คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สนิท สุมาวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การล่วงล้ำทางเพศที่ไม่ถึงขั้นสำเร็จความใคร่
จำเลยได้ลงมือกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุเพียง4 ปีเศษ แต่อวัยวะสืบพันธุ์ของจำเลยเพียงแต่จรดอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหาย มิได้ล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอด การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การล่วงล้ำทางเพศที่ไม่สำเร็จ
จำเลยได้ลงมือกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 4 ปีเศษ แต่อวัยวะสืบพันธุ์ของจำเลยเพียงแต่จรดอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหาย มิได้ล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอด การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ถือหุ้นฟ้องคดีอาญาแทนบริษัทเมื่อกรรมการฉ้อโกง และหลักการฟ้องซ้ำในคดีอาญา
ในกรณีที่กรรมการบริษัทจำกัดฉ้อโกงบริษัท และบริษัทนั้นไม่ยอมดำเนินคดีกับกรรมการที่ฉ้อโกง ผู้ถือหุ้นย่อมเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องคดีทางอาญาขอให้ลงโทษกรรมการผู้นั้นได้
เมื่อได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่หาว่าจำเลยได้กระทำขึ้นเกี่ยวกับเงินจำนวนใดแล้ว จะฟ้องจำเลยนี้ในจำนวนเงินเดียวกันนั้นอีก แม้จะอ้างความผิดคนละฐานกับคดีเดิมก็ตาม จะกระทำมิได้ เป็นฟ้องซ้ำเพราะสิทธินำคดีมาฟ้องระงับไปแล้ว
อุทธรณ์บางข้อที่ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัย ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยเสียเองได้ ไม่ต้องย้อนสำนวนไป ถ้าเห็นเป็นการสมควร (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าในคดีอาญา: การตีความจากพฤติการณ์และการบรรยายฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยได้บังอาจสมคบร่วมกันฆ่า"ก็ย่อมหมายความว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาจะฆ่าให้ตายอยู่ในตัว ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องระบุในฟ้องว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายไม่
ฟ้องของโจทก์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่าจำเลยใช้พร้าฟันผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าในคดีสมคบกันฆ่า: การบรรยายฟ้องและการพิสูจน์เจตนา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจสมคบกันฆ่า ก็ย่อมหมายความว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาจะฆ่าให้ตายอยู่ในตัว ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องระบุในฟ้องว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายไม่
ฟ้องของโจทก์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่าจำเลยใช้พร่าฟันผู้ตายถึงแก่ตามความโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส.ค.1 ไม่สร้างสิทธิในที่ดิน หากไม่ได้มีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อน
การแจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบ ส.ค. 1 นั้น ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้แจ้งประการใด เว้นแต่ผู้แจ้งจะได้สิทธิครอบครองอยู่แล้ว โดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส.ค.1 ไม่สร้างสิทธิในที่ดิน หากไม่ได้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ได้ครอบครองก่อน จึงมีสิทธิเหนือจำเลย
การแจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบส.ค.1 นั้น ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้แจ้งประการใด เว้นแต่ผู้แจ้งจะได้สิทธิครอบครองอยู่แล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เสียหายเลือกฟ้องคดีอาญาได้ แม้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณา
โจทก์ฟ้องต่อศาลพลเรือนขอให้ลงโทษตาม มาตรา 391 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ถึงแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยทำผิดตามมาตรา 295 ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารจะพิจารณาพิพากษาตาม ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 16ก็ดี เพราะไม่มีกฎหมายหรือประกาศคณะปฏิวัติฉบับใดห้ามไว้ และเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะเลือกฟ้องฐานใดก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เสียหายเลือกฟ้องอาญาฐานใดก็ได้ แม้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณา
โจทก์ฟ้องต่อศาลพลเรือนขอให้ลงโทษตามมาตรา 391 แห่งประมวลกฎหมายอาญาถึงแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยทำผิดตามมาตรา 295 ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารจะพิจารณาพิพากษาตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 16 ก็ดี ศาลพลเรือนก็ต้องรับฟ้องไว้พิจารณาเพราะไม่มีกฎหมายหรือประกาศคณะปฏิวัติฉบับใดห้ามไว้ และเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะเลือกฟ้องฐานใดก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าปรับแล้วไม่อาจขอคืนได้ แม้จำเลยเลือกถูกกักขังแทนค่าปรับที่เหลือ
ศาลลงโทษปรับจำเลย ๆ ชำระค่าปรับบางส่วนแล้ว จำเลยขอให้ศาลสั่งคืนค่าปรับโดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ โดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ เช่นนี้ ศาลจะสั่งคืนค่าปรับให้จำเลยหาได้ไม่ หากจำเลยเห็นว่า จำเลยได้ชำระค่าปรับไปบ้างแล้วและชอบที่จะถูกกักขังแทนค่าปรับน้อยกว่า กำหนดที่ศาลพิพากษาไว้ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องเรียนในแง่นั้น หาใช่มาขอคืนปรับซึ่งชำระไว้โดยถูกต้องแล้วไม่
of 68