พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจากปรับเป็นจำคุก แม้ไม่เกิน 1 ปี ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 ให้ปรับจำเลย 100 บาท ของกลางทั้งหมดให้ริบ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7 ; (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501 มาตรา 3, 5, 8 และกฎกระทรวงมหาดไทย(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2501 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมากก็ดี แต่โทษจำคุกยังไม่เกิน 1 ปี เช่นนี้ จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ต้องห้ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมากก็ดี แต่โทษจำคุกยังไม่เกิน 1 ปี เช่นนี้ จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ต้องห้ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินโดยความยินยอมของเจ้าหนี้ ไม่ถือเป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
จำเลยกู้เงินโจทก์ ถึงกำหนดชำระ จำเลยไม่ชำระ กลับขายเรือนของจำเลยให้แก่นายเปลื้องแต่การขายโจทก์เป็นผู้ติดต่อบอกขายและรับชำระหนี้เป็นข้าวเปลือกแทนเงินดังนี้ จะถือว่า จำเลยได้โอนเรือนไปให้แก่ผู้อื่นเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 350 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินโดยความยินยอมของเจ้าหนี้ ไม่ถือเป็นการทำให้เจ้าหนี้เสียหาย
จำเลยกู้เงินโจทก์ ถึงกำหนดชำระจำเลยไม่ชำระ กลับขายเรือนของจำเลยให้แก่นายเปลื้อง แต่การขาย โจทก์เป็นผู้ติดต่อบอกขายและรับชำระหนี้เป็นข้าวเปลือกแทนเงิน ดังนี้ จะถือว่า จำเลยได้โอนเรือนไปให้แก่ผู้อื่นเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 350 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่มีอำนาจกระทำการสืบสวน ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 145
การกระทำที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145 ต้องได้ความว่า นอกจากได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้ว ต้องกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้นด้วย
จำเลยมิได้เป็นตำรวจสันติบาล ได้แสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาล ได้ถามถึงเรื่องคนร้าย แล้วจดชื่อลงในสมุดพก โดยจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างจริงจัง ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145
จำเลยมิได้เป็นตำรวจสันติบาล ได้แสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาล ได้ถามถึงเรื่องคนร้าย แล้วจดชื่อลงในสมุดพก โดยจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างจริงจัง ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่มีอำนาจกระทำการสืบสวน ไม่ผิด ม.145 อ.อาญา หากไม่มีเจตนาสืบสวนจริงจัง
การกระทำที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145ต้องได้ความว่า นอกจากได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้ว ต้องกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้นด้วย
จำเลยมิได้เป็นตำรวจสันติบาล ได้แสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาลได้ถามถึงเรื่องคนร้าย แล้วจดชื่อลงในสมุดพก โดยจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างจริงจังดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
จำเลยมิได้เป็นตำรวจสันติบาล ได้แสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาลได้ถามถึงเรื่องคนร้าย แล้วจดชื่อลงในสมุดพก โดยจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างจริงจังดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379-380/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์โดยสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้ แม้ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ก็ยังเพิกถอนได้
การโอนขายทรัพย์โดยสมยอมกันอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้น แม้ศาลจะได้พิพากษาตามยอมให้ลูกหนี้โอนทรัพย์แก่บุคคลอื่นแล้วก็ตาม เจ้าหนี้ก็มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการโอนโดยไม่สุจริตนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายเรือนโมฆะ ลาภมิควรได้ อายุความ 1 ปี
เมื่อสัญญาซื้อขายเรือนเป็นโมฆะ เพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เงินซึ่งผู้ขายรับไว้ตามสัญญานั้นก็เป็นลาภมิควรได้ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องฟ้องเรียกคืน หรือภายในสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้นได้มีขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายเรือนโมฆะ ลาภมิควรได้ และอายุความฟ้องเรียกคืน
เมื่อสัญญาซื้อขายเรือนเป็นโมฆะเพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เงินซึ่งผู้ขายรับไว้ตามสัญญานั้นก็เป็นลาภมิควรได้ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องฟ้องเรียกคืนภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ผู้ซื้อรู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืน หรือภายในสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้นได้มีขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อต่อสู้ในคดีใหม่ต้องอาศัยการให้การในคดีนั้น การนำข้ออ้างจากคดีเก่ามาใช้โดยไม่ให้การถือเป็นนอกประเด็น
จำเลยจะถือเอาข้ออ้างในคำร้องคัดค้านของคดีเดิมมาเป็นข้อต่อสู้ในคดีใหม่ไม่ได้ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การในคดีใหม่ว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธฟ้องโจทก์ จำเลยจึงไม่มีข้อต่อสู้ การที่จำเลยนำสืบตามข้ออ้างในคำร้องคัดค้านของคดีเดิมจึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น รับฟังไม่ได้
ผู้มีชื่อยกที่พิพาทให้โจทก์และสามี โดยให้โจทก์และสามีไถ่จำนองให้ แล้วโจทก์กับสามีได้ยึดถือครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า10 ปีแล้วโจทก์และสามีย่อมได้กรรมสิทธิ์
ผู้มีชื่อยกที่พิพาทให้โจทก์และสามี โดยให้โจทก์และสามีไถ่จำนองให้ แล้วโจทก์กับสามีได้ยึดถือครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า10 ปีแล้วโจทก์และสามีย่อมได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีโดยอาศัยข้ออ้างจากคดีเดิมที่ไม่ปรากฏการให้การในคดีปัจจุบันถือเป็นการนำสืบนอกประเด็น และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์จากการครอบครอง
จำเลยจะถือเอาข้ออ้างในคำร้องคัดค้านของคดีเดิมมาเป็นข้อต่อสู้ในคดีใหม่ไม่ได้ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การคดีใหม่ว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธฟ้องโจทก์ จำเลยจึงไม่มีข้อต่อสู้ การที่จำเลยนำสืบตามข้ออ้างในคำร้องคัดค้านของคดีเดิมจึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น รับฟังไม่ได้
ผู้มีชื่อยกที่พิพาทให้โจทก์และสามี โดยให้โจทก์และสามีไถ่จำนองให้ แล้วโจทก์กับสามีได้ยึดถือครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีแล้ว โจทก์และสามีย่อมได้กรรมสิทธิ์
ผู้มีชื่อยกที่พิพาทให้โจทก์และสามี โดยให้โจทก์และสามีไถ่จำนองให้ แล้วโจทก์กับสามีได้ยึดถือครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีแล้ว โจทก์และสามีย่อมได้กรรมสิทธิ์