พบผลลัพธ์ทั้งหมด 290 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1878/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุก - การครอบครองที่ดินโดยสุจริต - ที่ดินสงวน - การพิพาทแพ่ง
จำเลยเข้าไปปลูกต้นยางพาราในที่ดินซึ่งกรมทางหลวงจองและขึ้นทะเบียนเป็นที่สงวนของทางราชการ โดยมีพฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้จำเลยหลงเข้าใจโดยสุจริตคิดว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นที่ดินสงวนหวงห้ามมาก่อน เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะเข้าถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์อันเป็นของผู้อื่นซึ่งจะเป็นความผิดทางอาญาฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดไม้ได้รับอนุญาต แม้ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อนตัดฟัน ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยขออนุญาตตัดฟันไม้หวงห้าม เจ้าพนักงานป่าไม้แขวงออกไปตรวจคัดเลือกตีตราประจำต้นที่จะอนุญาตให้ตัดฟันได้และก่อนที่จำเลยจะตัดฟันไม้นายอำเภอผู้มีอำนาจก็ได้มีคำสั่งอนุญาตตามที่ขอแล้วด้วย ต่อมาจำเลยตัดไม้นั้น แต่นายอำเภอออกใบอนุญาตให้หลังวันตัดไม้ เช่นนี้เห็นว่า จำเลยยังไม่มีเจตนาฝ่าฝืนตัดฟันไม้ไม่รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1764/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีหนองสาธารณ และการรบกวนการใช้ประโยชน์ แม้ไม่มีอำนาจฟ้องแสดงความเป็นหนองสาธารณ แต่โจทก์มีอำนาจฟ้องห้ามการรบกวนได้
เอกชนเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าหนองรายพิพาทเป็นหนองสาธารณ และขอให้สั่งห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการรบกวนก่อความเดือดร้อนเสียหายแก่โจทก์และประชาชนในหนองนี้ เพราะจำเลยกับพวกลงไปวิดน้ำจับปลาทำให้น้ำขุ่นเป็นปฏิกูล แม้ศาลจะวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตามคำขอข้อแรก แต่ศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยว่าหนองนี้เป็นหนองสาธารณ แล้วพิพากษาบังคับจำเลยตามคำขอข้อหลังนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสำคัญในการบุกรุกทำลายทรัพย์สิน: การกระทำโดยสุจริตเชื่อว่าทรัพย์สินเป็นของผู้อื่น ทำให้ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
เรือนพิพาทจะเป็นของโจทก์หรือไม่ก็ตาม แต่บุตรเขยโจทก์ยินยอมให้รื้อเรือนนี้ และบุตรเขยโจทก์ก็ได้มาอยู่จัดการรื้อเรือนด้วย จำเลยจึงรื้อ แสดงว่าจำเลยคิดว่าเรือนเป็นของบุตรเขยโจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 362 เพราะขาดเจตนาตามมาตรา 59 วรรค 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการรื้อถอนเรือน: การปฏิบัติหน้าที่สุจริตและเชื่อว่าเรือนเป็นของบุตรเขย ทำให้ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
เรือนพิพาทจะเป็นของโจทก์หรือไม่ก็ตาม แต่บุตรเขยโจทก์ยินยอมให้รื้อเรือนนี้และบุตรเขยโจทก์ก็ได้มาอยู่จัดการรื้อเรือนด้วย จำเลยจึงรื้อ แสดงว่าจำเลยคิดว่าเรือนเป็นของบุตรเขยโจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358,362 เพราะขาดเจตนาตามมาตรา 59 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง ฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดินโดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานกับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์ในคดีอาญา: นายสนามม้าองค์การทหารผ่านศึกมีฐานะเป็นผู้เสียหายได้
นายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึกมีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาคนทำงานและรับผิดชอบในกิจการแข่งม้า เมื่อเกิดมีการทุจริตยักยอกเงินของสนามม้าขึ้น นายสนามม้านั้นย่อมเป็นผู้เสียหายด้วย และมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจาพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์กรณีการยักยอกเงินของสนามม้า
นายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึก มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหลายของสนามม้า เช่นการอนุญาตให้แข่งม้า รายได้รายจ่ายผลกำไรขาดทุนการตรวจรับรองบัญชีเงิน และปกครองบังคับบัญชาคนงาน เมื่อมีผู้ยักยอกเงินของสนามม้าไป นายสนามม้านั้นย่อมเป็นผู้เสียหายด้วยและมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1663/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาข้อเท็จจริงหลังการตรวจสภาพสถานที่ - สิทธิในการโต้แย้งถูกจำกัดเมื่อศาลได้วินิจฉัยจากหลักฐานที่นำเสนอแล้ว
คดีฟ้องขับไล่ซึ่งคู่ความท้ากันให้ศาลไปตรวจห้องพิพาทโดยขอให้พิจารณาเองว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าทำการค้าหรือใช้อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่เพียงข้อเดียว นอกนั้นไม่ติดใจว่ากล่าวกันต่อไป แล้วให้ศาลพิพากษาไปตามนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยใช้ห้องพิพาททำการค้าเป็นส่วนใหญ่ เช่นนี้ จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงเช่นนั้นอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1441/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ ไม่ถือเป็นการจำนำ ยึดถือโดยมิชอบเป็นละเมิด
หนังสือที่เรียกว่าสัญญาโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ แต่ข้อความแสดงว่าผู้โอนไม่มีเจตนาโอนความเป็นเจ้าของรถยนต์ให้แก่ผู้รับโอน
โจทก์กับจำเลยทำหนังสือสัญญาไว้ต่อกัน มีความหมายว่าโจทก์ยอมให้รถยนต์เป็นประกันเงินที่โจทก์รับล่วงหน้าไป แต่คู่กรณีก็ตกลงให้รถยนต์อยู่ที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการจำนำ จำเลยจึงไม่มีอำนาจยึดถือรถยนต์ในฐานะผู้รับจำนำ ไม่มีสิทธิไปยึดเอารถยนต์ของโจทก์ตามลำพัง เมื่อไปยึดมาจึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์
โจทก์กับจำเลยทำหนังสือสัญญาไว้ต่อกัน มีความหมายว่าโจทก์ยอมให้รถยนต์เป็นประกันเงินที่โจทก์รับล่วงหน้าไป แต่คู่กรณีก็ตกลงให้รถยนต์อยู่ที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการจำนำ จำเลยจึงไม่มีอำนาจยึดถือรถยนต์ในฐานะผู้รับจำนำ ไม่มีสิทธิไปยึดเอารถยนต์ของโจทก์ตามลำพัง เมื่อไปยึดมาจึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์