พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในความผิดอาญาของนิติบุคคล: กรรมการผู้จัดการกระทำตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์
นิติบุคคลย่อมมีเจตนาในการกระทำผิดทางอาญาได้ ถ้ากรรมการผู้จัดการนิติบุคคลนั้นได้กระทำไปตามวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลซึ่งได้จดทะเบียนไว้และนิติบุคคลนั้นได้รับประโยชน์อันเกิดจากการกระทำนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีหมิ่นประมาทหลังควบคุมตัวผู้ต้องหาตามประกาศคณะปฏิวัติ การขอผัดฟ้อง/อนุญาตฟ้อง
เจ้าพนักงานจับจำเลยฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ แล้วจำเลยถูกควบคุมตัวในฐานเป็นบุคคลอันธพาลประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 ได้ 24 วัน โจกท์นำจำเลยมาฟ้องศาลแขวงอุดรธานีในความผิดฐานหมิ่น เจ้าพนักงานได้โดยไม่ต้องขอผัดฟ้องหรือขออนุญาตฟ้องจากอธิบดีกรมอัยการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการฟ้องคดีอาญา: อำนาจฟ้องและขอบเขตการควบคุมตัว
เจ้าพนักงานจับจำเลยฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่แล้วจำเลยถูกควบคุมตัวในฐานเป็นบุคคลอันธพาล ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 21 ยังไม่เกิน 30 วันการควบคุมตัวจำเลยจึงเป็นคนละเรื่องกับการควบคุมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ฉะนั้น การขอผัดฟ้องก็ดี การขออนุญาตฟ้องจากอธิบดีกรมอัยการก็ดี ย่อมไม่อาจจะเกิดขึ้น โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยสภาพไม้เป็นสิ่งปลูกสร้างเป็นข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่รับฎีกาในประเด็นนี้
การที่ศาลฟังว่า ไม้ของกลางใดมีสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องไม้แปรรูปที่จำเลยมีไว้อยู่ด้วยกันบางรายการว่าเป็นไม้ผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนขึ้น แม้จะลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งก็เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องไม้แปรรูปที่จำเลยมีไว้อยู่ด้วยกันบางรายการว่าเป็นไม้ผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนขึ้น แม้จะลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งก็เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยสภาพไม้เป็นสิ่งปลูกสร้างเป็นข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ฎีกาไม่ได้
การที่ศาลฟังว่า ไม้ของกลางใดมีสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างนั้น เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องไม้แปรรูปที่จำเลยมีไว้รวมอยู่ด้วยกันบางรายการว่าเป็นไม้ผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนขึ้น แม้จะลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งก็เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาให้ปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องไม้แปรรูปที่จำเลยมีไว้รวมอยู่ด้วยกันบางรายการว่าเป็นไม้ผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนขึ้น แม้จะลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งก็เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาให้ปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีลักทรัพย์หลายกรรม ฟ้องไม่บรรยายรายละเอียดครบถ้วน ศาลลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงมิได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดกฎหมายต่างกรรมต่างวาระกัน คือ ได้บังอาจลักทรัพย์รวม 49 รายการ โดยลักไปครั้งละ 1 และ 2 รายการ จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้วศาลสอบโจทก์ โจทก์แถลงว่า ตามทางสอบสวนได้ความว่าจำเลยลักเอาทรัพย์รายนี้ไปรวม 40 ครั้ง และศาลสอบจำเลย ๆ ก็รับว่าลักไปรวม 40 ครั้งจริง ดังนี้ ศาลก็ลงโทษจำเลยทุกกรรมเรียงกระทงรวม 40 กระทงมิได้ เพราะฟ้องโจทก์มิได้บรรยายไว้ดังคำแถลงของโจทก์ และแม้คำฟ้องนี้จะมิได้ระบุให้ชัดเจนว่าจำเลยลักทรัพย์รายนี้รวมกี่ครั้ง ครั้งไหนกี่รายการ และครั้งไหนจำเลยลักอะไร แต่เมื่อจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี มิได้หลงต่อสู้แล้ว ฟ้องโจทก์มิใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดหลายกรรม ฟ้องต้องบรรยายรายละเอียดชัดเจน แม้จำเลยรับสารภาพนอกฟ้องก็ลงโทษรวมไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดกฎหมายต่างกรรมต่างวาระกันคือได้บังอาจลักทรัพย์รวม 49 รายการ โดยลักไปครั้งละ 1 และ 2 รายการ จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง แล้วศาลสอบโจทก์ โจทก์แถลงว่าตามทางสอบสวนได้ความว่าจำเลยลักเอาทรัพย์รายนี้ไปรวม40 ครั้ง และศาลสอบจำเลยจำเลยก็รับว่าลักไปรวม 40 ครั้งจริง ดังนี้ศาลก็ลงโทษจำเลยทุกกรรมเรียงกระทงรวม 40 กระทงมิได้ เพราะฟ้องโจทก์มิได้บรรยายไว้ดังคำแถลงของโจทก์ และแม้คำฟ้องนี้จะมิได้ระบุให้ชัดเจนว่า จำเลยลักทรัพย์รายนี้รวมกี่ครั้ง ครั้งไหนกี่รายการ และครั้งไหนจำเลยลักอะไร แต่เมื่อจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี มิได้หลงต่อสู้แล้ว ฟ้องโจทก์ก็มิใช่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาเรื่องการใช้เงินค่าเสียหายในคดีฉ้อโกง ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาไม่รับฟัง
คดีที่พนักงานอัยการโจทก์ขอให้จำเลยใช้เงินแก่ผู้เสียหายรวมมากับฟ้องคดีอาญาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกงด้วยนั้นหากศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะข้อใช้เงินเป็นให้ใช้น้อยลง ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งในคดีอาญาฉ้อโกง ศาลแก้ไขจำนวนเงินค่าเสียหายที่จำเลยต้องชดใช้เป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษา
คดีที่พนักงานอัยการโจทก์ขอให้จำเลยใช้เงินแก่ผู้เสียหายรวมมากับฟ้องคดีอาญาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกงด้วยนั้น หากศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะข้อใช้เงินเป็นให้ใช้น้อยลง ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์มรดก อำนาจฟ้อง และการคุ้มครองค่าเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
สถานที่เช่าเป็นเคหะสถานอันได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าหรือไม่นั้น จำเลยต้องนำสืบก่อน
ข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 นั้น เป็นเรื่องที่คู่ความโต้เถียงกันว่า ฝ่ายใดมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เป็นประการสำคัญ การที่อ้างว่าผู้ใดไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาท ไม่ใช่ข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นสั่งว่า "รับเป็นอุทธรณ์ของจำเลยให้นำส่งสำเนาให้โจทก์ภายใน 15 วัน" ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ตามธรรมดา ไม่ได้สั่งในรูปรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 2+ วรรคสองเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าประเด็นใดเป็นประเด็นข้อเท็จจริงต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์ ก็ไม่หยิบยกประเด็นนั้น ๆ ขึ้นวินิจฉัย เป็นการถูกต้องแล้ว
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1599 ทายาทย่อมได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์มรดก ตั้งแต่เจ้ามรดกตาย แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนสิทธินั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 12+ก็ตาม
ข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 นั้น เป็นเรื่องที่คู่ความโต้เถียงกันว่า ฝ่ายใดมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เป็นประการสำคัญ การที่อ้างว่าผู้ใดไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาท ไม่ใช่ข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นสั่งว่า "รับเป็นอุทธรณ์ของจำเลยให้นำส่งสำเนาให้โจทก์ภายใน 15 วัน" ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ตามธรรมดา ไม่ได้สั่งในรูปรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 2+ วรรคสองเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าประเด็นใดเป็นประเด็นข้อเท็จจริงต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์ ก็ไม่หยิบยกประเด็นนั้น ๆ ขึ้นวินิจฉัย เป็นการถูกต้องแล้ว
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1599 ทายาทย่อมได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์มรดก ตั้งแต่เจ้ามรดกตาย แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนสิทธินั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 12+ก็ตาม