พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมยอมทำหนี้เพื่อเรียกทรัพย์จากผู้ไร้ความสามารถ ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชนะคดี
จำเลยที่ 1 เป็นคนไร้ความสามารถ จำเลยที่ 2 เป็นผู้อนุบาลตามคำสั่งศาล จำเลยที่ 2 ได้สมยอมทำหนังสือสัญญากู้เงินกับโจทก์เพื่อเรียกร้องเอาทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 เมื่อเป็นเช่นนี้ จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้สินสมยอม: การกู้เงินโดยผู้อนุบาลเพื่อเรียกทรัพย์สินของบุคคลไร้ความสามารถ ศาลพิพากษายืนตามชั้นต้น
จำเลยที่ 1 เป็นคนไร้ความสามารถ จำเลยที่ 2 เป็นผู้อนุบาลตามคำสั่งศาล จำเลยที่ 2 ได้สมยอมทำหนังสือสัญญากู้เงินกับโจทก์เพื่อเรียกร้องเอาทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 เมื่อเป็นเช่นนี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากคู่ความถึงแก่กรรมและไม่มีผู้มาแทนที่ภายในกำหนด
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาส่งสำเนาให้จำเลย ทนายจำเลยแถลงว่าตัวความตายไปแล้ว ทนายจำเลยจึงหมดสิทธิเป็นทนายและตัวแทน จึงส่งคืนหมายของศาลและสำเนาฎีกาของโจทก์ ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้โจทก์ทราบ โจทก์ได้ทราบแล้ว เวลาผ่านมา 2 ปี ไม่มีผู้ใดเข้ามาเป็นคู้ความแทนจำเลย และโจทก์ไม่ได้มีคำขอเพื่อให้ศาลเรียกทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้มรณะเข้ามาเป็นคู่ความแทนดังนี้ ถือได้ว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาแทนทีคู่ความฝ่ายมรณะภายในกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 42 ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(3).
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1).
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากคู่ความถึงแก่กรรมและไม่มีผู้สืบสิทธิเข้ามาดำเนินคดีแทนภายในกำหนด
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาส่งสำเนาให้จำเลยทนายจำเลยแถลงว่าตัวความตายไปแล้ว ทนายจำเลยจึงหมดสิทธิเป็นทนายและตัวแทน จึงส่งคืนหมายของศาลและสำเนาฎีกาของโจทก์ ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้โจทก์ทราบ โจทก์ได้ทราบแล้ว เวลาผ่านมา 2 ปี ไม่มีผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลย และโจทก์ไม่ได้มีคำขอเพื่อให้ศาลเรียกทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้มรณะเข้ามาเป็นคู่ความแทน ดังนี้ ถือได้ว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาแทนที่คู่ความฝ่ายมรณะภายในกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 42 ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(3)
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1)
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำมั่นสัญญาให้ที่ดินที่ไม่จดทะเบียน ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 526
คำมั่นหรือคำรับรองว่าจะให้ที่ดิน เมื่อมิได้จดทะเบียนไว้ ก็ไม่เข้าเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 526 ผู้รับไม่มีสิทธิเรียกร้องจากผู้ให้แต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำมั่นสัญญาให้ที่ดินที่มิได้จดทะเบียน ไม่ผูกพันตามกฎหมาย
คำมั่นหรือคำรับรองว่าจะให้ที่ดิน เมื่อมิได้จดทะเบียนไว้ ก็ไม่เข้าเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 526 ผู้รับไม่มีสิทธิเรียกร้องจากผู้ให้แต่ประการใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการหลุดพ้นจากความรับผิดของผู้ค้ำประกันเมื่อมีการประนอมหนี้และชำระหนี้แล้ว
โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาจำเลยร้องขอให้ศาลปล่อทรัพย์ที่ยึดโดยมีผู้ค้ำประกันต่อมาศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินโจทก์ จำเลยไม่ชำระโจทก์ขอให้ศาลบังคับผู้ค้ำประกัน เมื่อปรากฏต่อศาลว่าโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือประนอมหนี้โอนที่ดินของจำเลยใช้หนี้โจทก์ไปแล้ว ผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องรับผิดใช้หนี้โจทก์
ผู้ร้องได้ยื่นระบะพยานอ้างเอกสารไว้แล้ว แต่เรียกมาไม่ได้ คงส่งศาลได้แก่สำเนาเพิ่งปรากฏว่าจำเลยได้นำต้นฉบับเอกสารมาส่งศาลเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกาสั่งให้สืบพยานเกี่ยวกับต้นฉบับเอกสารนั้น ศาลฎีกามีอำนาจสั่งรับต้นฉบับเอกสารและสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 240(2) และ (3) ได้.
ผู้ร้องได้ยื่นระบะพยานอ้างเอกสารไว้แล้ว แต่เรียกมาไม่ได้ คงส่งศาลได้แก่สำเนาเพิ่งปรากฏว่าจำเลยได้นำต้นฉบับเอกสารมาส่งศาลเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกาสั่งให้สืบพยานเกี่ยวกับต้นฉบับเอกสารนั้น ศาลฎีกามีอำนาจสั่งรับต้นฉบับเอกสารและสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 240(2) และ (3) ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดมาตรา 291 ต้องเป็นการกระทำโดยประมาทโดยตรง การละเว้นไม่ถือเป็นความผิดตามมาตรานี้
การที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 291 ต้องเป็นการกระทำโดยประมาทและการกระทำโดยประมาทนั้นต้องเป็นผลโดยตรงให้เกิดความตาย และการกระทำตามมาตรานี้ไม่รวมถึงการละเว้น เพราะกรณีใดกฎหมายต้องการลงโทษการละเว้น ก็ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ เช่นมาตรา 154,157,162
จำเลยที่ 1 ทำหน้าที่แทนนายสถานี มีอำนาจใช้ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนการสับเปลี่ยนหัวประแจ เมื่อใช้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับหัวประแจนั้นเลย จำเลยที่ 2 เปลี่ยนแล้วไม่สับกลับคืนรางเดิมเป็นเหตุให้รถชนกันจนมีคนตาย เช่นนี้ การที่จำเลยที่1 ไม่ไปตรวจหัวประแจก่อนที่รถจะมาถึง ก็เป็นเพียงละเว้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นคนละเรื่องกับการกระทำโดยประมาท ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกัน อยู่ที่การเปลี่ยนหัวประแจแล้วไม่สับกลับ ซึ่งเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามมาตรา 291
จำเลยที่ 1 ทำหน้าที่แทนนายสถานี มีอำนาจใช้ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนการสับเปลี่ยนหัวประแจ เมื่อใช้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับหัวประแจนั้นเลย จำเลยที่ 2 เปลี่ยนแล้วไม่สับกลับคืนรางเดิมเป็นเหตุให้รถชนกันจนมีคนตาย เช่นนี้ การที่จำเลยที่1 ไม่ไปตรวจหัวประแจก่อนที่รถจะมาถึง ก็เป็นเพียงละเว้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นคนละเรื่องกับการกระทำโดยประมาท ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกัน อยู่ที่การเปลี่ยนหัวประแจแล้วไม่สับกลับ ซึ่งเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามมาตรา 291
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการประมาทเลินเล่อ จำเลยต้องกระทำโดยประมาทและเป็นผลโดยตรงต่อการตาย การละเว้นไม่ถือเป็นความผิด
การที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 291 ต้องเป็นการกระทำโดยประมาท และการกระทำโดยประมาทนั้นต้องเป็นผลโดยตรงให้เกิดความตาย และการกระทำตามมาตรานี้ไม่รวมถึงการละเว้น เพราะกรณีใดกฎหมายต้องการลงโทษการละเว้น ก็ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ เช่นมาตรา 154,157,162
จำเลยที่ 1 ทำหน้าที่แทนนายสถานี มีอำนาจใช้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการสับเปลี่ยนหัวประแจ เมื่อใช้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับหัวประแจนั้นเลย จำเลยที่ 2 เปลี่ยนแล้วไม่สับกลับคืนรางเดิมเป็นเหตุให้รถชนกันจนมีคนตาย เช่นนี้ การที่จำเลยที่ 1 ไม่ไปตรวจหัวประแจก่อนที่รถจะมาถึง ก็เป็นเพียงละเว้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นคนละเรื่องกับการกระทำโดยประมาท ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกัน อยู่ที่การเปลี่ยนหัวประแจแล้วไม่สับกลับ ซึ่งเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามมาตรา 291.
จำเลยที่ 1 ทำหน้าที่แทนนายสถานี มีอำนาจใช้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการสับเปลี่ยนหัวประแจ เมื่อใช้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับหัวประแจนั้นเลย จำเลยที่ 2 เปลี่ยนแล้วไม่สับกลับคืนรางเดิมเป็นเหตุให้รถชนกันจนมีคนตาย เช่นนี้ การที่จำเลยที่ 1 ไม่ไปตรวจหัวประแจก่อนที่รถจะมาถึง ก็เป็นเพียงละเว้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นคนละเรื่องกับการกระทำโดยประมาท ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกัน อยู่ที่การเปลี่ยนหัวประแจแล้วไม่สับกลับ ซึ่งเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามมาตรา 291.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายยาที่ทะเบียนถูกยกเลิก และการใส่ร้ายผู้อื่นให้เสียชื่อเสียง ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
เมื่อทะเบียนตำรับยาซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยเกษมผู้เสียหายได้ขึ้นทะเบียนไว้ได้ถูกยกเลิกไปโดยผลแห่งพระราชบัญญัติการขายยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2505 มาตรา 15 วรรคแรกแล้ว จำเลยจะอาศัยทะเบียนตำรับยาดังกล่าวสั่งยาเข้ามาจำหน่ายอีกไม่ได้ มาตรา 15 วรรคสองบัญญัติยกเว้นให้เฉพาะเจ้าของผู้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้วเท่านั้นโดยผ่อนผันให้ขายยาเก่าไปได้อีก 1 ปี หาได้รวมถึงบุคคลอื่นซึ่งอาศัยทะเบียนตำรับยาของคนอื่นสั่งยาเข้ามาจำหน่ายดังกรณีของจำเลยไม่
จำเลยรู้ดีแล้วว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยเกษมผู้เสียหายเป็นผู้ขึ้นทะเบียนตำรับยาสำเร็จรูปเลขที่ 869/2502 ไว้ก่อนแล้ว หาใช่ห้างหรือบริษัทอื่นไม่ ดังนี้ การที่จำเลยประกาศโฆษณาว่า มีบุคคลกระทำผิดกฎหมายเลียนแบบผลิตยาออกจำหน่าย ทั้งยังแอบอ้างใช้เลขทะเบียนปิดอยู่หน้ากล่องยา เช่นนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าหมายถึงห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยเกษมผู้เสียหายเป็นผู้ปลอมแปลงผลิตยาเลียนแบบออกจำหน่าย อันเป็นเท็จ เจตนาจะให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยเกษมเสียความเชื่อถือโดยมุ่งประโยชน์แก่การค้าของจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272
จำเลยรู้ดีแล้วว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยเกษมผู้เสียหายเป็นผู้ขึ้นทะเบียนตำรับยาสำเร็จรูปเลขที่ 869/2502 ไว้ก่อนแล้ว หาใช่ห้างหรือบริษัทอื่นไม่ ดังนี้ การที่จำเลยประกาศโฆษณาว่า มีบุคคลกระทำผิดกฎหมายเลียนแบบผลิตยาออกจำหน่าย ทั้งยังแอบอ้างใช้เลขทะเบียนปิดอยู่หน้ากล่องยา เช่นนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าหมายถึงห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยเกษมผู้เสียหายเป็นผู้ปลอมแปลงผลิตยาเลียนแบบออกจำหน่าย อันเป็นเท็จ เจตนาจะให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยเกษมเสียความเชื่อถือโดยมุ่งประโยชน์แก่การค้าของจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272