คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สนิท สุมาวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ - เจตนา - ความเสียหาย - มัสยิด - กรรมการ
คณะกรรมการของมัสยิดซึ่งเป็นนิติบุคคลได้ประชุมลงมติให้จำเลยซึ่งเป็นกรรมการผู้หนึ่งไปแจ้งต่ออำเภอว่าเป็นเจ้าของครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของมัสยิดเป็นการชั่วคราวเพื่อความสะดวกที่จะให้เช่าและกันคนอื่นถือสิทธิต่อไป จำเลยก็นำความไปแจ้งต่อปลัดกิ่งอำเภอว่า จำเลยเป็นเจ้าของหากว่าการแจ้งของจำเลยเช่นนี้ไม่มีเจตนาทุจริต เป็นที่รู้กันระหว่างจำเลยกับคณะกรรมการมัสยิดและมัสยิดหรือผู้ใดไม่ได้เสียหายหรืออาจเสียหายแต่ประการใดไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของกฎหมายยกเว้นโทษต่อคดีอาวุธปืนที่อยู่ระหว่างพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยฐานมีอาวุธปืนซึ่งมีหมายเลขทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่ไม่ริบปืนของกลาง อัยการโจทก์จึงอุทธรณ์ขอให้ริบปืนของกลาง ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 ออกใช้บังคับโดยมีมาตรา 9 วรรค 1 เปิดโอกาสให้ผู้มีอาวุธปืนฯ มาขออนุญาตต่อนายทะเบียนในกำหนด 90 วันโดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ดังนี้+ แม้คดีอยู่ในะหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในระหว่างใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษายกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของกฎหมายใหม่ต่อคดีอาวุธปืนระหว่างพิจารณา: การยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยฐานมีอาวุธปืน ซึ่งมีหมายเลขทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต แต่ไม่ริบปืนของกลาง อัยการโจทก์จึงอุทธรณ์ ขอให้ริบปืนของกลาง ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501ออกใช้บังคับโดยมี มาตรา 9 วรรคหนึ่ง เปิดโอกาสให้ผู้มีอาวุธปืนฯมาขออนุญาตต่อนายทะเบียนในกำหนด 90 วัน โดยผู้นั้นไม่มีโทษ ดังนี้ต้องถือว่าในระหว่างนั้น กฎหมายยกเว้นโทษแก่ผู้มีอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในระหว่างใช้ พระราชบัญญัตดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษายกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลทหารในการพิจารณาประกันตัวและการแก้ไขค่าปรับ คดีอาญาที่ขึ้นศาลทหารไม่อุทธรณ์ต่อศาลพลเรือนได้
คดีที่ขึ้นศาลทหารและพวกทหารได้สั่งเรื่องประกันไปอย่างไรแล้ว จะอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คำสั่งศาลทหารเรื่องประกันคดีอาญา ไม่สามารถอุทธรณ์ต่อศาลพลเรือนได้
คดีที่ขึ้นศาลทหารและศาลทหารได้สั่งเรื่องประกันไปอย่างไรแล้ว จะอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าซื้อและการฟ้องร้องทางอาญา: กรณีผิดสัญญาเช่าซื้อไม่ใช่ความผิดอาญา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาเช่าซื้อจักรเย็บผ้า แล้วต่อมาจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อ ให้ส่งจักรคืนจำเลยก็ไม่ส่งคืน ทั้งนี้ โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกไว้เป็นของตน ฟ้องดังนี้เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งไม่มีมูลความผิดทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อผิดนัด - ไม่เป็นความผิดอาญา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาเช่าซื้อจักรเย็บผ้า แล้วต่อมาจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อ ให้ส่งจักรคืน จำเลยก็ไม่ส่งคืน ทั้งนี้ โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกไว้เป็นของตน ฟ้องดังนี้ เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่มีมูลความผิดทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่จำเลยปฏิเสธความเป็นเจ้าของและผู้ครอบครองไม้แปรรูป ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอ้างฎีกาขอคืนของกลาง
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ไม้แปรรูปของกลางไม่ใช่ของจำเลยและจำเลยไม่ใช่ผู้ครอบครอง เมื่อศาลฟังดังนั้นและพิพากษาให้ริบไม้ของกลาง จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับของกลางที่จะยกขึ้นอ้างเป็นข้อฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีว่าไม่ใช่เจ้าของ/ผู้ครอบครอง ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอ้างฎีกาเกี่ยวกับของกลาง
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ไม้แปรรูปของกลางไม่ใช่ของจำเลยและจำเลยไม่ใช่ผู้ครอบครอง เมื่อศาลฟังดังนั้นและพิพากษาให้ริบไม้ของกลาง จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับของกลางที่จะยกขึ้นอ้างเป็นข้อฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสำแดงรายการสินค้าเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี แม้ไม่มีเจตนาหรือประมาทเลินเล่อก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากร
ใบขนสินค้าขาเข้าที่จำเลยยื่นต่อเจ้าพนักงานระบุว่าเป็นร่มทำด้วยผ้าฝ้ายล้วน 50 โหล แต่ความจริงกลับเป็นร่มทำด้วยผ้าฝ่ายล้วนเพียง 26 โหล อีก 24 โหล เป็นร่มทำด้วยแพรเทียม ถือว่าใบขนสินค้านี้เป็นเท็จ ถ้าเจ้าพนักงานหลงเชื่อก็จะทำให้ขาดค่าภาษีไป 2,016 บาท เพราะร่วมทำด้วยแพรเทียมต้องเสียภาษีสูงกว่าร่มทำด้วยผ้าฝ้ายล้วน เป็นการหลีกเลี่ยงการเสียค่าภาษีศุลกากร จำเลยจะอ้างว่าจำเลยมิได้ประมาทเลินเล่อหรือเป็นเรื่องที่จำเลยเข้าใจผิด ไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 + บัญญัติไว้ชัดแจ้งให้ถือว่าการกระทำดังที่ระบุไว้ในมาตรา 27 และ 99 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 นั้น เป็นความผิดแม้ผู้กระทำมิได้มีเจตนาหรือทำโดยประมาทเลินเล่อ
ในกรณีเช่นนี้ ร่มที่ทำด้วยแพรเทียม 24 โหล ของกลางเป็นของที่ส่งมาให้จำเลยโดยผิดกฎหมายจำเลยจะขอรับคืนหาได้ไม่
of 68