน 2475ซึ่งเป็นวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ว่าด้วยทรัพย์สิน ถ้าเป็นที่บ้านที่สวนมาก่อน ก็ต้องนำเอากฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จมาบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมยินยอมจำนองทรัพย์ส่วนรวม มีผลผูกพันกับส่วนของผู้ยินยอม
จำเลยเอาห้องแถวซึ่งผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วยไปจำนองกับโจทก์ไว้ โดยผู้ร้องรู้เห็นยินยอมด้วยการจำนองรายนี้จึงมีผลผูกพันทรัพย์ที่ยึดซึ่งเป็นส่วนของผู้ร้องด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมยินยอมให้จำนองทรัพย์ส่วนรวม การจำนองมีผลผูกพันกับส่วนของผู้ยินยอม
จำเลยเอาห้องแถวซึ่งผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย ไปจำนองกับโจทก์ไว้ โดยผู้ร้องรู้เห็นยินยอมด้วย การจำนองรายนี้จึงมีผลพูกพันทรัพย์ที่ยึดซึ่งเป็นส่วนของผู้ร้องด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนา แต่ได้รับการพิจารณาจากเหตุข่มเหงอย่างร้ายแรงและบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ก่อนเกิดเหตุราว 1 ชั่วโมง ผู้ตายกับจำเลยเล่นการพนันกัน ผู้ตายหาว่าจำเลยไม่ยอมให้เสียการพนันเป็นเงิน 1 บาท เกิดโต้เถียงกันแล้วก็เลิกกันไป ต่อมาขณะจำเลยอยู่ที่เพิงซึ่งเป็นที่อยู่ของจำเลย ผู้ตายเมาสุรามาที่เพิงและด่าแม่จำเลย จำเลยโกรธจึงได้ใช้มีดดาบฟันแขนผู้ตาย 1 ที และแทงถูกเหนือนมขวาผู้ตายอีก 1 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย พอถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 72 (อ้างฎีกาที่ 409/2498)
ในคดีอาญา ฟ้องในข้อหาว่าฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยต่อสู้ว่าป้องกันตัว ไม่ได้ต่อสู้ในข้อบันดาลโทสะ เมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ปรากฏในสำนวน แม้จะไม่มีประเด็นในข้อบันดาลโทสะมาสู่ศาล ศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นคุณแก่จำเลยได้ เสมอ เพราะถือว่า เกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 (อ้างฎีกาที่ 1818/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนา: การพิจารณาเหตุข่มเหงร้ายแรงและอำนาจศาลในการพิจารณาบันดาลโทสะแม้มิได้ยกขึ้นสู่ศาล
ก่อนเกิดเหตุราว 1 ชั่วโมง ผู้ตายกับจำเลยเล่นการพนันกันผู้ตายหาว่าจำเลยไม่ยอมให้เงินที่เสียการพนันเป็นเงิน 1 บาทเกิดโต้เถียงกันแล้วก็เลิกกันไปต่อมาขณะจำเลยอยู่ที่เพิงซึ่งเป็นที่อยู่ของจำเลย ผู้ตายเมาสุรามาที่เพิงและด่าแม่จำเลยจำเลยโกรธจึงได้ใช้มีดดาบฟันแขนผู้ตาย 1 ที และแทงถูกเหนือนมขวาผู้ตายอีก 1 ที ผู้ตายถึงแก่ความตายพอถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72(อ้างฎีกาที่ 409/2498)
ในคดีอาญา ฟ้องในข้อหาว่าฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยต่อสู้ว่าป้องกันตัว ไม่ได้ต่อสู้ในข้อบันดาลโทสะเมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ปรากฏในสำนวน แม้จะไม่มีประเด็นในข้อบันดาลโทสะมาสู่ศาลศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นคุณแก่จำเลยได้เสมอเพราะถือว่าเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา195.(อ้างฎีกาที่ 1818/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ทนายหลังถอนมอบอำนาจ: การแจ้งผลคำพิพากษาและการกระทำการแทนตัวความ
โจทก์แต่งให้จำเลยเป็นทนายฟ้องคดีให้โจทก์ จำเลยได้ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี โจทก์ขอถอนจำเลยออกจากการเป็นทนายใหม่เป็นผู้ดำเนินคดีชั้นอุทธรณ์ต่อมา ดังนี้ หน้าที่ทนายความระหว่างจำเลยกับโจทก์เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ในแง่ที่เกี่ยวกับศาลและคนอื่น จำเลยยังเป็นทนายของโจทก์อยู่ เพราะโจทก์จำเลยยังหาได้แจ้งถอนหรือเลิกการแต่งตั้งไม่
การที่จำเลยเซ็นรับทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีซึ่งตนพ้นจากหน้าที่ทนายแล้ว มีผลเท่ากับจำเลยทำกิจการแทนโจทก์ โดยที่ตนไม่มีสิทธิ์ที่จะกระทำการนั้น จำเลยต้องบอกกล่าวแก่โจทก์โดยเร็ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ทนายหลังถอนจากกรณี – การแจ้งผลคำพิพากษาและการปฏิบัติหน้าที่แทนตัวความ
โจทก์แต่งให้จำเลยเป็นทนายฟ้องคดีให้โจทก์จำเลยได้ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์แพ้คดีโจทก์ขอถอนจำเลยออกจากการเป็นทนายโดยจำเลยยินยอมโจทก์ตั้งทนายใหม่เป็นผู้ดำเนินคดีชั้นอุทธรณ์ต่อมา ดังนี้ หน้าที่ทนายความระหว่างจำเลยกับโจทก์เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ในแง่ที่เกี่ยวกับศาลและคนอื่น จำเลยยังเป็นทนายของโจทก์อยู่ เพราะโจทก์จำเลยยังหาได้แจ้งถอนหรือเลิกการการแต่งตั้งไม่
การที่จำเลยเซ็นรับทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีซึ่งตนพ้นจากหน้าที่ทนายแล้ว มีผลเท่ากับจำเลยทำกิจการแทนโจทก์ โดยที่ตนไม่มีสิทธิที่จะกระทำการนั้นจำเลยต้องบอกกล่าวแก่โจทก์โดยเร็ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้แล้วเรียกคืนเนื่องจากเนรคุณ ประเด็นอยู่ที่การยกให้สมบูรณ์หรือไม่ และเหตุเนรคุณมีอยู่จริงหรือไม่
ตามฟ้องและคำให้การฟังได้ว่า โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยครอบครองมากกว่า 20 ปีแล้ว จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าการยกให้ไม่สมบูรณ์ จำเลยต่อสู้โดยอ้างเหตุเพียงว่า ไม่ได้ประพฤติเนรคุณ และโจทก์ยกให้เนื่องในการสมรส ประเด็นคงมีเพียงว่า โจทก์ยกให้เนื่องในการสมรสหรือไม่ และจำเลยได้ประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ซึ่งจะต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป ศาลไม่ชอบที่จะสั่งงดสืบพยาน ในเมื่อสอบคู่ความได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์บอกยกให้ด้วยปาก ไม่ได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียน แล้วเลยวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ จึงพิพากษายกฟ้อง เพราะการให้สมบูรณ์หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้แล้วเรียกคืนโดยอ้างเหตุเนรคุณ จำเป็นต้องสืบพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ตามฟ้องและคำให้การฟังได้ว่าโจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยครอบครองมากว่า 20 ปีแล้ว จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าการยกให้ไม่สมบูรณ์จำเลยต่อสู้โดยอ้างเหตุเพียงว่า ไม่ได้ประพฤติเนรคุณและโจทก์ยกให้เนื่องในการสมรสประเด็นคงมีเพียงว่า โจทก์ยกให้เนื่องในการสมรสหรือไม่และจำเลยได้ประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ซึ่งจะต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป ศาลไม่ชอบที่จะสั่งงดสืบพยานในเมื่อสอบคู่ความได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์บอกยกให้ด้วยปาก ไม่ได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียน แล้วเลยวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์จึงพิพากษายกฟ้อง เพราะการให้สมบูรณ์หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นในคดีนี้
of 52