พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาต่างวัตถุประสงค์: การฆ่าโดยสำคัญผิดไม่ใช่สาระสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่านายรอก แต่มาฆ่านายอ่อนเพราะสำคัญผิดว่านายอ่อนคือนายรอก แม้ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยไม่ได้ฆ่าเพราะสำคัญผิด ก็ลงโทษได้เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่างกับฟ้อง ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายหรือไม่ ส่วนจะฆ่าโดยสำคัญผิดหรือไม่สำคัญผิดนั้นเป็นเพียงเหตุประกอบแห่งการฆ่าเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารยินยอมผัดชำระหนี้ของผู้ค้ำประกัน ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
หนังสือที่เป็นคำรับรองที่ผู้ค้ำประกันยินยอมในการที่ผู้กู้ขอผัดชำระหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับรองผัดชำระหนี้ ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
หนังสือที่เป็นคำรับรองที่ผู้ค้ำประกันยินยอมในการที่ผู้กู้ขอผัดชำระหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดต่อห้างหุ้นส่วนสามัญแม้มีการถอดถอนผู้ชำระบัญชี ฟ้องแย้งไม่กระทบการเรียกร้องเดิม
จำเลยถูกผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญฟ้องเรียกเงินคืนจำเลยจะฟ้องแย้งขอให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชีนั้น ไม่ได้ เพราะแม้จะรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณาแล้วพิพากษาให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชี ฟ้องของผู้ชำระบัญชีในคดีนี้ยังคงมีอยู่การถอดถอนผู้ชำระบัญชีในภายหลังหาได้กระทบกระเทือนความรับผิดของจำเลยต่อห้างหุ้นส่วนสามัญนั้นแต่ประการใดไม่ถ้าหากผู้ชำระบัญชีซึ่งได้เป็นผู้ชำระบัญชีอยู่ในเวลาฟ้องนั้นมีอำนาจเรียกร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งขอถอดถอนผู้ชำระบัญชีไม่กระทบความรับผิดต่อห้างหุ้นส่วน การฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม
จำเลยถูกผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญฟ้องเรียกเงินคืน จำเลยจะฟ้องแย้ขอให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชีนั้น ไม่ได้เพราะแม้จะรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้ พิจารณาแล้วพิพากษาให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชี ฟ้องของผู้ชำระบัญชีในคดีนี้ยังคงมีอยู่ การถอดถอนผู้ชำระบัญชีในภายหลัง หาได้กระทบกระเทือนความรับผิดของจำเลยต่อห้างหุ้นส่วนสามัญนั้นแต่ประการใดไม่ ถ้าหากผู้ชำระบัญชีซึ่งได้เป็นผู้ชำระบัญชีอยู่ในเวลาฟ้องนั้นมีอำนาจเรียกร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำซ้อนในความผิดเดียวกัน สิทธิฟ้องระงับตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ผู้ว่าคดีได้ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวง ฯ ศาลแขวงลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา299 ผู้เสียหายได้มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 อีก ดังนี้ เมื่อกรณีเป็นเรื่องเดียวกัน และวาระเดียวกันสิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 29 (4)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 299 แม้ มาตรา 297 ศาลแขวงจะไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา แต่ก็มีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องอยู่ เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำคดีที่ศาลพิพากษาแล้วมาฟ้องใหม่ ศาลก็ย่อมรับฟ้องของโจทก์ไว้มิได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 299 แม้ มาตรา 297 ศาลแขวงจะไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา แต่ก็มีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องอยู่ เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำคดีที่ศาลพิพากษาแล้วมาฟ้องใหม่ ศาลก็ย่อมรับฟ้องของโจทก์ไว้มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องระงับเมื่อคดีเดียวกันถูกฟ้องและมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
ผู้ว่าคดีได้ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงฯ ศาลแขวงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 299 ผู้เสียหายได้มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 อีก ดังนี้เมื่อกรณีเป็นเรื่องเดียวกันและวาระเดียวกันสิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297,299 แม้มาตรา 297 ศาลแขวงจะไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาแต่ก็มีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องอยู่ เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำคดีที่ศาลพิพากษาแล้วมาฟ้องใหม่ ศาลก็ย่อมรับฟ้องของโจทก์ไว้มิได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297,299 แม้มาตรา 297 ศาลแขวงจะไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาแต่ก็มีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องอยู่ เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำคดีที่ศาลพิพากษาแล้วมาฟ้องใหม่ ศาลก็ย่อมรับฟ้องของโจทก์ไว้มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษและการล้างมลทินโทษ: การพิจารณาโทษสะสมหลังได้รับการล้างมลทินโทษในคดีก่อน
จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุก 2 คดี ศาลให้นับโทษต่อกัน ระหว่างจำเลยต้องคุมขังในคดีหลัง ได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินโทษ ให้ล้างมลทิน แก่ผู้ต้องคำพิพากษาในกรณีความผิดคดีต่าง ๆ ซึ่งเกิดก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2499 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการอภัยโทษ เนื่องในโอกาศครบ 25 พุทธศตวรรษ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้ ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดในคดีนั้น ๆ ดังนี้ การต้องคุมขังของจำเลยในคดีก่อน ย่อมเป็นพับไปแก่จำเลยเอง จะยกการต้องคุมขังในคดีก่อนไปใช้แทนโทษในคดีหลังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกหลังได้รับการล้างมลทินโทษ: โทษเดิมเป็นพับ, เริ่มนับโทษใหม่หลังพ้นมลทิน
จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุก 2 คดีศาลให้นับโทษต่อกันระหว่างจำเลยต้องคุมขังในคดีหลังได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินโทษให้ล้างมลทินแก่ผู้ต้องคำพิพากษาในกรณีความผิดคดีต่างๆ ซึ่งเกิดก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2499 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาศครบ25พุทธศตวรรษ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดในคดีนั้นๆ ดังนี้ การต้องคุมขังของจำเลยในคดีก่อน ย่อมเป็นพับไปแก่จำเลยเอง จะยกการต้องคุมขังในคดีก่อนไปใช้แทนโทษในคดีหลังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีกับทรัพย์ที่อยู่ในมือบุคคลที่สาม: สิทธิของเจ้าหนี้และผู้ครอบครอง
โจทก์ฟ้องเรียกจักรคืนจากจำเลยเพราะจำเลยผิดสัญญาซื้อขาย โจทก์ขอดให้ยึดจักรไว้ก่อนมีคำพิพากษา ศาลอนุญาตเจ้าพนักงานจึงไปยึดจักรรายนี้จากผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนำจักรไว้จากจำเลย เช่นนี้การที่ผู้ร้องร้องขอให้ปล่อยจักรที่ยึด กรณีจึงเป็นเรื่องผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ หาใช่เป็นการร้องสอดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) ไม่ เมื่อโจทก์ถือว่าทรัพย์ของจำเลยไปตกอยู่ที่ผู้ร้อง โจทก์ก็ย่อมดำเนินการบังคับคดีกับทรัพย์ (จักร) นั้นได้ หาจำต้องฟ้องร้องเรียกทรัพย์นั้นจากผู้ร้อง แต่ประการใดไม่ แม้ผู้ร้องจะเถียงว่าเป็นของผู้ร้อง กฎหมายก็เปิดให้มีการร้องขัดทรัพย์ได้ อยู่แล้ว
แม้ผู้ร้องจะมีสิทธิครอบครอง จะเจตนาเป็นเจ้าของ จะรับจักรไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนอย่างใด แต่เมื่อกรรมสิทธิ์ยังอยู่กับจำเลย ส่วนผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์เช่นนี้ โจทก์ก็ยังนำยึดจักรนั้นได้
แม้ผู้ร้องจะมีสิทธิครอบครอง จะเจตนาเป็นเจ้าของ จะรับจักรไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนอย่างใด แต่เมื่อกรรมสิทธิ์ยังอยู่กับจำเลย ส่วนผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์เช่นนี้ โจทก์ก็ยังนำยึดจักรนั้นได้