คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สำราญ ศิริพันธ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 290 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้สักทำเป็นสิ่งปลูกสร้างไม่ต้องริบตามพ.ร.บ.ป่าไม้ หากไม่ใช่ไม้แปรรูป
ไม้สักที่ได้ทำเป็นบานประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง หาใช่เป็นไม้แปรรูปอันจะต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลก่อนพิพากษาห้ามอุทธรณ์ เว้นแต่มีการโต้แย้ง และศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งให้สืบพยานใหม่ได้
(1) ตามาตรา 226 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง นั้น หมายความว่าก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีนั้น ถ้ามิใช่คำสั่งมาตรา 227, 228 แล้วห้ามอุทธรณ์คำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณา แต่ถ้าได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวไว้ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ เมื่อศาลพิพากษาหรือชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว ฉะนั้น ถ้าไม่ได้แย้งไว้ ก็อุทธรณ์คำสั่งนั้นในภายหลังไม่ได้
(2) การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่น ของฝ่ายผู้ค้าน เป็นต้นนั้น ไม่ใช่คำสั่งตามมาตรา 227, 228 และถือว่าเป็นคำสั่งก่อนพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาด ตัดสินคดีห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 226
(3) นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจนถึงวันฟังคำสั่งตัดสินชี้ขชาดคดีซึ่งมีเวลาที่จะคัดค้านคำสั่งได้ถึง 10 วันนั้น ถือว่ามีเวลานานพอที่จะโต้แย้งแล้ว จึงอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งงดสืบพยานไม่ได้
(4) ผู้อุทธรณ์ได้อุทธรณ์คัดค้านคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ว่ารับฟังพยานหลักฐานไม่ชอบ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งยกคำสั่งชี้ขาดหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้วให้พิจารณาพิพากษาใหม่ได้ตามมาตรา 243 (2)
(ข้อ 3 ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหลังบอกเลิกสัญญา และข้อยกเว้นการยึดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 288 ให้อำนาจแต่เพียงร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึด ไม่มีข้อบัญญัติให้ผู้ร้องว่ากล่าวหรือเรียกร้องในกรณีอื่น เมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์หาว่าโจทก์จำเลยทำให้ผู้ร้องเสียหายและเรียกค่าเสียหายจากโจทก์จำเลยเนื่องจากการถูกยึดทรัพย์ ผู้ร้องก็ต้องเสนอข้อหาโดยทำเป็นคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 จะเรียกร้องมาในคำร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ทำสัญญารับจ้างเหมาสร้างทางไว้กับผู้ร้องขัดทรัพย์ก่อนถูกเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ โดยมีข้อกำหนดในสัญญาว่า "ถ้ามีการเลิกสัญญาโดยผู้รับจ้างเหมาผิดสัญญาด้วยประการใด ๆ สัมภาระสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของผู้รับจ้างเหมาที่นำไปไว้ในบริเวณที่ก่อสร้าง ผู้รับจ้างเหมายอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างทั้งหมด ผู้รับจ้างเหมาจะนำเอาไปไม่ได้" และมีข้อสัญญาให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ในเมื่อผู้รับจ้างเหมาผิดสัญญา ดังนี้ เมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้บอกเลิกสัญญาโดยจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา สัมภาระสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ถูกยึดโดยเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างตามข้อกำหนดในสัญญา แม้ถึงว่าการบอกเลิกสัญญานั้นจะกระทำภายหลังที่โจทก์ได้ยึดทรัพย์นี้แล้วก็ตาม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิให้ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน: แม้สภาพเปลี่ยนไปแต่ยังคงเป็นที่หลวงหวงห้าม โอน/อ้างอายุความไม่ได้
กำแพงเมืองและคูเมืองซึ่งทางราชการทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและแสดงการหวงห้ามเป็นที่หลวงตลอดมา มิได้ปล่อยให้กลายสภาพเป็นที่ร้างว่างเปล่า แม้ต่อมาที่นั้นจะกลายสภาพไม่เป็นกำแพงเมืองหรือคูเมือง แต่เมื่อทางราชการยังคงถือว่าเป็นที่หลวงหวงห้ามตลอดมานั้น ที่นั้นก็ยังคงเป็นที่หลวงหวงห้ามอยู่ ที่นั้นจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งจะโอนแก่กันไม่ได้ และจะยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305,1306 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่หลวงหวงห้ามเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้สภาพเปลี่ยนไปก็ยังโอนหรือยกอายุความไม่ได้
กำแพงเมืองและคูเมืองซึ่งทางราชการทำขึ้น เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและแสดงการหวงห้ามเป็นที่หลวงตลอดมา มิได้ปล่อยให้กลายสภาพเป็นที่รกร้างว่างเปล่า แม้ต่อมาที่นั้นจะกลายสภาพไม่เป็นกำแพงเมือง หรือคูเมือง แต่เมื่อทางราชการยังคงถือว่าเป็นที่หลวงหวงห้ามตลอดมานั้น ที่นั้นก็ยังคงเป็นที่หลวงหวงห้ามอยู่ ที่นั้นจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งจะโอนแก่กันไม่ได้ และจะยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305, 1306 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อบกพร่องในฟ้องอาญา: วันที่ผิดพลาดทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ ศาลต้องยกฟ้องหากไม่ขอแก้ฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดวันที่ 35 เห็นได้ชัดว่าจำเลยจะกระทำผิดในวันที่โจทก์กล่าวหานั้นไม่ได้ หากโจทก์มิได้ขอแก้ฟ้องเสียให้ถูกต้องก่อน ศาลชั้นต้นพิพากษา ศาลก็ต้องยกฟ้อง และศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องเสียให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161 ก็ไม่ได้ เพราะฟ้องของโจทก์กล่าวความครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 เป็นฟ้องที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยืมเงินทดรองของทางราชการไม่ใช่การยืมเงินทั่วไป หากนำไปใช้ผิดประเภท ถือเป็นความผิดอาญา แม้มีระเบียบให้ฟ้องทางแพ่งได้
จำเลยเป็นเจ้าพนักงาน ได้ยืมเงินทดรองเพื่อนำไปซื้อสิ่งของตามหน้าที่ของจำเลยแต่เอาเงินไปใช้เสีย ดังนี้เป็นความผิดทางอาญาแล้ว เพราะการยืมเงินทดรองของทางราชการหรือเทศบาลหามีลักษณะเหมือนการยืมเงินธรรมดาในระหว่างเอกชนด้วยกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือสละกรรมสิทธิ์ที่ดินยังไม่ถือเป็นการเสียกรรมสิทธิ์จนกว่าจะมีการทำถนนจริง
เอกสารที่ใส่ชื่อ ว่าหนังสือสละกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อสร้างถนนสาธารณะ และมีข้อความว่า เจ้าของที่ดินในตรอกตากสิน1 ทุกคนยินดียอมสละกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อสร้างถนนตากสิน1 ได้ ตามแต่ทางการจะต้องการมากหรือน้อยโดยไม่ขัดข้อง ท้ายหนังสือลงนามบุคคล 9 คน โดยระบุว่าเป็นผู้สละกรรมสิทธิ์ ดังนี้ มิใช่แสดงว่าเจ้าของที่ดินได้สละที่ดินเป็นทางสาธารณไปแล้ว เมื่อเทศบาลเพิ่งทำถนนแต่ยังไม่ได้ทำผ่านที่ดินของจำเลยผู้รับมรดกจากผู้ทำหนังสือดังกล่าวนั้น ยังถือไม่ได้ว่าที่ดินของจำเลยตกไปเป็นทางสาธารณะแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้และการหักกลบลบหนี้: ฟ้องขาดอายุความ แม้มีการตกลงหักกลบลบ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 บัญญัติถึงลักษณะหนี้ที่อาจจะหักกลบลบกันได้ หนี้ที่ขาดอายุความแล้วก็อาจหักกลบลบกันได้ ถ้าในเวลาที่จะหักกลบลบกันนั้น สิทธิเรียกร้องยังไม่ขาดอายุความ แต่ถ้าเป็นกรณีที่ฟ้องเรียกหนี้เงินที่เหลือจากหักกลบลบหนี้กันแล้ว จะปรับด้วยมาตรานี้ทำให้ฟ้องนั้นไม่ขาดอายุความไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หักกลบลบหนี้ & อายุความ: ผลต่อการฟ้องเรียกหนี้ที่เหลือ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 บัญญัติถึงลักษณะหนี้ที่อาจจะหักกลบลบกันได้ หนี้ที่ขาดอายุความแล้ว ก็อาจหักกลบลบกันได้ ถ้าในเวลาที่จะหักกลบลบกันนั้นสิทธิเรียกร้องยังไม่ขาดอายุความ แต่ถ้าเป็นกรณีที่ฟ้องเรียกหนี้เงินที่เหลือจากหักกลบลบหนี้กันแล้ว จะปรับด้วยมาตรานี้ ทำให้ฟ้องไม่ขาดอายุความไม่ได้
of 29