คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พจน์ ปุษปาคม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 759 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1226/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดชอบการกระทำของลูกจ้าง แม้ใช้รถที่ไม่ใช่ของตนเอง หากเป็นการใช้ในทางการที่จ้าง
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างขับรถดับเพลิงของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์ของบุคคลอื่นไปชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายนั้น หากปรากฏว่ารถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ ได้นำมาใช้ในกิจการของจำเลยที่ 2 และขับไปในทางการที่จ้างแล้ว จำเลยที่ 2 ก็ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเกวียนและกระบือที่ใช้ในการขนย้ายไม้ผิดกฎหมาย ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด
การใช้เกวียนและกระบือบรรทุกไม้แปรรูปผิดกฎหมายจากป่ามาไว้ที่เรือนนั้นเป็นการใช้เกวียนและกระบือเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด เกวียนและกระบือต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 18

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ลายมือและการใช้รายงานผล การวินิจฉัยของศาลตามรายงานของผู้เชี่ยวชาญ
จำเลยขอให้ส่งเอกสารอื่นกับหนังสือสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องไปยัง จ. (ซึ่งจำเลยระบุไว้ในบัญชีพยานแล้ว) ผู้ชำนาญการพิเศษ ให้พิสูจน์ลายมือชื่อเป้งว่าเป็นลายมือชื่อของคนคนเดียวกันหรือไม่ ศาลได้มีคำสั่งให้ส่งเอกสารไปให้ จ. พิสูจน์ดังจำเลยแถลงได้ ดังนี้ ถือได้ว่าได้มีการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญแล้ว เพราะศาลได้ออกคำสั่งกำหนดตัวผู้เชี่ยวชาญให้ทำการพิสูจน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 99 แล้ว
ตามมาตรา 130 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งผู้เชี่ยวชาญอาจแสดงความเห็นด้วยวาจาหรือเป็นหนังสือก็ได้ แล้วแต่ศาลจะต้องการ เมื่อศาลสั่งให้ผู้เชี่ยวชาญส่งผลแห่งการพิสูจน์เท่านั้น และโจทก์ก็มิได้เรียกร้องให้ศาลเรียกมาเพื่ออธิบายด้วยวาจาอีก ศาลย่อมวินิจฉัยตามหนังสือรายงานของผู้เชี่ยวชาญได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขข้อบกพร่องการฟ้องคดีโดยการแต่งทนายใหม่หลังยื่นฟ้องแล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในชั้นยื่นคำฟ้องนั้น แม้กรรมการของบริษัทจำกัดแต่เพียงผู้เดียวลงชื่อแต่งทนายความ เป็นการไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทก็ดี หากภายหลังได้มีการแต่งทนายใหม่โดยกรรมการของบริษัทจำกัดนั้นลงชื่อประทับตราถูกต้องครบถ้วนตามข้อบังคับแล้ว ศาลก็มีอำนาจอนุญาตให้มีการแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อให้ฟ้องนั้นสมบูรณ์ได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และอำนาจอนุญาตให้มีการแก้ไขนี้ก็ต้องเป็นเวลาภายหลังที่ได้ยื่นฟ้องแล้วเป็นธรรมดา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้คำให้การของผู้ต้องหาในฐานะพยานโจทก์เป็นหลักฐานลงโทษจำเลย: พยานหลักฐานต้องได้มาจากโจทก์เท่านั้น
ในคดีอาญานั้น พยานหลักฐานที่จะฟังลงโทษจำเลยได้ต้องเป็นพยานหลักฐานโจทก์ เมื่อจะเอาจำเลยเป็นผู้ต้องหาก็ต้องสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 การที่พนักงานสอบสวนจำเลยเป็นพยานในชั้นแรก จึงเป็นพยานที่มิชอบ จะนำคำให้การของจำเลยที่ให้การเป็นพยานในชั้นสอบสวนนั้นมาอ้างพิสูจน์ว่าจำเลยมีความผิดไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้คำให้การของผู้ต้องหาในฐานะพยาน การสอบสวนต้องกำหนดสถานะชัดเจน
ในคดีอาญานั้น พยานหลักฐานที่จะฟังลงโทษจำเลยได้ต้องเป็นพยานหลักฐานโจทก์ เมื่อจะเอาจำเลยเป็นผู้ต้องหาก็ต้องสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 การที่พนักงานสอบสวนสอบจำเลยเป็นพยานในชั้นแรก จึงเป็นพยานที่มิชอบ จะนำคำให้การของจำเลยที่ให้การเป็นพยานในชั้นสอบสวนนั้นมาอ้างพิสูจน์ว่าจำเลยมีความผิดไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจากการโอนทรัพย์สิน โมฆะกรรม และการแสดงเจตนาลวง
(1) ข้อต่อสู้ของจำเลยกับสิทธิของจำเลยนั้นเป็นคนละเรื่อง ด้วยเหตุนี้เอง แม้ในคดีเรื่องหนึ่งจำเลยจะได้เคยต่อสู้ คืออ้างว่าหนังสือสัญญาปลอม แต่ต่อมาคดีนั้นถึงที่สุด โดยศาลฟังว่าหนังสือสัญญานั้นไม่ปลอม และหนังสือสัญญาที่ว่านี้ได้ทำให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เพราะจำเลยได้รับรองกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นไว้ในหนังสือสัญญาดังกล่าวแล้วด้วยเช่นนี้ จำเลยก็ย่อมมีสิทธิตามที่บุคคลนั้นทำให้ไว้แก่จำเลยด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้น เมื่อจำเลยเสียหายในการที่บุคคลนั้นโอนขายอสังหาริมทรัพย์ที่กล่าวไปโดยสมยอมกับผู้ซื้อ จำเลยก็ย่อมมีสิทธิอ้างความเป็นโมฆะอันเกิดจากการซื้อขายในการสมยอมนั้นขึ้นต่อสู้คดีได้ (2) การแสดงเจตนาด้วยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งย่อมมีได้ในสัญญาทุกชนิด อันการทำกรมธรรม์สัญญาด้วยเจตนาลวง แม้จะทำที่อำเภอก็เป็นโมฆะ และไม่จำต้องขอให้เพิกถอน เพราะไม่เป็นนิติกรรมเสียแล้ว ผลก็เท่ากับไม่ได้ทำอะไรเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัย-เจตนาลวง: การต่อสู้สิทธิในคดีก่อนไม่ขัดสิทธิในคดีหลัง, นิติกรรมลวงเป็นโมฆะ
(1) ข้อต่อสู้ของจำเลยกับสิทธิของจำเลยนั้น เป็นคนละเรื่อง ด้วยเหตุนี้เองแม้ในคดีเรื่องหนึ่งจำเลยจะได้เคยต่อสู้คือ อ้างว่าหนังสือสัญญาปลอม แต่ต่อมาคดีนั้นถึงที่สุด โดยศาลฟังว่าหนังสือสัญญานั้นไม่ปลอม และหนังสือสัญญาที่ว่านี้ได้ทำให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เพราะจำเลยได้รับรองกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นไว้ในหนังสือสัญญาดังกล่าวแล้วด้วย เช่นนี้ จำเลยก็ย่อมมีสิทธิตามที่บุคคลนั้นทำให้ไว้แก่จำเลยด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้นเมื่อจำเลยเสียหายในการที่บุคคลนั้นโอนขายอสังหาริมทรัพย์ที่กล่าวไปโดยสมยอมกับผู้ซื้อจำเลยก็ย่อมมีสิทธิอ้างความเป็นโมฆะอันเกิดจากการซื้อขายในการสมยอมนั้นขึ้นต่อสู้คดีได้
(2) การแสดงเจตนาด้วยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งย่อมมีได้ในสัญญาทุกชนิด อันการทำกรมธรรม์สัญญาด้วยเจตนาลวง แม้จะทำที่อำเภอเป็นโมฆะ และไม่จำต้องขอให้เพิกถอน เพราะไม่เป็นนิติกรรมเสียแล้ว ผลก็เท่ากับไม่ได้ทำอะไรเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีประกันภัย: เมื่อจำเลยปฏิเสธเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ โจทก์ต้องนำสืบก่อน
โจทก์ฟ้องว่าภริยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้ในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุ และภริยาโจทก์ได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยต่อสู้ว่า ภริยาโจทก์ตายเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกวางแผนนำงูพิษมาให้กัดภริยาโจทก์ หรือนำภริยาโจทก์ไปให้งูพิษกัดตาย ดังนี้ เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าภริยา โจทก์ไม่ได้ตายเพราะถูกงูกัดเอง คือ ไม่เป็นอุบัติเหตุนั่นเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีประกันภัย: โจทก์ต้องพิสูจน์ความตายจากอุบัติเหตุเมื่อจำเลยปฏิเสธ
โจทก์ฟ้องว่า ภริยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้ในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุและภริยาโจทก์ได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยต่อสู้ว่าภริยาโจทก์ตายเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกวางแผนนำงูพิษมาให้กัดภริยาโจทก์ หรือนำภริยาโจทก์ไปให้งูพิษกัดตาย ดังนี้ เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าภริยาโจทก์ไม่ได้ตายเพราะถูกงูพิษกัดเองคือไม่เป็นอุบัติเหตุนั่นเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน
of 76