พบผลลัพธ์ทั้งหมด 290 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานแทนเอกสารสูญหายในคดีหย่าและการแบ่งสินสมรส ศาลต้องอนุญาตหากจำเลยพิสูจน์ความพยายามในการหาเอกสาร
โจทก์ฟ้องขอหย่ากับจำเลย จำเลยให้การว่า โจทก์กับจำเลยได้หย่ากันแล้วโดยทำหนังสือหย่า ในชั้นสืบพยาน จำเลยย่อมอ้างได้ว่าเอกสารการหย่าสูญหายไป ขอนำสืบพยานบุคคลแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ก) โดยสืบให้ฟังได้ด้วยว่าจำเลยไม่สามารถนำเอกสารนั้นมาแสดงเสียแล้วทั้งนี้โดยจำเลยไม่จำต้องกล่าวไว้ในคำให้การด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบเอกสารสูญหายในคดีหย่า: จำเลยมีสิทธิขอสืบพยานบุคคลแทนเอกสารได้ แม้ไม่ได้กล่าวไว้ในคำให้การ
โจทก์ฟ้องขอหย่ากับจำเลย จำเลยให้การว่าโจทก์กับจำเลยได้หย่ากันแล้วโดยทำหนังสือหย่า ในชั้นสืบพยาน จำเลยย่อมอ้างได้ว่าเอกสารการหย่าสูญหายไป ขอนำสืบพยานบุคคลแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 (ก) โดยสืบให้ฟังได้ด้วยว่าจำเลยไม่สามารถนำเอกสารนั้นมาแสดงเสียแล้ว ทั้งนี้ โดยจำเลยไม่จำต้องกล่าวไว้ในคำให้การด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่เกิดจากการสมยอมฉ้อฉลเจ้าหนี้
โจทก์มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนทำลายสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลที่จำเลยสมยอมกันทำขึ้นเพื่อการฉ้อฉลให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความเนื่องจากฉ้อฉลและการสมยอมกันเพื่อทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
โจทก์มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนทำลายสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลที่จำเลยสมยอมกันทำขึ้นเพื่อการฉ้อฉลให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดินมรดกและอายุความ การพิพากษาศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ที่ขัดแย้งกัน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของ 2 ส่วน ราคา 2,000 บาท ในที่ดินมือเปล่าแปลงหนึ่ง จำเลยไปแจ้งการครอบครองเอาเป็นของจำเลย ขอให้พิพากษาทำลายแบบ ส.ค. 1 ของจำเลยและห้ามจำเลยเกี่ยวข้องศาลชั้นต้นฟังว่า ที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์กับผู้อื่นร่วมกัน แต่จำเลยได้แย่งการครอบครองเกิน 1 ปีแล้ว โจทก์หมดสิทธิฟ้องเอาคืน พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจะถือว่าจำเลยแย่งการครอบครองยังไม่ถนัด แต่ยังไม่ได้ความชัดพอให้ชี้ขาดว่าส่วนของโจทก์มีเพียงใด จึงพิพากษายืนในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะดำเนินคดีเรียกร้องใหม่ ดังนี้ มีผลเป็นการพิพากษากลับกันมา ไม่ใช่ยืน จำเลยจึงฎีกาในข้อเท็จจริงได้ และเมื่อศาลฎีกาเห็นพ้องกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ก็ย่อมพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดินมรดก และผลของการพิพากษากลับกันระหว่างศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของ 2 ส่วน ราคา 2,000 บาท ในที่ดินมือเปล่าแปลงหนึ่ง จำเลยไปแจ้งการครอบครองเอาเป็นของจำเลยขอให้พิพากษาทำลายแบบส.ค.1 ของจำเลยและห้ามจำเลยเกี่ยวข้องศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์กับผู้อื่นร่วมกันแต่จำเลยได้แย่งการครอบครองเกิน 1 ปีแล้วโจทก์หมดสิทธิฟ้องเอาคืนพิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์เห็นว่าจะถือว่าจำเลยแย่งการครอบครองยังไม่ถนัดแต่ยังไม่ได้ความชัดพอให้ชี้ขาดว่าส่วนของโจทก์มีเพียงใดจึงพิพากษายืนในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะดำเนินคดีเรียกร้องใหม่ ดังนี้มีผลเป็นการพิพากษากลับกันมาไม่ใช่ยืนจำเลยจึงฎีกาในข้อเท็จจริงได้และเมื่อศาลฎีกาเห็นพ้องกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ก็ย่อมพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายมรดกตามช่วงเวลาที่เจ้ามรดกเสียชีวิต
มรดกหรือการแบ่งมรดกจะมีขึ้นได้ต่อเมื่อบุคคลถึงแก่ความตายฉะนั้นเมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตายในขณะใช้กฎหมายใด ก็ต้องตกอยู่ในบังคับแห่งกฎหมายซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้น
เป็นสามีภริยากันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5-6แต่ตายจากกันภายหลังใช้ บรรพ 5-6 แล้ว ต้องแบ่งมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6
เป็นสามีภริยากันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5-6แต่ตายจากกันภายหลังใช้ บรรพ 5-6 แล้ว ต้องแบ่งมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายที่ใช้บังคับกับมรดก: ใช้กฎหมาย ณ เวลาที่เจ้ามรดกเสียชีวิต
มรดกหรือการแบ่งมรดกจะมีขึ้นได้ต่อเมื่อบุคคลถึงแก่ความตาย ฉะนั้น เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตายในขณะใช้กฎหมายใด ก็ต้องตกอยู่ในบังคับแห่งกฎหมายซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้น
เป็นสามีภริยากันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5-6 แต่ตายจากกันภายหลังใช้ บรรพ 5-6 แล้วต้องแบ่งมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6.
เป็นสามีภริยากันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5-6 แต่ตายจากกันภายหลังใช้ บรรพ 5-6 แล้วต้องแบ่งมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีอาวุธปืนสงคราม การอ้างเหตุเคยได้รับอนุญาตไม่ลบล้างกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามตามกฎกระทรวงไว้โดยมิได้รับอนุญาตจำเลยรับสารภาพศาลสอบโจทก์ โจทก์แถลงว่าทางราชการเคยอนุญาตให้ผู้ที่ครอบครองปืนชนิดนี้จดทะเบียนให้มีและใช้ได้ ยังมีราษฎรที่ได้รับอนุญาตมีและใช้ปืนนี้ได้
เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องย่อมหมายความว่า รับว่ามีปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามจะอ้างคำแถลงของโจทก์มาลบล้างกฎกระทรวงฯไม่ได้ คงมีผลเพียงเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษเท่านั้น
เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องย่อมหมายความว่า รับว่ามีปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามจะอ้างคำแถลงของโจทก์มาลบล้างกฎกระทรวงฯไม่ได้ คงมีผลเพียงเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้เคยมีอนุญาตก่อนหน้าก็ไม่ลบล้างกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามตามกฎกระทรวงไว้โดยมิได้รับอนุญาต จำเลยรับสารภาพ ศาลสอบโจทก์ โจทก์แถลงว่าทางราชการเคยอนุญาตให้ผู้ที่ครอบครองปืนชนิดนี้จดทะเบียนให้มีและใช้ได้ ยังมีราษฎรที่ได้รับอนุญาตมีและใช้ปืนนี้ได้อยู่
เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ย่อมหมายความว่า รับว่ามีปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม จะอ้างคำแถลงของโจทก์มาลบล้างกฎกระทรวงฯ ไม่ได้ คงมีผลเพียงเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษเท่านั้น
เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ย่อมหมายความว่า รับว่ามีปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม จะอ้างคำแถลงของโจทก์มาลบล้างกฎกระทรวงฯ ไม่ได้ คงมีผลเพียงเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษเท่านั้น