พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเรียกพยานร่วม - ไม่เป็นอนุญาโตตุลาการ - ศาลบังคับตามข้อตกลงได้
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องที่ดิน ชั้นอำเภอเปรียบเทียบโจทก์จำเลยต่างท้ากันให้เรียกพยานคนกลางมาชี้ขาด ถ้าพยานส่วนมากหรือทั้งหมดให้การว่าเป็นที่ของฝ่ายใด ก็ให้ที่ดินเป็นของฝ่ายนั้น ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องตั้งอนุญาโตตุลาการนอกศาลให้เป็นผู้ชี้ขาดข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 221 เพราะเป็นเรื่องอ้างพยานร่วมกันโดยยังไม่กำหนดให้ใครเป็นผู้ชี้ขาด แต่โจทก์มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับตามข้อตกลงชั้นอำเภอได้ คือให้ศาลพิจารณาตามคำพยานที่ตกลงกันไว้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเรียกพยานชี้ขาดที่ดิน ไม่ใช่การตั้งอนุญาโตตุลาการ แต่ศาลบังคับตามข้อตกลงได้หากเป็นไปตามเงื่อนไข
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องที่ดินชั้นอำเภอเปรียบเทียบ โจทก์จำเลยต่างท้ากันให้เรียกพยานคนกลางมาชี้ขาด ถ้าพยานส่วนมากหรือทั้งหมดให้การว่าเป็นที่ของฝ่ายใด ก็ให้เป็นของฝ่ายนั้น ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องตั้งอนุญาโตตุลาการนอกศาลให้เป็นผู้ชี้ขาดข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 221 เพราะเป็นเรื่องอ้างพยานร่วมกัน โดยยังไม่กำหนดให้ใครเป็นผู้ชี้ขาด แต่โจทก์มีอำนาจฟ้องจอให้บังคับตามข้อตกลงชั้นอำเภอได้ คือให้ศาลพิจารณาตามคำพยานที่ตกลงกันไว้นั้น
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2504
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นต้องเป็นคุณแก่ผู้ขอ หากไม่ใช่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ หากศาลชั้นต้นสั่งว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม คำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งฟ้องเคลือบคลุมและการอุทธรณ์ฎีกาในระหว่างพิจารณา
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ ถ้าศาลชั้นต้นสั่งว่า ฟ้องไม่เคลือบคลุม คำสั่งเช่นนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาในระหว่างพิจารณาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายไม้, การแปลงหนี้, และการรับสภาพหนี้: สัญญา, ความยินยอม, และผลต่ออายุความ
ข้าราชการบำนาญ ขอซื้อไม้จากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มิได้แจ้งว่ากระทำในฐานะตัวแทนใครโดยว่าขอซื้อไม้สักเพื่อสร้างตึกของตนเอง และขอลดราคาไม้ในฐานะที่ตนเป็นข้าราชการบำนาญองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เชื่อว่าข้าราชการบำนาญผู้นั้นซื้อเอง จึงลดราคาไม้ให้ดังนี้การซื้อขายไม้ดังกล่าวจึงเป็นสัญญาซื้อขายระหว่างองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้และข้าราชการบำนาญผู้นั้นโดยตรง
การแปลงหนี้ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้ด้วยการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้นจะต้องมีสัญญาเป็นสามฝ่าย คือสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้เดิมว่าเจ้าหนี้ยอมรับเอาลูกหนี้ใหม่เป็นลูกหนี้ของตนต่อไป โดยระงับหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ต่อลูกหนี้เดิมกับมีสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้คนใหม่ว่าลูกหนี้ใหม่จะเข้ารับชำระหนี้แทนลูกหนี้เก่า
การที่ลูกหนี้ตอบรับใบทวงหนี้ของเจ้าหนี้ว่าเป็นหนี้จริงและไม่ปฏิเสธที่จะชำระหนี้รายนั้นย่อมเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลง
การแปลงหนี้ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้ด้วยการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้นจะต้องมีสัญญาเป็นสามฝ่าย คือสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้เดิมว่าเจ้าหนี้ยอมรับเอาลูกหนี้ใหม่เป็นลูกหนี้ของตนต่อไป โดยระงับหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ต่อลูกหนี้เดิมกับมีสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้คนใหม่ว่าลูกหนี้ใหม่จะเข้ารับชำระหนี้แทนลูกหนี้เก่า
การที่ลูกหนี้ตอบรับใบทวงหนี้ของเจ้าหนี้ว่าเป็นหนี้จริงและไม่ปฏิเสธที่จะชำระหนี้รายนั้นย่อมเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขาย, การแปลงหนี้, และการรับสภาพหนี้: ความรับผิดของลูกหนี้เดิม
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญขอซื้อไม้จากโจทก์โดยมิได้แจ้งว่าเป็นตัวแทนผู้ใด โจทก์เข้าใจว่าจำเลยที่ 1 ซื้อเองจึงลดราคาไม้ให้ สัญญานี้จึงเป็นสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 โดยตรง ผู้อื่นจะแสดงว่าเป็นตัวการเพื่อเข้ารับสัญญานี้หาทำให้จำเลยต้องหลุดพ้นจากสัญญาไป
การแปลงหนี้ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้ด้วยและจะต้องมีสัญญาเป็นสามฝ่าย คือ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้เดิม ว่าเจ้าหนี้ยอมรับเอาลูกหนี้ใหม่โดยระงับหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ต่อลูกหนี้เดิม กับมีสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ใหม่ว่า ลูกหนี้ใหม่จะเข้ารับชำระหนี้แทนลูกหนี้เก่าด้วย
ถึงแม้อายุความในเรื่องสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเริ่มนับแล้วก็ตาม ถ้าจำเลยตอบรับใบทวงหนี้ของโจทก์ว่าเป็นหนี้โจทก์และไม่ปฏิเสธที่จะชำระหนี้รายนั้น เช่นนี้ ย่อมเป็นการรับสภาพหนี้ มีผลให้อายุความสดุดหยุดลง
การแปลงหนี้ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้ด้วยและจะต้องมีสัญญาเป็นสามฝ่าย คือ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้เดิม ว่าเจ้าหนี้ยอมรับเอาลูกหนี้ใหม่โดยระงับหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ต่อลูกหนี้เดิม กับมีสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ใหม่ว่า ลูกหนี้ใหม่จะเข้ารับชำระหนี้แทนลูกหนี้เก่าด้วย
ถึงแม้อายุความในเรื่องสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเริ่มนับแล้วก็ตาม ถ้าจำเลยตอบรับใบทวงหนี้ของโจทก์ว่าเป็นหนี้โจทก์และไม่ปฏิเสธที่จะชำระหนี้รายนั้น เช่นนี้ ย่อมเป็นการรับสภาพหนี้ มีผลให้อายุความสดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินของคู่สามีภริยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส: สิทธิในการคัดค้านการยึด
สามีภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในเรือนที่โจทก์นำยึดในคดีที่สามีเป็นจำเลย ภริยาไม่มีสิทธิร้องขอให้ถอนการยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส: สิทธิในการคัดค้านการยึด
สามีภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในเรือนที่โจทก์นำยึดในคดีที่สามีเป็นจำเลยภริยาไม่มีสิทธิร้องขอให้ถอนการยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในเคหสถาน: การกระทำเพื่อป้องกันชีวิตจากการถูกทำร้ายถึงบ้าน ถือเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายบุกรุกเข้าไปจะทำร้ายจำเลยจนถึงบ้าน จำเลยจึงยิงเอา เพราะถ้าไม่ยิงผู้ตายก็จะฟันจำเลย เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อป้องกันชีวิตเมื่อถูกบุกรุกถึงเคหสถาน
ผู้ตายบุกรุกเข้าไปจะทำร้ายจำเลยจนถึงบ้านจำเลยจึงยิงเอาเพราะถ้าไม่ยิงผู้ตายก็จะฟันจำเลยเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ