คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สารกิจปรีชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 286 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ในคดีแขวง: โจทก์และจำเลยมีสิทธิเท่าเทียมกัน
คดีที่ศาลแขวงพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลย แต่รอการลงโทษไว้ ซึ่งเข้าข้อยกเว้นตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวง ฯลฯ มาตรา 22(2) ให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้นั้นย่อมมีความหมายรวมถึงทั้งโจทก์จำเลยมีสิทธิจะอุทธรณ์มิได้หมายถึงให้สิทธิเฉพาะจำเลยที่จะอุทธรณ์ได้แต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกง: การหลอกลวงปริมาณสินค้า แม้ผู้ซื้อไม่หลงเชื่อ ก็ยังเป็นความผิดฐานพยายาม
ความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 คือ การที่ผู้ซื้อหลงเชื่อในปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ เมื่อจำเลยหลอกลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าด้ายหลอดที่ขายยาว 200 หลา ซึ่งเป็นความเท็จถึงแม้ผู้ซื้อได้รู้ความจริงอยู่แล้วโดยมิได้หลงเชื่อก็ตาม ก็เป็นความผิดฐานพยายามตามมาตรา 81 เพราะเป็นเหตุให้การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสำเร็จ/พยายามในความผิดฐานหลอกลวงปริมาณสินค้า แม้ผู้ซื้อไม่หลงเชื่อ
ความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 คือ การที่ผู้ซื้อหลงเชื่อในปริมาณแห่งของนั้น อันเป็นเท็จ เมื่อจำเลยหลอกลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าด้ายหลอดที่ขายยาว 200 หลา ซึ่งเป็นความเท็จ ถึงแม้ผู้ซื้อได้รู้ความจริงอยู่แล้วโดยมิได้หลงเชื่อก็ตาม ก็เป็นความผิดฐานพยายามตามมาตรา 81 เพราะเป็นเหตุให้การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นด้วยถ้อยคำข่มขู่ต่อสามเณร ถือเป็นการดูหมิ่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393
ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวต่อสามเณรสองรูป ซึ่งหน้าเพราะเหตุที่ใช้ไปขอเทียนจากพระภิกษุรูปหนึ่งไม่ได้ ว่า "ถ้าไม่ไปเดี๋ยวกูจะเตะลงกุฎิให้หมด" นั้น เป็นถ้อยคำที่จำเลยกล่าวแก่บุคคลที่ประชาชนทั่วไปถือว่าควรเคารพกว่าบุคคลธรรมดา ฉะนั้น จึงไม่แต่เพียงจะเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพและข่มขู่เท่านั้น หากเป็นการดูหมิ่นตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ด้วย
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นผู้อื่นโดยใช้ถ้อยคำข่มขู่ต่อผู้ที่ควรเคารพ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393
ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวต่อสามเณรสองรูปซึ่งหน้า เพราะเหตุที่ใช้ไปขอเทียนจากพระภิกษุรูปหนึ่งไม่ได้ ว่า'ถ้าไม่ไปเดี๋ยวกูจะเตะลงกุฏิให้หมด' นั้นเป็นถ้อยคำที่จำเลยกล่าวแก่บุคคลที่ประชาชนทั่วไปถือว่าควรเคารพกว่าบุคคลธรรมดา ฉะนั้น จึงไม่แต่เพียงจะเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพและข่มขู่เท่านั้น หากเป็นการดูหมิ่นตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ด้วย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่เกี่ยวพันกับความผิดอื่น อัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกันเกี่ยวพันกันหรือต่อเนื่องกันกับความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควรและฐานใช้อาวุธปืนขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ตกใจกลัวตามความหมายในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องอาญา: ความผิดเกี่ยวพัน-ต่อเนื่อง ต้องมีมูลฟ้องเดียวกัน
ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกัน เกี่ยวพันกันนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกัน เกี่ยวพันกันหรือต่อเนื่องกันกับความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร และฐานใช้อาวุธปืนขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ตกใจกลัวตามความหมายในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองทรัพย์เช่าซื้อที่ไม่ตกเป็นของจำเลยก่อนจำนอง และเครื่องจักรไม่ใช่ส่วนควบของโรงสี
ผู้เช่าซื้อเอาเครื่องยนต์โรงสีจำนองไว้ในขณะที่ยังผ่อนส่งชำระราคาค่าเช่าซื้ไม่ครบนั้น เป็นการจำนองที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 705
เครื่องยนต์สีข้าวไม่ใช่ทรัพย์ส่วนควบของตัวโรงสี จำนองไม่ได้ ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 703
(หมายเหตุ ฎีกาที่อ้างถึง คือ ฎีกาที่ 610/2488 วินิจฉัยว่า เครื่องจักร์ทำน้ำโซดาและสิ่งอุปกรณ์ในการทำน้ำโซดา ไม่ใช่ส่วนควบของที่ดิน และว่าในหนังสือซึ่งระบุว่า ยกที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้นั้น ตามธรรมดาย่อมไม่รวมถึงสิ่งซึ่งไม่ใช่ส่วนควบของที่ดิน)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองทรัพย์เช่าซื้อ: ข้อจำกัดและข้อยกเว้น
ผู้เช่าซื้อเอาเครื่องยนต์โรงสี จำนองไว้ในขณะที่ยังผ่อนส่งชำระราคาค่าเช่าซื้อไม่ครบนั้นเป็นการจำนองที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 705
เครื่องยนต์สีข้าว ไม่ใช่ทรัพย์ส่วนควบของตัวโรงสี จำนองไม่ได้ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 703

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการเช่าอสังหาริมทรัพย์: ความชัดเจนของหลักฐานสำคัญกว่ารูปแบบ
ความประสงค์ของกฎหมายในเรื่องเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น ก็เพียงเพื่อความมั่นคงแน่นอนหาได้บังคับไว้ว่าต้องเขียนหรือทำในรูปหรือแบบอย่างใดไม่ หากกรณีมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดปรากฏแจ้งชัดพอรับฟังได้ศาลย่อมบังคับตามหลักฐานนั้นๆได้ฉะนั้นที่จำเลยทำหนังสือถึงโจทก์รับว่าค้างค่าเช่า และยังได้ทำคำให้การรับรองต่อมาด้วย ศาลบังคับให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างแก่โจทก์ได้
of 29