พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็ค: ตั๋วเงิน vs. การชำระด้วยเงิน และการรับฟังพยานบุคคล
การใช้เช็คชำระเงินกู้ย่อมเป็นการชำระหนี้ด้วยการออกตั๋วเงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 321 วรรค 3 จึงเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นซึ่งมิใช่การชำระหนี้ด้วยเงิน จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2
ศาลยอมรับฟังพยานบุคคลได้.
ศาลยอมรับฟังพยานบุคคลได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุริมสิทธิไม้แปรรูปเปลี่ยนสภาพเป็นโรงเรือน
มูลหนี้ที่เกิดจากการซื้อขายไม้แปรรูปต่างๆ อันเป็นสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้ขายมีบุริมสิทธิที่จะเอาราคาซื้อขายเหนือไม้แปรรูปนี้ได้ก่อนเจ้าหนี้อื่นนั้นหากปรากฏว่าไม้แปรรูปนี้ได้ถูกนำไปปลูกสร้างเป็นโรงเรือนกลายสภาพจากสังหาริมทรัพย์เป็นอสังหาริมทรัพย์ คือ โรงเรือนไปเสียแล้วผู้ขายก็ไม่มีสิทธิที่จะอ้างบุริมสิทธิเหนือโรงเรือนซึ่งปลูกด้วยไม้แปรรูปนั้นแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุริมสิทธิเหนือสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนเป็นอสังหาริมทรัพย์: สิทธิของผู้ขายไม้แปรรูปเมื่อนำไปสร้างโรงเรือน
มูลหนี้ที่เกิดจากการซื้อขายไม้แปรรูปต่าง ๆ อันเป็นสังหาริมทรัพย์ ซึ่งผู้ขายมีบุริมสิทธิที่จะเอาราคาซื้อขายเหนือไม้แปรรูปนี้ได้ก่อนเจ้าหนี้อื่นนั้น หากปรากฏว่าไม้แปรรูปนี้ได้ถูกนำไปปลูกสร้างเป็นโรงเรือนกลายสภาพจากสังหาริมทรัพย์เป็นอสังหาริมทรัพย์ คือ โรงเรือนไปเสียแล้ว ผู้ขายก็ไม่มีสิทธิที่จะอ้างบุริมสิทธิเหนือโรงเรือนซึ่งปลูกด้วยไม่แปรรูปนั้นแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจหน้าที่นายอำเภอจดทะเบียนสมรส และข้อยกเว้นตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย
นายอำเภอมีหน้าที่จดทะเบียนสมรสให้แก่คู่สมรสตามที่เขาร้องขอตามพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 นายอำเภอจะอ้างเหตุขัดข้อง ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทยโดยที่คำสั่งกระทรวงมหาดไทยนั้นมิได้อาศัยอำนาจตามบทกฎหมายนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งกระทรวงที่ขัดกฎหมาย ไม่อาจใช้บังคับกับบุคคลทั่วไป นายทะเบียนต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
คำสั่งกระทรวงที่มิได้อาศัยอำนาจตามบทกฎหมายนั้น ย่อมเป็นเพียงระเบียบภายในระหว่างเจ้าหน้าที่ของกระทรวงด้วยกันเท่านั้น จะใช้บังคับแก่บุคคลทั่วไปไม่ได้ ฉะนั้น เมื่อจำเลยมีหน้าที่ตามกฎหมาย ให้รับจดทะเบียนสมรส ก็ย่อมจะอ้างคำสั่งที่ขัดต่อกฎหมายมาเป็นเหตุไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเกิดความผูกพันค่าบำเหน็จนายหน้า: ต้องมีข้อตกลงหรือมอบหมายกิจการเพื่อให้เกิดหน้าที่
บุคคลผู้ที่จะต้องรับผิดให้ค่าบำเหน็จนายหน้าแก่ผู้ใดก็ต่อเมื่อได้ตกลงไว้กับผู้นั้นโดยชัดแจ้งหรือถ้าไม่ได้ตกลงกันไว้โดยชัดแจ้งก็จะต้องรับผิดต่อเมื่อกิจการอันได้มอบหมายแก่ผู้นั้นเป็นที่คาดหมายได้ว่าผู้นั้นย่อมทำให้ก็แต่เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จเท่านั้นถ้าไม่มีการตกลงกันหรือไม่มีการมอบหมายกิจการแก่กันดุจกล่าวมาแล้วก็ไม่จำต้องรับผิดให้ค่าบำเหน็จนายหน้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค่านายหน้า: ต้องมีสัญญาชัดแจ้งหรือโดยปริยาย จึงจะเรียกร้องค่าบำเหน็จได้
นายหน้าที่จะได้รับบำเหน็จหรือค่านายหน้านั้น ในเบื้องต้นจะต้องมีสัญญาต่อกันโดยชัดแจ้ง หรือโดยปริยาย ฉะนั้น ผู้ใดจะอ้างตนเป็นนายหน้าฝ่ายเดียวเรียกร้องเอาค่าบำเหน็จโดยอีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีสัญญาด้วยแต่อย่างหนึ่งอย่างใดเลย นั้น จึงหามีกฎหมายสนับสนุนให้เรียกร้องได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายต้นไม้ปลูกตามแนวเขต ไม่ถือเป็นพืชผลในการกสิกรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4)
คำว่าพืช หรือ พืชผลของกสิการซึ่งบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359 (4) นั้น หมายถึงพืชหรือพืชผลที่ปลูกในการกสิกรรมของกสิกร ฉะนั้น ต้นนุ่นและต้นมะม่วงหิมพานต์ซึ่งผู้เสียหายผู้เป็นกสิกร ด้วยการทำนาปลูกไว้ เฉย ๆ ตามแนวเขต และจำเลยถอนทำลายเสียนั้น จะฟังว่า เป็นพืชหรือพืชผล ในการกสิกรรมของผู้เสียหายตามกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดความ ‘พืชผลของกสิกร’ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) กรณีต้นไม้ปลูกตามแนวเขต
คำว่าพืชหรือพืชผลของกสิกรซึ่งบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) นั้น หมายถึงพืชหรือพืชผลที่ปลูกในการกสิกรรมของกสิกรฉะนั้น ต้นนุ่นและต้นมะม่วงหิมพานต์ซึ่งผู้เสียหายผู้เป็นกสิกรด้วยการทำนาปลูกไว้เฉยๆ ตามแนวเขตและจำเลยถอนทำลายเสียนั้นจะฟังว่าเป็นพืชหรือพืชผลในการกสิกรรมของผู้เสียหายตามกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียว: เมื่อจำเลยถูกลงโทษแล้ว โจทก์แยกฟ้องเพิ่มเติมไม่ได้
จำเลยชกต่อยราษฎรคนหนึ่ง ตำรวจเข้าจับจำเลย ๆ ต่อตำรวจนั้น 1 ที แล้วจำเลยถูกฟ้องต่อศาลทหารฐานทำร้ายร่างกายราษฎรกับตำรวจผู้นั้น และศาลทหารได้ลงโทษจำเลยแล้ว โจทก์จะแยกฟ้องจำเลยต่อศาล จังหวัดฐานต่อสู้ขัดขวาง เจ้าพนักงานอีกไม่ได้ เพราะจะทำให้จำเลยต้องรับโทษในกรรมเดียวกันซ้ำอีก และสิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องต่อศาล ของโจทก์ก็ระงับไปแล้ว ฟ้องจึงเป็นฟ้องซ้ำ