พบผลลัพธ์ทั้งหมด 120 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษกักกันที่พ้นโทษแล้วก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา ย่อมได้รับการล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ และไม่อาจนำมาเพิ่มโทษซ้ำได้
ก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 มาตรา 5 บัญญัติให้ถือกักกันเป็นโทษอาญาสถานหนึ่ง เมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 15 ให้เปลี่ยนโทษกักกันมาเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย โทษกักกันจึงไม่ใช่โทษอาญาเสียแล้ว แต่บทบัญญัติมาตรา 15 นี้ย่อมไม่ย้อนหลังไปบังคับถึงโทษกักกันที่ได้เสร็จสิ้นพ้นโทษไปแล้ว
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้กักกันมีกำหนด 3 ปี พ้นโทษไปเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2498 ก่อนใช้พระราชบัญญัติล้างมลทิน ฯ พ.ศ. 2499 และก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา ดังนี้ โทษกักกันที่จำเลยได้รับเสร็จสิ้นไปแล้วก่อนประมวลกฎหมายอาญาออกใช้ ก็คงถือเป็นโทษอยู่ ย่อมได้รับการล้างมลทินโดยพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2499 มาตรา 3 จะกักกันจำเลยโดยอาศัยเหตุที่จำเลยเคยถูกกักกันมาแล้วตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 41 อีก หาได้ไม่.
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้กักกันมีกำหนด 3 ปี พ้นโทษไปเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2498 ก่อนใช้พระราชบัญญัติล้างมลทิน ฯ พ.ศ. 2499 และก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา ดังนี้ โทษกักกันที่จำเลยได้รับเสร็จสิ้นไปแล้วก่อนประมวลกฎหมายอาญาออกใช้ ก็คงถือเป็นโทษอยู่ ย่อมได้รับการล้างมลทินโดยพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2499 มาตรา 3 จะกักกันจำเลยโดยอาศัยเหตุที่จำเลยเคยถูกกักกันมาแล้วตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 41 อีก หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสถานะโทษกักกันเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยหลังมีกฎหมายใหม่ และผลกระทบต่อการล้างมลทิน
ศาลพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี และให้ส่งตัวไปกักกันอีก 3 ปีคดีถึงที่สุดก่อนใช้พระราชบัญญัติล้างมลทินและประมวลกฎหมายอาญาเมื่อจำเลยถูกจำคุกครบ 1 ปี แล้วระหว่างที่จำเลยถูกกักกันอยู่ มีพระราชบัญญัติล้างมลทินฯและประมวลกฎหมายอาญา ประกาศใช้บังคับเมื่อความผิดของจำเลยที่ต้องคำพิพากษามาแล้วนั้น เข้าเกณฑ์ที่ศาลอาจพิพากษาให้กักกันได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา41โทษกักกันที่จำเลยได้รับอยู่จึงเปลี่ยนลักษณะมาเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา15 วรรคแรกแม้ตามประมวลกฎหมายอาญาไม่ถือว่ากักกันเป็นโทษหากเป็นแต่เพียงวิธีการเพื่อความปลอดภัยที่จำเลยยังต้องรับต่อไปก็ตามก็ยังไม่ถือว่าจำเลยได้พ้นโทษกักกันนั้นไปแล้ว เพราะยังต้องถูกกักกันอยู่ โดยผลแห่งคำพิพากษาของศาลความผิดในกรณีนี้ของจำเลยจึงยังไม่ถูกลบล้างตาม มาตรา3 พระราชบัญญัติลบล้างมลทินฯ พ.ศ.2499 ศาลจะสั่งปล่อยจำเลยไปหาได้ไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สุราปิดแสตมป์ปลอมถือเป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษี จึงเป็นของไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่สามารถคืนได้ แม้ผู้ครอบครองไม่มีเจตนา
สุราที่จะต้องเสียภาษีโดยปิดแสตมป์สุรานั้น หากปิดแสตมป์ปลอมก็เป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษีซึ่งต้องถือว่าเป็นสุราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลจะสั่งคืนสุราให้โจทก์ผู้มีไว้ในครอบครองไม่ได้ ถึงแม้ว่าผู้ครอบครองจะไม่ถูกฟ้องคดีอาญา เพราะหลักฐานยังไม่พอฟังว่าผู้ครอบครองรู้ว่าแสตมป์นั้นปลอม ก็ไม่ทำให้สุราของกลางเป็นสุราที่มีการเสียภาษีสุราแล้วไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สุราปิดแสตมป์ปลอม ถือเป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษี ศาลไม่คืนได้ แม้ผู้ครอบครองไม่มีเจตนา
สุราที่จะต้องเสียภาษีโดยปิดแสตมป์สุรานั้นหากปิดแสตมป์ปลอมก็เป็นสุราที่ยังไม่ได้เสียภาษีซึ่งต้องถือว่าเป็นสุราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลจะสั่งคืนสุราให้โจทก์ผู้มีไว้ในครอบครองไม่ได้ถึงแม้ว่าผู้ครอบครองจะไม่ถูกฟ้องคดีอาญาเพราะหลักฐานยังไม่พอฟังว่าผู้ครอบครองรู้ว่าแสตมป์นั้นปลอม ก็ไม่ทำให้สุราของกลางเป็นสุราที่มีการเสียภาษีสุราแล้วไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษผู้เคยต้องโทษปรับ: ศาลฎีกาตัดสินว่าเพิ่มโทษตามกฎหมายอาญาไม่ได้หากเคยติดโทษปรับ
โทษปรับเป็นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 12 ทั้งเป็นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา18 ด้วยแต่การจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92(กฎหมายอาญามาตรา72) นั้น จะกระทำได้เฉพาะผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเท่านั้น ผู้ที่เคยต้องโทษปรับจะเพิ่มโทษด้วยหาได้ไม่
ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 150 บาท ฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่โทษจำคุกศาลให้รอการลงอาญาไว้คงปรับแต่สถานเดียวเมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในกำหนดดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยหาได้ไม่
ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 150 บาท ฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่โทษจำคุกศาลให้รอการลงอาญาไว้คงปรับแต่สถานเดียวเมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในกำหนดดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยในคดีใหม่ เมื่อเคยต้องโทษปรับก่อนหน้า ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเพิ่มโทษได้เฉพาะผู้เคยถูกจำคุก
โทษปรับเป็นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 12 ทั้งเป็นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ม.18 ด้วย แต่การจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ม.92 (ก.ม.อาญา ม.72) นั้น จะกระทำได้เฉพาะผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเท่านั้น ผู้ที่เคยต้องโทษปรับจะเพิ่มโทษด้วยหาได้ไม่
ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 150 บาท ฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่โทษจำคุกศาลให้รอการลงอาญาไว้ คงปรับแต่สถานเดียว เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในกำหนด ดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยหาได้ไม่.
ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 150 บาท ฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่โทษจำคุกศาลให้รอการลงอาญาไว้ คงปรับแต่สถานเดียว เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในกำหนด ดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมงผิดกฎหมาย: ค่าปรับและเงินบำเหน็จนำจับ
จำเลยในคดีใช้เครื่องมือทำการประมงโดยไม่มีอาชญาบัตร์ ต้องรับผิดชอบในค่าปรับและเงินบำเหน็จนำจับร่วมกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยสุจริตตามคำสั่งเจ้าพนักงาน แม้ขัดกฎกระทรวง ไม่เป็นความผิดอาญา
จำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตได้ทำไม้ได้ จำเลยได้ทำการชักลากไม้มาก่อนที่เจ้าพนักงานป่าไม้ได้ดีตีตราอนุญาต โดยจำเลยได้รับคำสั่งอนุญาตด้วยวาจาจากเจ้าพนักงานให้ชักลากไม้มาก่อนแล้วจะตีตราให้ภายหลังซึ่งเป็นวิธีการที่เคยปฏิบัติกันมา ถือว่าจำเลยได้กระทำการไปโดยสุจริต ไม่เป็นบังอาจหรือเจตนาที่จะกระทำความผิดทางอาญา จำเลยจึงไม่ควรรับอาญา ไม้ของกลางไม่ริบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษปรับกรณีความผิดต่อเนื่อง พ.ร.บ.ทะเบียนพานิช สิทธิศาลในการกำหนดค่าปรับ
การที่โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.ทเบียนพานิชนั้น สาลจะลงโทสรวมกันก็ได้ และจะกำหนดค่าปรับเท่าไรก็ได้เมื่อไม่เกินคั่นสูงที่กดหมายกำหนดไว้
กรนีทีกดหมายกำหนดไห้ปรับไม่เกินวันละ 20 บาท นั้น สาลจะปรับต่ำกว่า 1 บาทก็ได้
กรนีทีกดหมายกำหนดไห้ปรับไม่เกินวันละ 20 บาท นั้น สาลจะปรับต่ำกว่า 1 บาทก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำแทนค่าปรับ: การเฉลี่ยวันจำคุกเมื่อปรับรวมกัน และข้อจำกัดระยะเวลาจำแทน
เมื่อสาลปรับจำเลยรวมกันการจำแทนค่าปรับต้องเฉลี่ยจากจำนวนการจำแทนไม่เกิน 1 ปี จะเฉลี่ยจากจำนวนค่าปรับที่จะจำแทนเกิน 1 ปีไม่ได้.