พบผลลัพธ์ทั้งหมด 286 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมแพ้คดีจากการท้าสาบานและน้ำหนักพยานหลักฐานจากรายงานเจ้าหน้าที่ศาล
คู่ความตกลงท้ากัน ถ้าจำเลยสาบานว่าได้ชำระเงินให้โจทก์แล้วโจทก์ไม่ติดใจดำเนินคดี ถ้าจำเลยไม่ยอมสาบาน จำเลยยอมแพ้ ศาลจึงให้จ่าศาลไปเป็นพยานในพิธี สาบาน โดยที่จ่าศาลเป็นพนักงานของศาล เมื่อไม่ปรากฏเป็นอย่างอื่น รายงานและคำแถลงของจ่าศาลจึงเชื่อถือได้ ฉะนั้น เมื่อจำเลยไม่ยอมสาบานจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมที่มีเงื่อนไขให้เลิกคดีอาญา เป็นโมฆะขัดต่อความสงบเรียบร้อย
ทำสัญญาประนีประนอมยอมให้ค่าเสียหายในเรื่องทำให้คนตายโดยประมาทเป็นการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว ต่อมาได้เพิ่มเติมข้อความว่า จะรับค่าเสียหายไปได้ต่อเมื่อคดีที่ผู้ถูกฟ้องทางอาญาฐานทำให้คนตายนั้นถึงที่สุดไม่มีผิดตามกฎหมายแล้ว ดังนี้ เป็นการตกลงที่จะให้ฝ่ายรับค่าเสียหายกระทำผิดกฎหมายหรือให้บิดเบือนข้อเท็จจริงอันจะช่วยให้ผู้กระทำผิดพ้นอาญาไป ข้อตกลงใหม่จึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมมีเงื่อนไขขัดต่อความสงบเรียบร้อยเป็นโมฆะ
สัญญาประนีประนอมที่มีเงื่อนไขว่า จะจ่ายเงินที่เหลือต่อเมื่อศาลพิพากษาว่า ผู้ขับรถชนสามีโจทก์ ไม่มีผิดทางอาญานั้น ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนเป็นโมฆะใช้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากสัญญาจะขายหลายฉบับ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคำพิพากษาตามยอมความไม่ใช่การแสดงกรรมสิทธิ์
คำพิพากษาตามยอมความว่าจำเลยยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ตามสัญญาจะขายนั้นไม่ใช่คำพิพากษาที่แสดงหรือวินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์ที่ดิน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้คนหนึ่งแล้ว มาทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นให้อีกคนหนึ่ง ผู้ซื้อคนหลังฟ้องขอให้บังคับโอนที่ดินก่อน แล้วผู้ซื้อคนแรกจึงฟ้องขอให้โอนโดยจำเลยทำยอมความไม่สู้คดี ดังนี้ ไม่ขัดข้องที่ศาลจะพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้ผู้ซื้อคนหลัง
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้คนหนึ่งแล้ว มาทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นให้อีกคนหนึ่ง ผู้ซื้อคนหลังฟ้องขอให้บังคับโอนที่ดินก่อน แล้วผู้ซื้อคนแรกจึงฟ้องขอให้โอนโดยจำเลยทำยอมความไม่สู้คดี ดังนี้ ไม่ขัดข้องที่ศาลจะพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้ผู้ซื้อคนหลัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินสัญญาและเช็คไร้ค่า: เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิเรียกร้องบังคับตามเช็ค
เจ้าหนี้จำนองเรียกร้องเอาดอกเบี้ยจำนองเกินจากที่กำหนดไว้ในสัญญา เรียกเอาประโยชน์เพิ่มนอกจากดอกเบี้ยที่ต้องเสียและเป็นเรื่องดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยอันเป็นผิดอาญาตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แล้วจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ได้ออกเช็คแก่เจ้าหนี้เพื่อชำระเงินดังกล่าวแล้ว แม้ธนาคารจะไม่มีเงินพอจ่ายให้ตามเช็ค เมื่อเจ้าหนี้ไปขอรับเงินนั้นก็ดีจำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดแต่การใช้เช็ค 2497 มาตรา 3 เพราะเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิจะทำได้ และไม่มีสิทธิเรียกร้องบังคับให้ใช้เงินจำนวนนั้นตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกรับเงินเพื่อล้มคดีฆ่าคนตาย แม้ไม่มีผู้สั่งการโดยตรง ก็ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143
จำเลยอ้างต่อนาย พ.ว่า นายร้อยตำรวจผู้เป็นพนักงานสอบสวนใช้ให้ไปเรียกเงินจากนาย ป.เพื่อล้มคดีโดยพนักงานสอบสวนผู้นั้นจะปล่อยญาติของนาย ป. กับพวกซึ่งต้องหาคดีฐานฆ่าคนตาย ต่อมานาย ป. ได้นำเงินมามอบให้จำเลยและจำเลยยังได้กล่าวยืนยันต่อนาย ป.ว่า พนักงานสอบสวนต้องการเงินเพื่อจะได้ปล่อยญาติของนาย ป.กับพวก ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะมีผู้ใดใช้ให้จำเลยไปเรียกเงินหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เรียกรับเงินเพื่อล้มคดีฆ่าคนตาย การกระทำครบองค์ความผิดแม้ไม่มีผู้สั่งการ
จำเลยอ้างต่อนาย พ. ว่า นายร้อยตำรวจผู้เป็นพนักงานสอบสวนใช้ให้ไปเรียกเงินจากนาย ป. เพื่อล้มคดีโดยพนักงานสอบสวนผู้นั้นจะปล่อยญาติของนาย ป. กับพวกซึ่งต้องหาคดีฐานฆ่าคนตาย ต่อมานาย ป. ได้นำเงินมามอบให้จำเลยและจำเลยยังได้กล่าวยืนยันต่อนาย ป. ว่าพนักงานสอบสวนต้องการเงินเพื่อจะได้ปล่อยญาติของนาย ป.กับพวก ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะมีผู้ใดใช้ให้จำเลยไปเรียกเงินหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินพร้อมมอบทรัพย์เป็นประกัน เมื่อเสนอชำระหนี้แล้ว เจ้าหนี้ต้องคืนทรัพย์ประกันให้ทันที
จำเลยกู้เงินโจทก์ มอบปืนให้ไว้เป็นประกันการชำระหนี้ เมื่อจำเลยเสนอขอชำระหนี้เงินกู้ โจทก์ก็ต้องคืนปืนที่เป็นประกันให้ จะให้จำเลยชำระหนี้เสียก่อน ส่วนปืนจะคืนภายหลังหาได้ไม่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์ไม่ยอมคืนปืน ก็ถือว่าจำเลยไม่ผิดนัด ยังไม่ต้องชำระหนี้เงินกู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้และการคืนหลักประกัน: สิทธิของลูกหนี้ในการได้รับคืนหลักประกันเมื่อเสนอชำระหนี้
จำเลยกู้เงินโจทก์ มอบปืนให้ไว้เป็นประกันการชำระหนี้ เมื่อจำเลยเสนอขอชำระหนี้เงินกู้ โจทก์ก็ต้องคืนปืนที่เป็นประกันให้ จะให้จำเลยชำระหนี้เสียก่อน ส่วนปืนจะคืนภายหลังหาได้ไม่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์ไม่ยอมคืนปืนก็ถือว่าจำเลยไม่ผิดนัด ยังไม่ต้องชำระหนี้เงินกู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางเช่าทรัพย์: จำเลยไม่อาจอ้างสิทธิคุ้มครองค่าเช่า หากไม่ได้ขอรับสิทธิพิเศษตามกฎหมาย
จำเลยให้การว่าจำเลยเช่าห้องรายพิพาทเพื่ออยู่อาศัย มิใช่เช่าเพื่อทำการค้า สัญญาเช่าที่ทำไว้จึงเป็นนิติกรรมอำพราง จำเลยไม่เคยผิดสัญญาเช่า ทั้งโจทก์ไม่เคยบอกเลิกสัญญา ดังนี้ ไม่พอที่จะให้รับฟังได้ว่าจำเลยได้ขอรับสิทธิพิเศษ ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ฯ เพื่อที่ตนจะได้รับความคุ้มครองให้อยู่ตอ่ไป