คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สารกิจปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 286 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัยการมีอำนาจสั่งทำลายยางพาราปลูกใหม่ผิดกฎหมาย และบังคับจำเลยชดใช้ค่าใช้จ่ายได้ เป็นคำขอทางอาญา
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพารา ซึ่งปลูกใหม่โดยมิได้รับอนุญาต และขอให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ.2481 มาตรา 15คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญา หาใช่คำขอทางแพ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจของอัยการในการสั่งทำลายต้นยางที่ปลูกโดยไม่ได้รับอนุญาต และการบังคับให้จำเลยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำลาย
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกใหม่โดยมิได้รับอนุญาต และขอให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. 2481 มาตรา 15 คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญา หาใช่เป็นคำขอทางแพ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาในคดีอาญา: การฎีกาข้อเท็จจริงเมื่อศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ยังไม่ยกฟ้อง และขอบเขตการฎีกาในความผิดที่เกี่ยวข้อง
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามฐานฆ่าคนและพยายามฆ่าคนโดยทำร้ายผู้เสียหาย 3 คน ในคดีเดียวกัน ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้พิพากษายกฟ้อง คงลงโทษจำเลยที่ 1-2 ฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย 2 คนถึงสาหัส มีกำหนดโทษจำคุก 7 ปี คู่ความย่อมฎีกาข้อเท็จจริงในความผิดฐานฆ่าคนได้ เมื่อฎีกาข้อเท็จจริงได้แล้ว ข้อหาว่าจำเลยพยายามฆ่านายแต้ม ซึ่งเป็นผู้เสียหายคนหนึ่งในคดี โจทก์ย่อมฎีกาได้ด้วย แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยมิได้ใช้ปื่นยิงอันเป็นการพยายามฆ่านายแต้มก็ดีแต่ศาลหาได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ไม่ จึงไม่ต้องห้ามฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดฐานทำร้ายร่างกายสาหัส จำคุก 7 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ จำคุก 2 ปี เป็นการแก้ไขมาก เพราะแก้โทษและแก้บท โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงสำหรับจำเลยนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเริ่มนับโทษปรับรายวันตามกฎหมายห้างหุ้นส่วน ต้องเริ่มนับจากวันที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด
เมื่อกฎหมายไม่ระบุไว้ชัดเจน จะแปลให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
จำเลยจะกระทำผิดหรือไม่ นั้น ศาลเป็นผู้ชี้ขาด
คำว่า "จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง" ในพระราชบัญญัตินี้ หมายความว่า ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ศาลได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดจะนับตั้งแต่วันสอบสวนไม่ได้
ประชุมใหญ่ ครั้ง 23/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเริ่มนับโทษปรับรายวันตามกฎหมายเฉพาะ: ต้องนับจากวันที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด
เมื่อกฎหมายไม่ระบุไว้ชัดเจน จะแปลให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
จำเลยจะกระทำผิดหรือไม่นั้น ศาลเป็นผู้ชี้ขาด
คำว่า "จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง" ในพระราชบัญญัตินี้ หมายความว่าให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ศาลได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิด จะนับตั้งแต่วันสอบสวนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลทหาร: คดีต้องขึ้นศาลพลเรือนหากไม่มีหลักฐานพรรคพวกจำเลยเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหาร แม้ภายหลังพิสูจน์ได้ว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร
จำเลยเป็นทหารประจำการ แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่าจำเลยสมคบกับพวกกระทำผิดกฎหมาย โดยโจทก์ไม่ยืนยันว่าพวกจำเลยเป็นทหารหรือพลเรือนและชั้นพิจารณาก็ไม่ปรากฏว่าเป็นทหารหรือพลเรือนก็ตาม เมื่อคดีไม่มีหลักฐานว่าพรรคพวกของจำเลยเป็นบุคคลอยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว คดีก็ต้องขึ้นศาลฝ่ายพลเรือนและแม้จะปรากฎตามทางพิจารณาในภายหลังว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก็ให้ศาลพลเรือนมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
(อ้างฎีกาที่ 463/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาเมื่อส่งประเด็นไปสืบพยาน แม้แถลงจะตามประเด็นไปแล้ว การไม่ไปถือเป็นการสละสิทธิ์ ไม่ใช่ขาดนัด
วันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานเป็นวันแรกในคดีนั้น คู่ความฝ่ายใดไม่มาศาล ไม่ว่าตนจะมีหน้าที่นำพยานเข้าสืบหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นการขาดนัดพิจารณาตามความหมายแพ่งกฎหมายแล้ว
การส่งประเด็นไปสืบพยานนั้นเป็นสิทธิของคู่ความที่จะตามประเด็นไปหรือไม่ไปก็ได้ ฉะนั้น แม้จะได้แถลงต่อศาลว่าจะตามประเด็นไป แต่แล้วต่อมามิได้ไปตามกำหนดนัด ก็หาทำให้เป็นผู้ขาดนัดพิจารณาไม่
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาและการไม่ติดตามการสืบพยาน
วันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานเป็นวันแรกในคดีนั้น คู่ความฝ่ายใดไม่มาศาล ไม่ว่าตนจะมีหน้าที่นำพยานเข้าสืบหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นการขาดนัดพิจารณาตามความหมายแห่งกฎหมายแล้ว
การส่งประเด็นไปสืบพยานนั้น เป็นสิทธิของคู่ความที่จะตามประเด็นไปหรือไม่ก็ได้ ฉะนั้น แม้จะได้แถลงต่อศาลว่าจะตามประเด็นไป แต่แล้วต่อมามิได้ไปตามกำหนดนัดก็หาทำให้เป็นผู้ขาดนัดพิจารณาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องยักยอกเงินโดยไม่ระบุจำนวนเงินที่ยักยอกแต่ละประเภท ศาลไม่อาจสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้
ฟ้องว่ายักยอกเงิน 2 ประเภท กล่าวบรรยายแต่ยอดรวมมาว่า รวมเป็นเงินเท่าใด โดยมิได้แยกออกเป็นรายประเภทไว้ เพราะไม่ปรากฎแน่ชัดว่ายักยอกประเภทละเท่าใด เมื่อฟังว่ายักยอกจริง แต่เงินประเภทหนึ่งได้ขาดอายุความฟ้องร้องเสียแล้วและทางพิจารณาก็ไม่ได้ความว่าประเภทที่ยังไม่ขาดอายุความเป็นเงินเท่าใด ดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยศาลกล่าวว่า ในชั้นนี้จำเลยจึงยังไม่ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์ที่ไม่ชัดเจนจำนวนที่ยักยอกและอายุความ
ฟ้องว่า ยักยอกเงิน 2 ประเภท กล่าวบรรยายแต่ยอดเงินรวมมาว่า รวมเป็นเงินเท่าใด โดยมิได้แยกออกเป็นรายประเภทไว้ เพราะไม่ปรากฏแน่ชัดว่ายักยอกประเภทละเท่าใด เมื่อฟังว่าจำเลยยักยอกจริง แต่เงินประเภทหนึ่งได้ขาดอายุความฟ้องร้องเสียแล้ว และทางพิจารณาก็ไม่ได้ความว่าประเภทที่ยังไม่ขาดอายุความเป็นเงินเท่าใด ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ศาลกล่าวว่า ในชั้นนี้จำเลยยังไม่ต้องคืนหรือใช้ทรัพย์ได้
of 29